สุนทรียปรัศนีตามแนวทางแห่งอริยมรรค-อุทัยวรรณ...

44
สุนทรียปรัศนี : ปฏิบัติการสูความเปนเลิศของทีมงาน อุทัยวรรณ กาญจนกามล Appreciative Inquiry: Best Practice of Teamwork สถาบันเสริมสรางพลังชุมชน ________________________________________________________________________________________ 1 สุนทรียปรัศนี ปฏิบัติการสูความเปนเลิศของทีมงาน/องคกร/ชุมชน ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------- อุทัยวรรณ กาญจนกามล

Upload: institute-for-community-empowerment

Post on 12-Jan-2015

241 views

Category:

Documents


2 download

DESCRIPTION

สุนทรียปรัศนี เป็น ปรัชญา แนวคิดและระบวนการทำงานร่วมกันเป็นหมู่คณะ ที่อาศัยการตั้งคำถามที่เสริมสร้างพลัง การมองโลกในเชิงบวกและการใช้ปัญญาที่มีอยู้ในตนเอง ผู้คน องค์กรและชุมชน มาต่อยอดไปสู่การกระทำที่สร้างสรรค์สังคม ตามแนวแห่งอริยมรรค ซึ่งเป็นหนึ่งในอริยสัจ4 ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า อุทัยวรรณ กาญจนกามลเป็นผู้รจนาและเรียบเรียง แนวคิดตะวันออกในวิถีแห่งพุทธะบูรณาการกับตะวันตก โดยใช้แนวคิดของเดวิด โคออบเปอริเดอร์ ในappreciative Inquiryเป็นแนวทางในการพัฒนา ทีมงาน องค์กร ชุมชนและสังคม ซึ่งเป็นอาศัยการพัฒนาที่เช้าถึงผู้ผนโดยใช้จุดแข็งเป็นฐาน(Strength-Based Development)

TRANSCRIPT

Page 1: สุนทรียปรัศนีตามแนวทางแห่งอริยมรรค-อุทัยวรรณ กาญจนกามล

สุนทรียปรัศนี: ปฏิบัติการสูความเปนเลิศของทีมงาน ฯ อุทัยวรรณ กาญจนกามล Appreciative Inquiry: Best Practice of Teamwork สถาบันเสริมสรางพลังชุมชน ________________________________________________________________________________________

1

สุนทรียปรัศนี ปฏิบัติการสูความเปนเลิศของทีมงาน/องคกร/ชุมชน

-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------อุทัยวรรณ กาญจนกามล

Page 2: สุนทรียปรัศนีตามแนวทางแห่งอริยมรรค-อุทัยวรรณ กาญจนกามล

สุนทรียปรัศนี: ปฏิบัติการสูความเปนเลิศของทีมงาน ฯ อุทัยวรรณ กาญจนกามล Appreciative Inquiry: Best Practice of Teamwork สถาบันเสริมสรางพลังชุมชน ________________________________________________________________________________________

2

สุนทรียปรัศนี ปฏิบัติการสูความเปนเลิศของทีมงาน/องคกร/ชุมชน

(การเปล่ียนแปลงในทางที่ด ีนําไปสูสิ่งท่ีดกีวา และดีท่ีสุดของทีมงาน องคกร ชุมชนและสังคม)

บทนํา:เราควรเฉลิมฉลองระบบที่ดีของชีวิตหรือคิดแตจะแกไขปญหาขององคกร ? สุนทรียปรัศน(ีAppreciative Inquiry) ไดรับการกลาวขานในฐานะเปน

นวัตกรรมทางความคิดที่โดดเดนในตนศตวรรษที่ 21 วาเปนการปฏิวัติเงียบของการพัฒนาไปสูสิ่งที่ดีกวา ทั้งในเรื่องการพัฒนาทีมงาน องคกรและชุมชน โดยกาวขาม “การจัดการที่ใชปญหาเปนตัวตั้ง”อยางสิ้นเชิง ไปสูการใชภูมิปญญา ศักยภาพ และการมองโลกในเชิงบวก ของผูคนในทีมงาน องคกรและชุมชนมาเปนปจจัยสําคัญ และเปนกระบวนการในการพัฒนา ซึ่งกลายเปนประเด็นการวิจัยปฏิบัติการที่กาวหนาในทศวรรษที่ผานมา ทั้งในเรื่องของ ปรัชญาการเรียนรู กระบวนการจัดการเพื่อเกิดการเปลี่ยนแปลงองคกร ชมุชนและสังคมตลอดจนแนวทางในการพัฒนาภาวะผูนํา และความสามารถในตัวมนุษย อะไรคือสุนทรียปรัศนี? คําวา สุนทรียปรัศนี (Appreciative Inquiry) มาจาก:

สุนทรียะ (Appreciation) - ความรูสึกซาบซึ้ง ชื่นชม - การรูคุณคาดวยความขอบคุณ - การเพิ่มคุณคา ดั่งการสะสมเงินตรา

ปรัศนี (Inquiry) - การคนหา เพื่อความเขาใจ

- คําถามที่แสดงความอยากรู อยากเหน็

Page 3: สุนทรียปรัศนีตามแนวทางแห่งอริยมรรค-อุทัยวรรณ กาญจนกามล

สุนทรียปรัศนี: ปฏิบัติการสูความเปนเลิศของทีมงาน ฯ อุทัยวรรณ กาญจนกามล Appreciative Inquiry: Best Practice of Teamwork สถาบันเสริมสรางพลังชุมชน ________________________________________________________________________________________

3

ความหมายของ สุนทรียปรัศนี โดยรวมคือ การรวมกันศกึษา และคนใหพบสิ่งที่ดีที่สุดในผูคน องคกรและโลกรอบตัวเขา อยางเปนระบบ วา อะไรคือปจจัยสําคัญที่เสริมสรางระบบชีวิตใหมีประสิทธิผลสูงที่สุด เปนกระบวนการตั้งคําถามในเชิงบวกเทานั้น ดวยเจตนาที่จะใหเกิดการสนทนา ที่จะคนหาทุกสิ่งที่“ใหชีวิต”แกองคกร ชุมชน หรือระบบของมนุษย ที่ใหญกวานั้น ในยามที่เกดิความชีวิตชีวา สรางสรรค และเขมแข็งที่สุด ในระบบนิเวศที่มีสัมพันธภาพเกื้อหนุน กันและกัน ทั้งในเชิงเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรมและสิ่งแวดลอม หากกลาวใหกระชับ สุนทรียปรัศนี เปนกระบวนการคนพบสิ่งที่ดีที่สุดที่เคยคิด เคยทํา หรือเคยมี ในระบบชีวิตของผูคน องคกรและชุมชน แลวนําไปกําหนดวิสัยทัศนในการทํางาน ออกแบบวางแผน ตลอดจนกําหนดชะตากรรมรวมกัน

เริ่มตนจากการตั้งวงสนทนา สัมภาษณกันและกัน การมีโอกาสไดซักถามกัน ดวยคําถามที่ชวนใหคิด ทําใหเกิดความรูสึกภาคภูมิใจในตัวเอง มีโอกาสไดมองโลกในดานบวก รูสึกวาตัวเองมีศักยภาพ มีพลัง และความสามารถ ดวยการสือ่สาร 2 ทางในบรรยากาศที่ดี ทําใหผูคนสามารถสรางจินตนาการรวมกันไดวา ถาองคกรอยูในภาวะที่ดีที่สุด อะไรจะเกิดขึ้น ซึ่งนําไปสูการกําหนดวิสัยทัศนรวมกัน ออกแบบการทํางาน บรรลุขอตกลงและ วางแผนรวมกัน มีการพัฒนาทักษะที่จําเปน การจัดโครงสรางขององคกร การกําหนดทาทีและสัมพันธภาพที่ดีตอกันใหม การทํางานรวมกันอยางมีชีวิตชีวาและประเมินผลในคุณคาของสิ่งที่ไดทํารวมกันเพื่อเสริมสรางพลังทีมงานในที่สุด

สุนทรียปรัศนี จึงเปนทั้งปรัชญา การเสริมสรางความคิด ที่ปลุกเราใหคนเกิดการเสริมสรางจากภายในตนเอง ภายใตความรูสึกวามีตัวตน เกิดความบันดาลใจใหรวมกนัคิด เนรมิตนวัตกรรม เหนี่ยวนําใหเกิดปฏิบัติการ และสรางรากฐานการพัฒนาไปในตัว

สุนทรียปรัศนี เปนกระบวนการคนพบสิ่งที่ดีท่ีสุดที่เคยคิด เคยทํา หรือเคยมี ในระบบชีวิตของผูคน องคกรและชุมชน แลวนําไปกําหนดวิสัยทัศนในการทํางาน ออกแบบวางแผน ตลอดจนกําหนดชะตากรรมรวมกัน

Page 4: สุนทรียปรัศนีตามแนวทางแห่งอริยมรรค-อุทัยวรรณ กาญจนกามล

สุนทรียปรัศนี: ปฏิบัติการสูความเปนเลิศของทีมงาน ฯ อุทัยวรรณ กาญจนกามล Appreciative Inquiry: Best Practice of Teamwork สถาบันเสริมสรางพลังชุมชน ________________________________________________________________________________________

4

สุนทรียปรัศนีคือกระบวนการคนหา เพื่อใหพบสาเหตุท่ีเปนรากเหงาแหงความสําเร็จ มากกวารากเหงาแหงความลมเหลว

สุนทรียปรัศนี คือ “วิธีวิทยา” วาดวยการพัฒนาชุมชน

องคกร หรือทีมงาน ซึ่งอาศัยคติฐานที่วา

การตั้งคําถามที่เสริมสรางพลัง ในขณะที่มีการสนทนา

ในเรื่องที่เกี่ยวของกับความ ความสําเร็จ

ความหวัง คุณคาและจินตนาการ คือการเสริมสรางพลัง ใหแก

ทีมงาน องคกร หรือ ชมุชนนั้นเอง สุนทรียปรัศนี

เนนการสรางบรรยากาศ ใหมองโลก

จากมุมมองที่สดใส ซึ่งการมองโลก

ในทางบวกจะมีพลัง ดั่งแมเหล็ก

ที่สามารถเหนี่ยวนํา ใหเกิดการกระทําที่ดี

ตามมา.....

ทุกขไมใชปญหา หากมีสติปญญารูเทาทัน

Page 5: สุนทรียปรัศนีตามแนวทางแห่งอริยมรรค-อุทัยวรรณ กาญจนกามล

สุนทรียปรัศนี: ปฏิบัติการสูความเปนเลิศของทีมงาน ฯ อุทัยวรรณ กาญจนกามล Appreciative Inquiry: Best Practice of Teamwork สถาบันเสริมสรางพลังชุมชน ________________________________________________________________________________________

5

รูปแบบของสุนทรียปรัศนีนั้นมีหลากหลาย แตอาศัยคติฐาน(Assumptions) 8 ประการเหมือนกันคือ 1. ในทุกสังคม องคกร หรือกลุม ยังมบีางอยางยังใชการได 2. สิ่งไหนที่เราเพงอยู สิ่งนั้นมักเกิดขึน้ไดจริง 3. สภาพที่เปนจริงเกิดขึ้นในชวงเวลาใดเวลาหนึ่ง และเรื่องที่เกิดขึ้นก็มหีลายเรื่องราว 4. การตั้งคําถามที่เสริมสรางพลังใจมกัมีอิทธิพลตอกลุม ไมทางใดก็ทางหนึ่ง 5. ผูคนจะเดินทางไปสูอนาคตที่เขายังไมรูอยางมีความเชื่อมั่น และสบายใจมากขึ้น หากเขาไดพกพาอดีตบางอยางที่เขารูติดตัวไปดวย 6. หากเขาสามารถพกพาอดีตไปได เขาควรจะเลือกเอาอดีตที่ดีท่ีสุดไปดวย 7. ความหลากหลายคือความงดงาม 8. ภาษาที่เราใชสามารถสรางสภาพที่เปนจริงได (จากThe Thin Book of Appreciative Inquiry, Annis Hammond, S.) ในขณะเดียวกันสุนทรียปรัศนี แมจะมีหลากหลายรูปแบบ แตก็มี 5 กระบวนการ(process)เปนพื้นฐานสําคัญคือ 1. มีการตั้งคําถามที่เนนในเชิงบวก

2.เจาะจงถามแตเฉพาะเรื่องที่จะกอใหเกิดพลังใจไฟชีวิต

3. มีการแจงหัวขอที่ปรากฏตามเรื่องราว และเลือกประเด็นที่นําไปสูคําถามตอไป

4. มีการรวมกันสรางจินตภาพในอนาคต

5.คนหาวธีิการทํางานที่มีลักษณะเปนนวัตกรรมรวมกัน (จาก Appreciative Inquiry : Change at the speed of Imagination )

Page 6: สุนทรียปรัศนีตามแนวทางแห่งอริยมรรค-อุทัยวรรณ กาญจนกามล

สุนทรียปรัศนี: ปฏิบัติการสูความเปนเลิศของทีมงาน ฯ อุทัยวรรณ กาญจนกามล Appreciative Inquiry: Best Practice of Teamwork สถาบันเสริมสรางพลังชุมชน ________________________________________________________________________________________

6

หลักการของสุนทรียปรัศน ี (Principle of Appreciative Inquiry) • คนแตละคนมีพรสวรรค ความสามารถ ความถนัดไมอยางใดก็อยางหนึ่ง สิ่งนั้นจะกอใหเกิดคุณคาและประโยชนอยางอเนกอนันต หากรูจักนํามาใช ใหเกิดคุณภาพและพลังชีวิต อยางมีศิลปะและมีประสิทธิผล • ทีมงาน และองคกรคือระบบสังคมของมนุษย เปนระบบที่มีชีวิต และมีการ

เจริญเติบโต เปนขุมพลังอันยิ่งใหญ ที่มีความสามารถอยางไมมีขีดจํากัด ข้ึนอยูกบับทบาท ทวงทํานอง ลีลา และทาทีขององคกรหรือชุมชนนัน้เองเปนสําคัญ

• หากเราสามารถสรรคสรางภาพลักษณแหงอนาคตไดและเมื่อเรากําหนดรวมกันได ชะตากรรมอันบรรเจิดก็เริ่มขึ้น และนําไปสูปฏิบัติการแหงสติปญญา ดวยวิถีแหงการสื่อสารอันทรงพลังของมนุษย โดยเริ่มจากการตั้งคําถามที่เสริมสรางพลัง การสนทนาและการปรึกษาหารือ

• ผูคนจะปรับเปลี่ยนวิธีคิด วิธีทําใหมจากเดิมที่เคยวิเคราะหสาเหตุแหงปญหา และอาศัยปญญาปฏบิัติ ซึ่งเปนสิ่งที่เคยสราง เคยทําในชวงที่ดีที่สุด มาเปนตัว กําหนด ความเปนไปไดในอนาคต • อนาคตอันงดงาม จะบังเกิดขึ้นไดในขณะที่มีการตั้งคําถามที่เสริมสรางพลังใจ

ใหผูคนไดมีโอกาส และเวลามาคิด รวมกัน รวมทั้งมีการแลกเปลี่ยนเรียนรูกนั ในวงสนทนา • การชื่นชมเหน็คุณคา ของสิ่งที่ดทีี่สุดที่เรามี กับการตั้งคําถามที่จุดประกาย ให

เห็นถึงสิ่งดีที่สุดที่มีอยู จะกลายเปนพลังมหาศาล ผลักดันใหกอกําเนิดไฟชีวิตที่ลุกโชนโชตชิวงนําไปสูการเปลี่ยนแปลงองคกร ชุมชนและสงัคม

ดังนั้น สุนทรียปรัศนี จึงเปน กระบวนการการจุดประกายใหเหลามนุษย สามารถจัดการและเปลี่ยนแปลงตัวเอง ครอบครัว องคกรหรือชุมชน ของเขาเองไดจากประสบการณที่ดีที่สุดที่เขารับรู เคยทําและภาคภมูิใจ

Page 7: สุนทรียปรัศนีตามแนวทางแห่งอริยมรรค-อุทัยวรรณ กาญจนกามล

สุนทรียปรัศนี: ปฏิบัติการสูความเปนเลิศของทีมงาน ฯ อุทัยวรรณ กาญจนกามล Appreciative Inquiry: Best Practice of Teamwork สถาบันเสริมสรางพลังชุมชน ________________________________________________________________________________________

7

ความแตกตางระหวางการพัฒนา โดยการใชปญหาและความออนแอกับการใชปญญาและความเขมแข็งเปนตัวต้ัง

♦♦ ระบุปญหาระบุปญหาใหชัดเจนใหชัดเจน

♦♦ วิเคราะหรากเหงาของปญหาวิเคราะหรากเหงาของปญหา

♦♦ ระดมความคิดระดมความคิดและหาและหาแนวแนวทางแกไขปญหาทางแกไขปญหา

♦♦ จัดทําแผนจัดทําแผน เยียวยาเยียวยา และและ รองรับรองรับ//ลดปญหาลดปญหา

คําอุปมาคําอุปมา:: ชุมชนชุมชน//องคกรคืองคกรคืออ........ แหลงของปญหาที่จะตองแกไขแหลงของปญหาที่จะตองแกไข

♦♦ คนใหพบ คนใหพบ ซาบซึ้งซาบซึ้ง ชื่นชมกับชื่นชมกับ““สิ่งที่ดีสิ่งที่ดีท่ีสุดที่เคยมีหรือมีอยูแลวท่ีสุดที่เคยมีหรือมีอยูแลว””

♦♦ จินตนาการถึงจินตนาการถึง””สิ่งดีๆสิ่งดีๆ ท่ีจะเกิดขึ้นท่ีจะเกิดขึ้น ในอนาคตในอนาคต””

♦♦ ออกแบบสรรคสรางถึงสิ่งดีออกแบบสรรคสรางถึงสิ่งดี ๆๆ ในอุดมคติวาในอุดมคติวา““ควรจะควรจะทําทําอะไรอะไร””

♦♦ สรางสรรคสรางสรรค ““สิ่งดีเพื่อชีวิตและสิ่งดีเพื่อชีวิตและสังคมสังคม””โดยวางบทบาทใหสโดยวางบทบาทใหสมาชิกมาชิกทํางานรวมกันอยางรวมหัวจมทายทํางานรวมกันอยางรวมหัวจมทาย

คําอุปมคําอุปมาา:: ชุมชนชุมชน//องคกรคือองคกรคือ ““สายไยแหงความเขมแขง็สายไยแหงความเขมแขง็””ท่ีท่ีสานกันไดสานกันไดดวยดวย ความสามารถความสามารถ และและขุมพลังขุมพลังท่ีมีอยูเดิมท่ีมีอยูเดิม

การใช “ปญหา”เปนตัวตั้ง การใช “ปญญา”เปนตัวตั้ง (เปลี่ยนโดยอาศัยความบกพรองเปนฐาน) (นวัตกรรมที่อาศัยความเขมแข็งเปนฐาน)

Page 8: สุนทรียปรัศนีตามแนวทางแห่งอริยมรรค-อุทัยวรรณ กาญจนกามล

สุนทรียปรัศนี: ปฏิบัติการสูความเปนเลิศของทีมงาน ฯ อุทัยวรรณ กาญจนกามล Appreciative Inquiry: Best Practice of Teamwork สถาบันเสริมสรางพลังชุมชน ________________________________________________________________________________________

8

สุนทรียปรัศนีกอใหเกิดผลลัพธท่ีดีกวาการคนหาปญหาและจัดการแกไข เนื่องจากศิลปะในการตั้งคําถามที่ชื่นชูใจ จะกอใหเกิดการเสริมสรางความสามารถ และกําลังใจผูคนนับรอยนับพันซึ่งมาประชุมในที่เดียวกัน เปดโอกาสใหผูคนในที่ประชุมไดรวมกันใชจินตนาการและสรางนวัตกรรม แทนการวิพากษ เสียดสี และกลาวถึง ความพกพรอง พลั้งพลาด ความออนแอ หรือปญหา ทั้งปวง “สุนทรียปรัศนีจึงขึ้นอยูกับศิลปะของการตั้งคําถาม โดยแท !” การตั้งคําถามในวงสนทนา ที่มีผลลพัธในทางบวก จะเสริมสรางพลังใจ และพลังชวิีต ทําใหความรู ความสามารถ พรสวรรค ที่มีแฝงอยูแลวทั่วทุกตัวคน ไดผุดพรายออกมาเปนที่ประจักษ ผลที่ตามมาก็คือ เกิดการเสริมสรางกําลังใจที่มีอยูแลวใหมีมากขึ้น มีความมั่นใจ ภาคภูมิใจ ความเชื่อมั่นในตัวเองมากยิ่งขึ้น และทําใหเกิดความคิดริเริ่มสรางสรรคที่จะประกอบกิจสาธารณะอยางขันอาสา จึงมีความสําคัญเปนอยางยิ่ง วงจร ของสุนทรียปรัศนี(Appreciative Inquiry) The 4D Model

รวมออกแบบรวมออกแบบ ทํางานอยางสุนทรียทํางานอยางสุนทรีย

((DDeessiiggnn))

รวมคนพบ สิ่งดีแลวชื่นชม (Discovery)

รวมสรางสรรค สิ่งดีเพ่ือสังคม

(Destiny)

รวมทอฝนรวมทอฝน อยางสมศักด์ิศรีอยางสมศักด์ิศรี ((DDrreeaamm))

Page 9: สุนทรียปรัศนีตามแนวทางแห่งอริยมรรค-อุทัยวรรณ กาญจนกามล

สุนทรียปรัศนี: ปฏิบัติการสูความเปนเลิศของทีมงาน ฯ อุทัยวรรณ กาญจนกามล Appreciative Inquiry: Best Practice of Teamwork สถาบันเสริมสรางพลังชุมชน ________________________________________________________________________________________

9

ภายหลังการเลือกประเด็นที่ไปในทางบวกชัดเจนแลว (Positive Topic Choice) สุนทรียปรัศนีมีวงจรการทํางาน 4 ระยะ ไดแก ระยะที่ 1 รวมคนพบสิ่งดีที่สุดแลวชื่นชม (Discovery)

เริ่มจากตั้งคําถามกระตุนใหผูตอบคิดจากประสบการณของตนเองในชวงที่ดีที่สุด สะทอนความคิดนั้นออกมา และคนหาปจจัยที่กอใหเกิดความสําเร็จนั้นตามมา จุดแข็งที่สุด ความถนัดที่สุด สินทรัพยที่มีคาที่สุด คุณคาที่มากที่สุด และอุดมคติ สิ่งทั้งหลายเรียกรวมกันวา “แกนแกนที่ดี” (Positive core) โดยใชสมองซีกขวา

ระยะที่ 2 รวมถักทอฝนอยางสมศักดิ์ศรี (Dream) กระบวนการสรางสรรคนี้กระตุนใหผูตอบจินตนาการถึงสิ่งที่คาดหวัง ในอนาคตรวมกัน เมื่อมองกลับไปสูจุดที่ดีที่สุดแลว จะใชมันพกพาไปสูสิ่งที่ปรารถนา ในอนาคตรวมกัน

ระยะที่ 3 รวมออกแบบสรรสรางอยางสุนทรีย (Design) ระบบทั้งหมดจะถูกจัดวาง ดังแบบ สถาปตยกรรม ความคิดในทางสรางสรรคจะไหลหลั่ง พรั่งพรูออกมาจากสมองดานขวา

ระยะที่ 4 รวมสรางสรรคสิ่งดีเพื่อสังคม (Destiny) เปนการวางเงื่อนไข ลักษณะพันธสัญญา ที่จะรวมกําหนดบทบาท หนาที่ ตามกําลัง ความสามารถ ความถนดั และทักษะและกอใหเกิดการรวมทาํงาน และการประเมินผลรวมกันของทีมงาน องคกรและชุมชน ซึ่งสามารถจะใชสมองทั้งสองขางอยางมีดุลยภาพ

“งานของผูนําที่เยี่ยมยุทธคือ การทําใหเกิดแนวทางแหงความเขมแข็งขึ้น ในองคกรและผูคน แลวทําใหความออนแอออกไปพนจากสารบบ” -ปเตอร ดรักเกอร

Page 10: สุนทรียปรัศนีตามแนวทางแห่งอริยมรรค-อุทัยวรรณ กาญจนกามล

สุนทรียปรัศนี: ปฏิบัติการสูความเปนเลิศของทีมงาน ฯ อุทัยวรรณ กาญจนกามล Appreciative Inquiry: Best Practice of Teamwork สถาบันเสริมสรางพลังชุมชน ________________________________________________________________________________________

10

การทํางานตามแนวทางแหงสุนทรียปรัศนีนั้น ไมไดจงใจ ละเลย เพิกเฉย หรือหนีปญหา เพียงแตเราจะเขาถึงและจัดการกับมัน ในอีกวิถีทางหนึ่ง ที่ใชปญญาซึ่งมีอยูแลวและการมองโลกในแงดี เปนเคร่ืองมือสองนําทางชีวิตและการทํางาน -อุทัยวรรณ กาญจนกามล

คติฐานวาดวยการเปลี่ยนแปลง ถาเราเปลีย่นกรอบความคิด เราก็จะเปลี่ยนความเชื่อได ถาเราเปลีย่นความเชื่อ เราก็จะเปลี่ยนความคาดหวังไดถาเราเปลีย่น ความคาดหวงั เราก็จะเปลี่ยนทัศนคติไดถาเราเปลีย่น ทัศนคติ เราก็จะเปลี่ยนพฤติกรรมไดถาเราเปลีย่น พฤติกรรม เรากจ็ะเปลี่ยนผลงานไดถาเราเปลีย่น ผลงาน เราก็จะเปลี่ยนชวิีตเราได

Page 11: สุนทรียปรัศนีตามแนวทางแห่งอริยมรรค-อุทัยวรรณ กาญจนกามล

สุนทรียปรัศนี: ปฏิบัติการสูความเปนเลิศของทีมงาน ฯ อุทัยวรรณ กาญจนกามล Appreciative Inquiry: Best Practice of Teamwork สถาบันเสริมสรางพลังชุมชน ________________________________________________________________________________________

11

บทบาทของทีมงานผูนําการเปลี่ยนแปลงที่เรียกวา...วิทยากรกระบวนการ(Facilitator) กระบวนการ “สุนทรียปรศันี”จําเปนตองอาศัยทีมงานนวัตกรที่มีความสามารถ หากเราปรารถนาจะเปน“ทีมงานมือฉมัง” ที่จะไปชวยจัดเวทีชาวบานใหมีบรรยากาศที่ ริเริ่มสรางสรรค สนุกสนาน มีชีวิตชวีา เพื่อสนับสนุนใหเกิดโครงการพัฒนาชุมชน ในอนาคตที่มีฐานมาจากประสบการณของชุมชน เปนของชุมชน โดยชุมชน เพื่อชุมชน บทบาทของทีมงาน ของเรา

1) เราคือ“คุณอํานวย”ผูเอื้ออํานวยใหผูคนมีความสุข และทํางานอยางสนุกสนาน” เราเปนผูเอื้ออํานวยใหผูคนในชุมชนตางสนทนาพูดคุยกันในเวทีชาวบาน

• ดวยความสนุกสนาน มีชีวิตชีวา • ในลีลาแหงประชาธิปไตย • กําหนดใหพวกเราเทาเทียมกัน • เคารพในชาติพันธุ ไมแบงเพศ • ชางสังเกต และจดจํา • ทุกสิ่งทํา ลวนดีมีความภาคภูมิใจ • พยายามฟง อยางเขาอกเขาใจ • อยูภายในเวลาที่กระชับ

ไมเพียงเทานั้น ..ทีมงานของเรายังมีบทบาทเปนผูนําการเปลี่ยนแปลงในยุคสมัยของเรา อาทิ... 2 “คุณประสาน นิ่งแนวแน” ทําหนาที่ประสานสัมพันธใหเกิดความเขาใจ บรรยากาศการทํางานลื่นไหลไมติดขัด คอยยืนหยัดรับฟงความเห็นจากหลายฝาย 3 “คุณกระแส ชนะขาด” ทําหนาที่กอกระแสกลุมพลังเพื่อใหการประชุมดาํเนินไปตามวัตถุประสงค และทําใหภารกิจดําเนินไปสูเปาหมายที่กําหนดรวมกัน และ 4 “คุณองอาจ เสริมสรางพลัง” ทําหนาที่ใหทีมงานใหกําลังใจกันและกันเพื่อทําใหบรรยากาศของการทํางานมีความสนุกสนานมีชีวิตชีวา และเติมพลังใหกันและกัน

Page 12: สุนทรียปรัศนีตามแนวทางแห่งอริยมรรค-อุทัยวรรณ กาญจนกามล

สุนทรียปรัศนี: ปฏิบัติการสูความเปนเลิศของทีมงาน ฯ อุทัยวรรณ กาญจนกามล Appreciative Inquiry: Best Practice of Teamwork สถาบันเสริมสรางพลังชุมชน ________________________________________________________________________________________

12

คําถามที่เสริมสรางพลังทีมงาน องคกรและชมุชน (Empowering Questions For Teamwork / Community) สุนทรียปรัศนีตอนที่ 1

1. รวมกันคนพบสิ่งดีแลวชื่นชม รวมสนทนากันเปนคูๆ เริ่มตนโดยการผูกมิตรแลวถามคําถามที่เสริมสรางพลังใจ

1. สะทอนความคิดกันและกัน และผลัดเปลี่ยนกันฟงอยางตั้งใจ ตัวอยางของคําถามที่เสริมสรางพลังใจ * ทานเคยทําอะไรดีๆ ในชีวิตที่รูสึกภาคภูมิใจที่อยากเลาสูกันฟง? ( หากมีอยูแลวอยางมากมาย กรุณา เลือกเรื่องที่ประทับใจที่สุด มชีีวิตชีวา, มีความสุข แตกตางจากเรื่องอื่น เปนเรื่องสรางสรรค รูสกึวามีคุณคาที่มีโอกาสไดทํา) * เรื่องที่ทานมีความรูสึกภาคภูมิใจนี้.....มใีครเกี่ยวของบาง อยางไร ? * ทานรูสึกวาประสบความสําเร็จอะไรบาง ? อยางไร? *มีปจจัยสําคัญใดบางที่อํานวยใหทานทําแลวประสพผลสําเร็จ ?

2. ลองระบุฉากที่มีสัมพันธภาพที่ดีตอกัน สักฉากหนึ่งที่มีการทํางานรวมกันอยางมีความสุขแลวต้ังคําถาม

• ฉากนั้นเปนเรื่องอะไร? • มีใครเขามาเกี่ยวของบาง? • ทําไมจึงทําไดสําเร็จ? • คุณทําอะไรบางตอนนั้น? • ผูที่เขามาเกี่ยวของ มีบทบาท ไดทําอะไรบาง? 3. ทามกลางความสําเร็จที่เกิดขึ้นนั้นมีการสื่อสารเปนแบบไหน ? 1. มีการสื่อสารกันยังไงบาง ในองคกรที่แตกตาง/หลากหลาย? 2. คุณคิดวาอะไรมีคาที่สุด สําหรับการมีการสื่อสาร ที่มีประสิทธิผล?

Page 13: สุนทรียปรัศนีตามแนวทางแห่งอริยมรรค-อุทัยวรรณ กาญจนกามล

สุนทรียปรัศนี: ปฏิบัติการสูความเปนเลิศของทีมงาน ฯ อุทัยวรรณ กาญจนกามล Appreciative Inquiry: Best Practice of Teamwork สถาบันเสริมสรางพลังชุมชน ________________________________________________________________________________________

13

3. มันเกิดอะไรขึ้นกับตัวทานบาง? 4. ทําไม การสื่อสารอยางมีประสิทธิผล จึงมีสําหรับทาน และคนใน องคกรของทาน? 4. อะไรคือความหวังสําหรบัอนาคต? 1. องคกรใหมของเราควรจะมีความสามารถอะไรบาง? 2. หากรวมทํางานดวยกัน ทานคิดวาจะมีอะไรแตกตางไปจากเดิมบาง และแตกตางยังไง? 3. คุณเห็นอะไรบาง หลังจากที่มีการจัดลําดับความสําคัญ? 4. คุณจะมีบทบาทเลนในสวนไหนที่จะทําใหสิ่งเหลานั้นเปนจริง?

5. คุณเห็นคุณคาอะไรมากที่สุด? 5.1)ในตัวคุณเอง? 5.2) ในคนทีคุ่ณทํางานรวมดวย ? (เพื่อนรวมงาน ผูรับบริหาร ลูกคา คูหู) 5.3) องคกร ของคุณ?

สุนทรียปรัศนีตอนที่ 2 “รวมถักทอฝนอยางสมศักด์ิศรี” ตัวอยางของคําถามที่เสริมสรางพลังใจใหรวมกันกําหนดวิสัยทัศนขององคกร/ชุมชน

o ใน5ปขางหนา กลุมของทานอยากจะเห็นอะไรเกิดขึ้น กับองคกรของทานกับงานของ

ทาน ทานอยากมีความสามารถ และบทบาทอะไรบางที่จะทําใหรูสึกวา ตัวเรามีคุณคา ในองคกร

o ในปพ ศ.2555 พวกเราควรจะไดรับการกลาวขานวาดีที่สุดในเรื่องอะไร? o เราเห็นตัวเองอยูในขอเสนอนั้นหรือไม? o หาก แมนเลือก“เสก” เองได 3 หน ทานอยากจะเห็นองคกร /

ชุมชนของเรา มีอะไรบาง/ ทั้งในเรื่อง หนาที่ และหนาตาขององคกร/ขุมชน

Page 14: สุนทรียปรัศนีตามแนวทางแห่งอริยมรรค-อุทัยวรรณ กาญจนกามล

สุนทรียปรัศนี: ปฏิบัติการสูความเปนเลิศของทีมงาน ฯ อุทัยวรรณ กาญจนกามล Appreciative Inquiry: Best Practice of Teamwork สถาบันเสริมสรางพลังชุมชน ________________________________________________________________________________________

14

การสรางบรรยากาศการเรียนรูในที่ประชุม 1. เพื่อใหเกิดบรรยากาศของการสรางจินตนาการรวมกัน การนําเขาสูการประชุมตอนนี้ควรมีการเตรียมการใหพรอม อาทิ การกลาวนํา เสียงเพลงประกอบ แสงไฟ และสีของหองควรมีลักษณะผอนคลาย ทําใหเกิดสมาธิ และ ควรปดสัญญาณรบกวนทุกชนิด 2 การจัดกลุม เกาอี้ โตะและกระดานสําหรบติดบัตรคํา ใหทํางานรวมกันเปนกลุมยอยที่สะดวก สบาย ภายในหองประชุม 2.ใชเทคโนโลยีการมีสวนรวม การประชุมเชิงปฏบิัติการ

เริ่มจากการบอกกติกา และบทบาทของกลุม การตั้งคําถาม การใหเขียนบัตรคํา การใหเวลาที่พอเหมาะในการจินตนาการ การนําบัตรคํามาเปนสื่อในการสนทนา การระดมความคิดของผูคนลงในกระดาษปรุฟผืนใหญ การจัดกลุมบัตรคํา การจัดลําดับความสําคัญของประเด็นที่จะทําใหเกิดความเห็นพองตองกัน การสรางจินตนาการที่ทําใหเกิดการมีสวนรวม โดยอาศัยการทําแผนที่ความคิด การชวยกันวาดภาพในจินตนาการ การตอเติมแผนที่ทําใหเกิดความสวยงาม เปนระเบียบและสามารถบงบอกถึงสิ่งที่ผูคนตองการใหเกิดขึ้นในอนาคตดั่ง “แผนที่พูดได” สุนทรียปรัศนี ตอนที่3 “รวมออกแบบทํางานอยางสุนทรียะ” ภายใตบรรยากาศของการสนทนาอยางรื่นรมยสนุกสนาน มีตุกตาให 7 ตวั ที่จะลองใชผูกเรื่องใหพูดคุยกันออกรสในเรื่องตาง ๆ เพื่อจะโยงไปสูเรื่องการออกแบบทํางานรวมกัน 1. คุณคาที่กลุมเห็นรวมกัน (Shared Values) - หากจะทํางานรวมกนัเปนทีมที่สามารถ ภาวะผูนํา และการจัดการภายในทีม

นาจะเปนยังไง? 2. ยุทธวิธีการทํางาน (Strategy) - กระบวนการตัดสินใจรวมกันเปนทีมควรจะมีลักษณะอยางไรบาง? 3.โครงสรางขององคกร(Organizational structure)

Page 15: สุนทรียปรัศนีตามแนวทางแห่งอริยมรรค-อุทัยวรรณ กาญจนกามล

สุนทรียปรัศนี: ปฏิบัติการสูความเปนเลิศของทีมงาน ฯ อุทัยวรรณ กาญจนกามล Appreciative Inquiry: Best Practice of Teamwork สถาบันเสริมสรางพลังชุมชน ________________________________________________________________________________________

15

- องคกรของเรา / ทีมของเรานา จะมีหนาตาเปนยังไง ? 4. ระบบการทํางาน(System)

– เราควรจะมีการการจัดการภายในกันยังไงจึงจะถือวาใหเกียรติกันและกนั ? 5. คณะทํางาน (Staff)

- เราจะพัฒนาทีมงานกันยังไงจึงจะถือวามีความสามารถ (ทีมในฝน!)? 6.ทักษะการทํางาน (Skills) - เรามีกระบวนการอะไรบางที่จะนําความสามารถของพวกเรามาใชรวมกันอยาง

ชาญฉลาด ? 7. ลีลาการทาํงาน (Style)

-ลีลาของกลุมในเรื่องการทํางาน อาทิ การประสานงาน การสื่อสารและ การทํารายงานนาจะเปนอยางไร? -เราจะมีทาทีที่ดีตอกันอยางไร เพื่อจรรโลงสัมพันธภาพใหแนนแฟนและยั่งยืน? -ทําอยางไรเราจึงจะถนอมน้ําใจกันกันและกัน ? -ทําอยางไรเราจึงจะทํางานฝาฟนอุปสรรครวมกันอยาง“ลมหัวจมทาย” ?

โครงขายขององคประกอบสําคัญที่กอใหเกิดความเปลี่ยนแปลง ภายในองคกร/ชุมชน

คุณคาท่ีกลุม เห็นรวมกัน

ทักษะ

ยุทธวิธี การทํางาน

ลีลา การทํางาน

โครงสราง ขององคกร

ระบบ การทํางาน

คณะทํางาน

Page 16: สุนทรียปรัศนีตามแนวทางแห่งอริยมรรค-อุทัยวรรณ กาญจนกามล

สุนทรียปรัศนี: ปฏิบัติการสูความเปนเลิศของทีมงาน ฯ อุทัยวรรณ กาญจนกามล Appreciative Inquiry: Best Practice of Teamwork สถาบันเสริมสรางพลังชุมชน ________________________________________________________________________________________

16

การวางแผนปฏิบัติการรวมกัน เริ่มคิดกาวแรก ดวยจิตวิญญาณ การขันอาสา ทํางานกันเปนทีม • ใคร ถนัด / สนใจ / มีความสามารถอะไร?

จัดทําทําเนียบความสามารถ ประสบการณ ความถนัด พรสวรรคของตัวเอง ในกลุม ความสนใจ ความหวัง ความใฝฝน

(มีแบบฟอรมใหกรอก ) * ในกลุมของทาน สนใจจะทําประเด็นใดใหเดนชัด? เขียนในลักษณะ เขียนโครงการเล็กๆ * เรื่องที่พวกทานสนใจจะทํา จัดลําดับความสําคัญ แตละเรื่องเดียว ในระยะ 2เดือน ตอจากนี้ Why - ทําไปทําไม? To Whom - ทํากับใคร ? What - ทําอะไรบาง ? So What - ทําแลวอะไร ? When - ทํากันเมื่อไหร ? Where - ทําที่ไหน ? How - ทําอยางไร ? Who -ใครเปนคนทํา ?

Page 17: สุนทรียปรัศนีตามแนวทางแห่งอริยมรรค-อุทัยวรรณ กาญจนกามล

สุนทรียปรัศนี: ปฏิบัติการสูความเปนเลิศของทีมงาน ฯ อุทัยวรรณ กาญจนกามล Appreciative Inquiry: Best Practice of Teamwork สถาบันเสริมสรางพลังชุมชน ________________________________________________________________________________________

17

แผนระยะสั้น ( เรื่องที่จะทําจริง ภายใน 2 เดือน จากนี้ไป)

กิจกรรมหลกั (what)

เมื่อใด (when)

ทําอยางไร (how)

ทําแลวไดอะไร (so what?)

ท่ีไหน (where)

ใครรับผิดชอบ (who do)

1 2 3

แผนระยะกลาง ( เรื่องที่จะทําจริง ภายใน 1ป จากนี้ไป)

กิจกรรมหลกั (what)

เมื่อใด (when)

ทําอยางไร (how)

ทําแลวไดอะไร (so what?)

ท่ีไหน (where)

ใครรับผิดชอบ (who do)

1 2 3 4

แผนระยะยาว ( เรื่องที่จะทําจริง ภายใน 5 ป จากนี้ไป)

กิจกรรมหลกั (what)

เมื่อใด (when)

ทําอยางไร (how)

ทําแลวไดอะไร (so what?)

ท่ีไหน (where)

ใครรับผิดชอบ (who do)

1 2 3 4 5

Page 18: สุนทรียปรัศนีตามแนวทางแห่งอริยมรรค-อุทัยวรรณ กาญจนกามล

สุนทรียปรัศนี: ปฏิบัติการสูความเปนเลิศของทีมงาน ฯ อุทัยวรรณ กาญจนกามล Appreciative Inquiry: Best Practice of Teamwork สถาบันเสริมสรางพลังชุมชน ________________________________________________________________________________________

18

กาวที่ 2 รวม ไตรตรองกับทีมคนทํางาน พิจารณา แผนที่รวมกันออกแบบ 1. แลกเปลี่ยนแบงปนคุณคา ภาวะผูนําและการจัดการ? 2. ยุทธวิธี ภาระหนาที่และรูปแบบของการทํางาน 3. โครงสราง จะจัดการกันในทีมยงัไง 4. ระบบ มีงานอะไร / ใหใครทํา /ยังไง? 5. คณะทํางาน จะพัฒนาทีมงานอะไรบาง/ยังไง? 6. ทักษะ มีใครทําในสิ่งที่ถนัดอะไรบาง 7. ลลีา / จะมีชนิดการสือ่สารกัน / อะไรบาง /ยังไง • ประชุมกัน • ใช E mail • ใช Blog • ใช จดหมาย • ใช โทรศัพท / มือถือ และทายที่สุด มอบหมายภารกิจ เรื่องอะไร / ใหใครทํา /ทํายังไง/เมื่อไหร? สุนทรียปรัศนีตอนที่4 รวมกันสรรคสรางสิ่งดีเพื่อสังคม(Destiny) ทีมงาน มีนวัตกรรม การทํางานอะไร ยังไง รวมกัน

1. ) มีการตัดสินใจอะไรกนับางภายในทีมงาน? ที่เตรียมตั้งใหเราทํางานกันเปนทีมเรา มียุทธวิธีการทํางานอะไรบาง ? อะไรที่ทําให เราคิดวา เราทํางานสําเร็จ? เราจะทราบไดอยางไรวา มีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นจากการทํางาน? 2. เราสื่อสาร สิง่ที่เราจะทํา เหลานี้อยางไร กับใคร เมื่อไหร ? 3. มีปจจัยสําคัญซึ่งเปนกุญแจ ไขไปสูความสําเร็จบาง? ใครทํา ริเริ่มอยางสรางสรรคคือยางไร? เมื่อไหร ? มีกระบวนการทํางานอยางไร? มีบรกิารอะไรเกิดขึ้นบาง?

Page 19: สุนทรียปรัศนีตามแนวทางแห่งอริยมรรค-อุทัยวรรณ กาญจนกามล

สุนทรียปรัศนี: ปฏิบัติการสูความเปนเลิศของทีมงาน ฯ อุทัยวรรณ กาญจนกามล Appreciative Inquiry: Best Practice of Teamwork สถาบันเสริมสรางพลังชุมชน ________________________________________________________________________________________

19

4. มีขั้นตอนอะไรบางที่ทานจําเปน ตองเขาไปรวมทํา ตอองคกรของทานและเราจะบายหนาไปทางไหน?

อานิสงคท่ีไดจากสัมพันธภาพของการเรียนรูเพื่อการเปลี่ยนแปลงรวมกัน(Transformational Learning: TL) ที่มตีอสุนทรียปรัศนี (Appreciative Inquiry: I)

- การเรียนรูเพื่อการเปลี่ยนแปลง เปนทฤษฏีวาดวยการอธิบายถึงคนๆหนึ่งจาก เคลื่อนตัวไปสูความเปลี่ยนแปลง แบบความรูแจง (Enlightened Change ) รูโลก รูชีวิต ตอมาเมื่อมีประสบการณกับสิ่งนั้นมาแลว (Lived Experience) การเลาเรื่องราว และการสนทนาธรรม เปนหัวใจสําคัญของทั้ง 2 เรื่อง (TL+AI)

- เรื่องราวที่เปนอดีต เปนเรื่องจริง และอนาคตที่ฝนใฝ จะผูกเงื่อนเขาดวยกัน

เรื่องราวของอดีตที่เปนจุดแข็ง หรือเปนอุปสรรค จะมีสัมพันธภาพ ตอการพัฒนาองคกรหรือบุคคล ซึ่งเปนเรื่องการเปดเผยคุณคา และความเชื่อในสิ่งนั้นจนกลายเปนนิสัยของจิตใจซึ่งเชื่อมโยงไปสูความมีชีวิตขององคการที่เปลี่ยนแปลงดวย

ดังนั้น โดยวิถีแหงสุนทรียปรัศนีก็คือ.......ตอหนามวลมิตร • ไดโปรดแสดงความชื่นชม สิ่งที่มนษุยและโลกรอบกายเรามีในสวนดีที่สุด • ไดโปรดรับรูถึงสิ่งที่ดีงาม ตอชีวิต สขุภาพ ความมีชีวิตชีวาและความเปนเลิศ

ในตัวตนและชุมชนของทานเอง • ไดโปรดเห็นพองรับรองยืนยัน ความสําเร็จ ความเขมแข็ง สินทรัพย และ

ศักยภาพที่เรามีอยูดวยการ จดบันทึก ทําทําเนียบไวใหเปนระบบ • ไดโปรด เพิม่คุณคาของสิ่งนั้นใหมากยิ่งขึ้น (ดวยการลงทุนกับมันใหสุดจิต

สุดใจ แทจริงแลว ไมวาองคกรชุมชนหรือ แวดวงธุรกิจใดก็ตามสามารถ กอใหเกดิกําไรจากสิ่งที่มีคุณคา ดวยการชื่นชมของคุณ ยอมรับนับถือมันใหมากขึ้น ผูคนทั่วโลก ตางแสวงหาและกระหายที่จะไดรับการยอมรับและอยากใหผูอ่ืนมาชื่นชมในสิ่งที่ตนมีหรือทําใหดีที่สุด

Page 20: สุนทรียปรัศนีตามแนวทางแห่งอริยมรรค-อุทัยวรรณ กาญจนกามล

สุนทรียปรัศนี: ปฏิบัติการสูความเปนเลิศของทีมงาน ฯ อุทัยวรรณ กาญจนกามล Appreciative Inquiry: Best Practice of Teamwork สถาบันเสริมสรางพลังชุมชน ________________________________________________________________________________________

20

บทสงทาย สุนทรียปรัศนีเนนที่มรรค ๘ไดแก สัมมาทิฐ ิ ความเห็นชอบ (Right View) สัมมาสังกปัปะ ความคิดชอบ (Right Thought) สัมมาวาจา พูดชอบ (Right Speech) สัมมากัมมนัตะ กระทําชอบ (Right Act) สัมมาอาชีวะ เลี้ยงชีพชอบ (Right livelihood) สัมมาวายามะ พยายามชอบ (Right Effort) สัมมาสติ ต่ืนรูชอบ (Right Mindfulness) สัมมาสมาธิ ต้ังมั่นชอบ (Right Meditation) และที่สุดแหงสุนทรียปรัศนีคือ • กระบวนการจุดประกายใหเกิดการเปลี่ยนแปลงในทางบวก

- ความคิดของมนุษยในยุคที่ผานมาติดอยูกับการเห็นโลกในทางลบ ตางฝายตางก็เห็นโลกและอยูกับโลกอยางทุกขระทม หดหู สิ้นหวัง ลมเหลว คนแลวคนเลา รุนแลวรุนเลา

- สิ่งทาทายใหมแหงความคิด และการกระทาํของเราบนโลกใบนีก้็คือ มุมมองใหม ความรูสึกใหม ความคิดใหมและการกระทําใหมที่แตกตางไปจากเดิมอยางสิ้นเชิง “ทุกสิ่งดี อยูที่ใจ”

- ผูคนตางตองการทํางานโดยใชเรี่ยวแรง และพลังของเขาที่มีในงานที่พวกเขารับรูวามันมีคุณคา

• ผูนําการเปลี่ยนแปลง สามารถจะนําคุณคาสิ่งที่ดีงามในตัวมนุษยมาใชใหเกิดประโยชนสงูสุด

• พวกเขาสืบเสาะคนหาวิถีทางในการผสมผสานสิ่งที่ยิ่งใหญที่มีในตัวเขาในชีวิตประจําวัน

• ในองคการใหญ ผูคนที่ทํางานใหกับองคการตางก็โหยหาคําชม และการแสดงความขอบคุณ รวมไปถงึความซาบซึ้งในความมานะพยายามของผูทํางาน จากผูถือหุนและคณะกรรมการบริหาร

Page 21: สุนทรียปรัศนีตามแนวทางแห่งอริยมรรค-อุทัยวรรณ กาญจนกามล

สุนทรียปรัศนี: ปฏิบัติการสูความเปนเลิศของทีมงาน ฯ อุทัยวรรณ กาญจนกามล Appreciative Inquiry: Best Practice of Teamwork สถาบันเสริมสรางพลังชุมชน ________________________________________________________________________________________

21

• แทนที่จะนําเอาความลมเหลว ข้ึนมาชําแหละบนโตะจนถึงแกนวามีปจจัยใดที่กอใหเกิดแลวบรรจงแกไขมัน ซอมแซมมันดังที่เคยคิดเคยทํามา เราจะติดตามคนหาสิ่งดีงาม และชื่นชมมันเริ่มตนดวยการถามหามันอยางจริงจัง

และ.....สิ่งที่กอใหเกดิความเปลี่ยนแปลงในทางที่ดงีามนั้นเนือ่งมาจาก “ศรัทธา4” คือ ศรัทธาในตนเอง มีความเชื่อมั่น เคารพ นับถือตนเองและความสามารถที่ตนมีอยู ศรัทธาในทีมงาน มีความเชื่อมั่นในผูรวมงานมีสุขรวมเสพมีทุกขรวมตาน ศรัทธาในวิธีคิดและวิธีการทํางาน ถึงแมจะตองเผชิญกับอุปสรรคก็ยังยืนหยัดมั่นคง ศรัทธาในการทําดี ถือวาเมื่อทําดีแลว “ดี” ทั้งในเบื้องแรก ทามกลางและในทายที่สุด

Page 22: สุนทรียปรัศนีตามแนวทางแห่งอริยมรรค-อุทัยวรรณ กาญจนกามล

สุนทรียปรัศนี: ปฏิบัติการสูความเปนเลิศของทีมงาน ฯ อุทัยวรรณ กาญจนกามล Appreciative Inquiry: Best Practice of Teamwork สถาบันเสริมสรางพลังชุมชน ________________________________________________________________________________________

22

บรรณานุกรม The Thin Book of Appreciative Inquiry, Annis Hammond, S. Plano, TX: Kodiak Consulting 1996. Appreciative Inquiry: Rethinking Human Organization Toward a Positive Theory of Change. Cooperider, D., Sorenson, P. F., Whitney, D., & Yaeger, T. F., Champaign, IL: Stripes Publishing L.L.C 1999. Appreciative Inquiry and Relationships in Prison, Punishment and Society, Alison Liebling, David Price and Charles Elliott 1, 1, pp. 67-94, 1999. Appreciative Inquiry, Diana Whítney and David L. Cooperrider, Ó Walter Bruck - Consulting for Humane Business Development - Germany. Last Update 22. Desember 1999 Appreciate Inquiry: Change at the Speed of Imagination, Magruder Watkins, J. & Mohr, B.,San Francisco:Jossey-Bass Publishers, Inc,2001. Appreciative Inquiry: Change at the Speed of Imagination, J. Watkins and B. Mohr Copyright,John Wiley &Sons, Inc. ISBN 0-7879-5179-X ,2001. Using Appreciative Inquiry to Bring Out the Best in Your Organizati:Encyclopedia of Positive Questions: Volume one, Whitney, D., Cooperrider, D., Trosten-Bloom, A., & Kaplin, B. S., Euclid, OH: Lakeshore Communications, 2002. Encyclopedia of Positive Questions Volume 1, Diana Whitney, David Cooperrider, Amanda Trosten-Bloom, Brian S. Kaplin, Lakeshore Communications Inc. ISBN 1-893435-33-4, 2002. Appreciative Inquiry Handbook, David Cooperrider, Diana Whitney, Jacqueline M. Stavros , Lakeshore CommunicationsInc. ISBN 1-57675-269-0, 2003. The Appreciative Inquiry Summit, James D. Ludema, Diana Whitney, Bernard J. Mohr & Thomas J. Griffin,Berrett-Koehler Publishers Inc. ISBN 1-57675-248-8, 2003.

Page 23: สุนทรียปรัศนีตามแนวทางแห่งอริยมรรค-อุทัยวรรณ กาญจนกามล

สุนทรียปรัศนี: ปฏิบัติการสูความเปนเลิศของทีมงาน ฯ อุทัยวรรณ กาญจนกามล Appreciative Inquiry: Best Practice of Teamwork สถาบันเสริมสรางพลังชุมชน ________________________________________________________________________________________

23

Advances in Appreciative Inquiry, volume one, Cooperrider, D. and Avital, M., Elsevier Science, pxxi, 2004. Online Opportunities Locating the Energy for Change: An Introduction to Appreciative Inquiry, by Charles Elliot (an entire book) availableas a free pdf file download from: http://www.iisd.org/ai/locating.htm What Is Appreciative Inquiry? By Joe Hall and Sue Hammond - available as a free pdf file download from: http://www.thinbook.com/lib/thinbook/whatisai.pdf Appreciative Inquiry Commons http://appreciativeinquiry.cwru.edu/ Appreciative Inquiry: An Overview http://www.cditrainers.org/appreciative_inquiry-overview.htm

Page 24: สุนทรียปรัศนีตามแนวทางแห่งอริยมรรค-อุทัยวรรณ กาญจนกามล

สุนทรียปรัศนี: ปฏิบัติการสูความเปนเลิศของทีมงาน ฯ อุทัยวรรณ กาญจนกามล Appreciative Inquiry: Best Practice of Teamwork สถาบันเสริมสรางพลังชุมชน ________________________________________________________________________________________

24

ภาคผนวกที่ 1 ตัวอยางของกําหนดการการประชุมเชงิปฏิบัติการ เรื่อง ยุทธศาสตรการพัฒนาองคกร/ชุมชน โดยใชหลักการ “สุนทรียปรัศนี” เวลาที่ใช 1วัน หรือ 8 ชั่วโมง เมื่อไหร? ทําอะไร? ทําทําไม?

08:30

15 นาที

• ปฐมนิเทศ • แนะนํา“คุณอํานวย”

• ชี้แจงกระบวนการประชมุ • ชี้แจงบทบาท“คุณอํานวย”

(Facilitator)

08:45

45นาที

บทบาทของ “คุณอํานวย”

• อธิบายกระบวนการและรูปแบบของการประชุม

• ชี้แจง กฎ กติกา มรรยาทของการประชุม

• กลุมสัมพันธสรางความคุนเคย

• กําหนดบทบาทของทีมในกลุมยอย

• ผูเขารวมประชุมรับรู บทบาท และความคาดหวัง

• มีการจัดตั้งทีมงานในนามของกลุม ประกอบดวย:

ชื่อกลุม คําขวัญ ประธานกลุม

เลขา กลุม โฆษกกลุม สมาชิกกลุม

09:30 พัก กาแฟ • ผอนคลาย เติมพลัง

09:45

นาที

ลอมวงกลุมยอย; แตละคนบอกชื่อตัวเอง บอกความในใจวามีสิ่งดีอะไรที่พบวันนี้ และทําไมจึงใสใจกับอนาคตขององคกร

• เริ่มกอตัว เสริมสรางพลังบวก • มีการแลกเปลี่ยนเรียนรูซึง่กัน

และกัน • มีการ จูงใจ กระตุนกลุมให

Page 25: สุนทรียปรัศนีตามแนวทางแห่งอริยมรรค-อุทัยวรรณ กาญจนกามล

สุนทรียปรัศนี: ปฏิบัติการสูความเปนเลิศของทีมงาน ฯ อุทัยวรรณ กาญจนกามล Appreciative Inquiry: Best Practice of Teamwork สถาบันเสริมสรางพลังชุมชน ________________________________________________________________________________________

25

รูสึกถึงคุณคาขององคกร

1000

60 นาที

ในกลุมยอย เลาเรื่องคนละ 2นาทีแสดงถึง สถานะภาพองคกรในจุดที่ดี ที่สุด ที่เขาภาคภูมิใจและรูสึกวาเปนสวนหนึ่งขององคกร

• เริ่มตัวอยางที่ดีเพื่อสรางความมั่นใจ

• แลกเปลี่ยน ประสบการณที่เปนรูปธรรมที่ดีงาม ของตัวเองและ กลุม

1100

60นาที

สรางจินตนาการแหง ความสําเร็จ

หากองคกรของเราอยูจุดแหงความเปนเลิศ

• อะไรจะเกิดขึ้นที่นี่บาง? • ทานจะรูสึกยังไง? • มีอะไรเปนดัชนีชี้วัด

ความสําเร็จ? • แลวชวยกันรางรูปภาพ

ในชวงนั้น

• เกิดบรรยากาศแหงการมีสวนรวมคิด ทําใหทีมงาน เนรมิตความฝนที่งดงามรวมกัน

• กําหนดระยะเวลา และรูปภาพ บงบอกถึงวิสัยทัศนและสิ่งที่มีอยูในใจของผูสรางและกําหนดอนาคต

12:00

45นาที

อาหารกลางวัน พักรับประทานอาหาร

12:45

15 นาที

แปรความหมายของภาพมาเปนตัวหนังสือที่เปนประโยค

อธิบายถึง สิ่งสําคัญ ๆ ที่จะเกิดขึ้น

• ชวยใหกลุมไดเพงไปที่พลังของกลุม

• พัฒนาพันธสัญญาที่มีตอกันในการทํางาน อยางมีชีวิตชีวา

Page 26: สุนทรียปรัศนีตามแนวทางแห่งอริยมรรค-อุทัยวรรณ กาญจนกามล

สุนทรียปรัศนี: ปฏิบัติการสูความเปนเลิศของทีมงาน ฯ อุทัยวรรณ กาญจนกามล Appreciative Inquiry: Best Practice of Teamwork สถาบันเสริมสรางพลังชุมชน ________________________________________________________________________________________

26

13:00

60นาที

• ประชุมกลุมยอย ระดมความคิด

• ทํารายการ วาเราตองการจะทําอะไรเพื่อให ฝนเปนจริง

• จัดลําดับความสําคัญ

ชวยทําใหแนใจไดวา สิ่งที่รวมกันคิด เรียงตามดับดับความสําคัญที่ทุกคนมีสวนรวมและ มีพลัง

14:00

30 นาที

แบงกลุมอีกใหกระจายกันไปหาโครงการในแนวลึกตอไปแลวนํามาเสนอกลุมงานที่ออกแบบอาจมีทั้ง

• ในชุมชนใหญ • แบบธุรกิจ • แบบขันอาสา

• ชวยใหพุงประเด็นไปที่พลังของกลุมอยางมีประสิทธิผล ในผูคนที่เห็นความสําคัญของประเด็นและมีความสอดคลองกับลีลาของกลุมตน

1430

60 นาที

กลุมนําผลงานมาเสนอ แลกเปลี่ยนและวางแผนจนสําเร็จ

• ทีมงาน ทํารวมกันอยางหรรษา ในสวนที่สนใจรวมกันหรือสนใจเฉพาะ ตางฝายตางเรียนรูซึ่งกันและกันในจุดแข็ง และความถนัด และความสนใจ

1530 พักกาแฟ ผอนคลายกับอาหารวาง

1545

20นาที

ในที่ประชุมรวม จัดเวทีเสวนาแบบอางปลา(fishbowl dialogue) ที่ผูนําแตละกลุมมาคุยกันกลางหองและมีเกาอี้วาง 1 ตัว ใหโอกาสสมาชิกเปลี่ยนหนาเขามา

• ทุกคนจะรับรูถึงผลงานของทุกกลุม

• มีความคิดที่จะทํางานรวมกัน ตามที่ใหกลุมไปคิดมานําเสนอ

Page 27: สุนทรียปรัศนีตามแนวทางแห่งอริยมรรค-อุทัยวรรณ กาญจนกามล

สุนทรียปรัศนี: ปฏิบัติการสูความเปนเลิศของทีมงาน ฯ อุทัยวรรณ กาญจนกามล Appreciative Inquiry: Best Practice of Teamwork สถาบันเสริมสรางพลังชุมชน ________________________________________________________________________________________

27

พูดดวย แบบพื้นที่เปด และผูนํากลุมมานําเสนออยางสั้น ๆ ถึงผลงานกลุมตนเอง

1605

45นาที

• จากนั้นภายในที่ประชุมอางปลา(fishbowl)ผูนํากลุมทํางานรวมกันเพื่อบูรณาการงานของแตละกลุมเขาดวยกัน

• มีการปรึกษาหารือถึงกิจที่จะทํารวมกันหลังจากการวางแผนแลวเสร็จ

ทําใหทุกคนเห็นวาใครก็ได มีโอกาสเปลี่ยนหนาเขามารวมเสวนา ในตอนวางแผนรวมกัน นอกเหนือไปจาก ผูนํากลุม ถือวาเปนพื้นที่เปด ทําใหคนเขามามีสวนรวมไดงาย ไมเปนทางการและทําใหมีความผูกพันตอทีมมากข้ึน

1650

25นาที

กอนพิธีปด

เปดโอกาสใหทุกคนพูดสั้น ๆในสิ่งที่ตนเองไดเรียนรูและมีความตั้งใจจะทําอะไรตอจากนี้เพื่อใหเกิดความสําเร็จ

• เปดเวทีใหญใหผูรวมประชุมมีพันธสัญญาชวยทําใหเขามีปฏิบัติ การตอเนื่องภายหลังการประชุม

• ตอบคําถามวาไดเรียนรูอะไร ชวยใหผูจัดการประชุมเห็นประโยชนของการประชุมอยางฉับพลัน

17:15 พิธีปดการประชุม

Page 28: สุนทรียปรัศนีตามแนวทางแห่งอริยมรรค-อุทัยวรรณ กาญจนกามล

สุนทรียปรัศนี: ปฏิบัติการสูความเปนเลิศของทีมงาน ฯ อุทัยวรรณ กาญจนกามล Appreciative Inquiry: Best Practice of Teamwork สถาบันเสริมสรางพลังชุมชน ________________________________________________________________________________________

28

ภาคผนวกที่ 2 ตัวอยางการอบรมเชิงปฏิบัติการสุนทรยีปรัศน ี

เพื่อพัฒนาศักยภาพผูนําชุมชน หลักการและเหตุผล

ปรัชญาการเสริมสรางพลังชุมชน เริ่มจากความเชื่อที่วาการเปลี่ยนแปลงของชุมชนอยางยั่งยืน และมีความหมาย ตองมาจากภายในชุมชนเอง นั่นคือสมาชิกของชุมชน ไดรวมกันจุดประกายขึ้นมา การพฒันาชุมชนโดยอาศัยสินทรัพยชุมชนเปนฐาน(Asset Based Community Development: ABCD) เปนแนวคิดหนึ่งของการเสริมสรางพลังชุมชน ที่เนนการนําขุมพลังและความสามารถของชุมชน การมองโลกในแงดีวาสมาชิกชุมชนมีความสามารถและพรสวรรค ใชความสามารถที่มีอยางมีคุณคา และสรางคุณคาตอผูอ่ืนดวย สามารถนํามาใชใหเกิดประโยชนตอชุมชน และสิ่งสําคัญคือความเขมแข็งของชุมชน แปรผันโดยตรงกับจํานวนผูคนที่อุทิศตน เพื่อใหชุมชนเปนสุข ฐานคิดเหลานี้นํามาใชในการพฒันา มากกวาการใชปญหาและความขาดแคลนของชุมชน

“นวัตกรสังคม” คือ ผูนําการเปลี่ยนแปลงไปสูสังคมใหมที่ดีกวาเดิม เขาเหลานั้นคือ อาจเปนผูใหบริการสาธารณะหรือ ผูนําชุมชนตามธรรมชาติที่มีอยูแลวในทองถิ่น ดวยจิตสํานึกดีที่มีตอชุมชนของตน หากไดรับการสงเสริมศักยภาพ และกําหนดบทบาทใหม ใหเปนผูรับใชชมุชน เพื่ออํานวยความสะดวกใหชุมชนเกิดการเรียนรูทางวัฒนธรรมจุดประกายใหชุมชนไดมีการสื่อสารทางวัฒนธรรมอยางสม่ําเสมอตลอดจนชวยเกื้อหนุนใหชุมชนรวมกันคิด รวมกันวางแผนการเรียนรูทางวัฒนธรรมชุมชน เพื่อนําเอาสินทรัพยชุมชนทั้งในดานภูมิปญญาทองถิ่น ทุนทางสังคม ทุนทางเศรษฐกิจ และ ทุนทางวัฒนธรรม มากอใหเกิดคุณคาทางจิตใจ และเพิ่มมูลคาผลิตภัณฑชุมชน ตลอดจนการนําไปสู คุณภาพชีวิตที่ดี ของผูคนในชุมชน ก็จะทําใหเกิดการพัฒนาชุมชน และทําใหชุมชนเขมแข็งไดในที่สุด “สุนทรียปรัศนี” คือ การคนหาสิ่งที่ดีที่สุดในตัวคนองคกร หรือชุมชน และ การคนพบอยางเปนระบบในสิ่งที่เกี่ยวของกันชีวิตในระบบชีวิต ในขณะที่ยังมีชีวิต

Page 29: สุนทรียปรัศนีตามแนวทางแห่งอริยมรรค-อุทัยวรรณ กาญจนกามล

สุนทรียปรัศนี: ปฏิบัติการสูความเปนเลิศของทีมงาน ฯ อุทัยวรรณ กาญจนกามล Appreciative Inquiry: Best Practice of Teamwork สถาบันเสริมสรางพลังชุมชน ________________________________________________________________________________________

29

อยู ทั้งที่ทําใหการทํางานที่มีประสิทธิผล การทาํใหสภาวะแวดลอมเอื้ออํานวยตอชีวิตและสุขภาพที่ดี โดยเริม่จากคําถามที่ทรงพลังถามหาศักยภาพเชิงบวก ในสิ่งที่มีอยูในตัวตนของผูคนเปนรอยเปนพันทั้งหลาย 1) รวมคนพบสิ่งดีแลวชื่นชม (Discovery) เริ่มตนดวยการสนทนากันโดยผลัดกันสมัภาษณประสบการณชีวิตที่ดี ในชวงแรกเปนการตั้งคําถามที่จุดประกายใหผูตอบรื้อฟนความทรงจําถึงประสบการณชีวิต การทํางานที่เคยผานมาในอดีต ในสวนที่เคยทําไดดี มีประสิทธิผล มีความภาคภูมิใจ ดวยคําถามที่กอใหเกิดการเสริมสรางพลังนั้นเอง จะทําใหผูตอบมีโอกาสไดแสดงทัศนะตอชีวิต การงานของตนเองที่เลือกสรรแลววาดีที่สุด ใหคูสนทนาฟง ดวยความภาคภูมิใจ เปนการระเบิดจากภายในตัวของผูตอบเอง ซึ่งผลดีที่ตามมาก็คือ การกอเกิดความบันดาลใจอยางไมรูตัว ที่จะริเริ่มสรางสรรคจากสิ่งที่ดีที่สุดเพื่อพบกับประสบการณใหม ดังนั้นหากมีการสรางบรรยากาศใหเกิดการชื่นชมผลงานของกันและกัน ที่ประชุมแหงนั้นก็จะเต็มไปดวยไมตรีจิตรมิตรภาพ และการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันและกัน ก็จะทาํใหเกิดการเรียนรูซึ่งกันและกัน เปนที่มาของการเกิดการคนพบและและการจุดประกายใหมีกําลังใจ และเติมไฟชีวิตซึ่งกันและกัน การคนพบคุณคาของชีวิต ประเพณีวัฒนธรรม จากเรื่องราวที่บอกเลา ทําใหเกิดความมั่นใจ ที่จะสรางอนาคตรวมกันเพื่อนําไปสูการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดียิ่งขึ้นไปอีก และผลที่ไดรับจาการตอบคําถามที่สรางพลังใจก็คือ การคนพบสิ่งที่ดีงาม การทํางานที่ไดผล ความสามารถและพรสวรรคของผูคนทั้งในอดีตและปจจุบัน รวมทั้งขุมพลังและทรัพยากร ที่มีอยูภายในตัวของผูคนและองคกรตลอดจนถึงชุมชน ซึ่งถือไดวาเปนสินทรัพยแหงชุมชน (Community assets) โดยแท 2) รวมทอฝนอยางสมศักด์ิศรี (Dream) คือการกําหนดวิสัยทรรศนรวมกันระหวางผูทํางาน เพื่อใชเปนการใชจินตนาการและความคิดริเริ่มสรางสรรคที่จะทําใหเกิดสิ่งใหม ระบบใหม กระบวนการใหม หรือกลไกใหม คําถามที่ทรงพลังในวาระนี้ก็คือ จากนี้ไปสูอนาคต เราอยากจะเห็นสิ่งดีงามอะไรบางเกิดกับตัวเรา ทีมงานของเรา ครอบครัวของเรา องคกรของเรา ชุมชนของเรา และสังคมของเรา แทนที่จะกระโจนเขาสูกับดักของปญหาและตามมาดวยการวิเคราะหถึงสาเหตุแหง

Page 30: สุนทรียปรัศนีตามแนวทางแห่งอริยมรรค-อุทัยวรรณ กาญจนกามล

สุนทรียปรัศนี: ปฏิบัติการสูความเปนเลิศของทีมงาน ฯ อุทัยวรรณ กาญจนกามล Appreciative Inquiry: Best Practice of Teamwork สถาบันเสริมสรางพลังชุมชน ________________________________________________________________________________________

30

ปญหา ทําใหพบกับความออนแอ พายแพ ความรูสึกผิด ของผูคนที่เกี่ยวของ และเปนชนวนใหเกิดความขัดแยง หรือการโยนกลองในที่สุด เราสามารถกระโจนขามกับดักเหลานั้น อานิสงคของการคนพบสิ่งดี ทําใหเราสามารถกําหนดอนาคตที่ดีไวในเบื้องหนา ตามอุดมคติของตน 3) รวมออกแบบทํางานอยางสุนทรียะ (Design) เปนการออกแบบการทํางานรวมกันตั้งแตตน ของผูที่มีสวนเกี่ยวของในชุมชน อยางมีชวิีตชีวา เพื่อตัวเอง เพื่อหมูคณะ เพื่อชุมชนและสงัคมของทุกๆ คน ซึ่งการออกแบบดังกลาวอยูบนพื้นฐานของแนวคิดในการเสียสละเพื่อชุมชนของตนเอง โดยมีสินทรัพยที่คนพบ เปนทุนทางสังคมที่จะนําออกมาใชในการออกแบบการทํางาน และสื่อสารระหวางกันเพื่อการเปลี่ยนสังคมไปสูสิ่งที่ดีงามและยั่งยืน 4) รวมสรางสรรคสิ่งที่ดีเพื่อสังคม (Destiny) เปนการตัดสินใจรวมกันวาจะนําพาชุมชนของตนไปสูทิศทางใดโดยอาศัยการวิธีการศึกษาชุมชนอยางมีสวนรวม และมีเครื่องมือในการศึกษาวิถีชีวิตองคกรของตนเองและชุมชนในทางบวก ทําใหเห็นถึงความสามารถของคนในชุมชนที่จะเกิดพลังสรางสรรคที่จะนําชุมชนไปสูการเปลี่ยนแปลงอยางมีคุณคา ทุกคนสามารถอํานวยความสะดวกใหชุมชนสามาวางแผนงานและดําเนินโครงการของตนเองไดอยางสมศักดิ์ศรี ดังนั้นในชวงการเริ่มตนของโครงการวิจัยเชิงปฏิบัติการอยางมีสวนรวมเพื่อการพัฒนาเครือขายเด็กไทยฟนดีของชุมชนในอําเภอพาน ใหมีความสามารถเปน นวัตกรสังคม มีบทบาทในการเสริมสรางพลังชุมชน และเปนทีมงานสรางผูนําเพื่อการเปลี่ยนแปลงในชุมชนไดอยางยั่งยืนซึ่งเปนปจจัยสําคัญในการพัฒนาคุณภาพเด็ก ครอบครัว และชุมชนในอนาคต

Page 31: สุนทรียปรัศนีตามแนวทางแห่งอริยมรรค-อุทัยวรรณ กาญจนกามล

สุนทรียปรัศนี: ปฏิบัติการสูความเปนเลิศของทีมงาน ฯ อุทัยวรรณ กาญจนกามล Appreciative Inquiry: Best Practice of Teamwork สถาบันเสริมสรางพลังชุมชน ________________________________________________________________________________________

31

วัตถุประสงคของการอบรมเชิงปฏิบติัการสุนทรียปรัศนี เพื่อใหผูเขารับการอบรม

• สามารถอธิบายเกีย่วกับการปรับเปลี่ยนกระบวนทัศน เพื่อการทํางานแบบพหุภาค ีและการเสริมสรางพลังชุมชนได

• สามารถอธิบายเกีย่วกับการพัฒนาชุมชนโดยอาศัยสินทรัพยชุมชนเปนฐานได • สามารถอธิบายเกีย่วกับบทบาทผูนําการเปลี่ยนแปลงสังคมได • สามารถอธิบายแนวคิดและกระบวนการการมีสวนรวมของประชาชนในการ

พัฒนาองคกรของตนเองและชุมชนได • มีแนวคดิในการพัฒนาชุมชน แตกตางไปจากการพัฒนาแนวดั้งเดิม แทนที่จะ

อาศัยการพึ่งพงิจากภายนอก ปรับเปลี่ยนเปนการพัฒนาโดยอาศยัสินทรัพยของชุมชนเปนฐานและเนนการสื่อสารเพื่อการเปลี่ยนแปลงสังคม

• สามารถรวมศึกษาชุมชนและรวมใชเครื่องมือศึกษาวิถีชีวติชุมชนในเชิงบวกได • สามารถประเมินผลอยางมีสวนรวมเพื่อเสริมสรางพลังทีมงาน และชมุชนได • มีความสามารถในการทํางานในชุมชนรวมกันเปนทีม

Page 32: สุนทรียปรัศนีตามแนวทางแห่งอริยมรรค-อุทัยวรรณ กาญจนกามล

สุนทรียปรัศนี: ปฏิบัติการสูความเปนเลิศของทีมงาน ฯ อุทัยวรรณ กาญจนกามล Appreciative Inquiry: Best Practice of Teamwork สถาบันเสริมสรางพลังชุมชน ________________________________________________________________________________________

32

กําหนดการอบรมเชิงปฏบิัติการสุนทรีปรัศนี พัฒนาศักยภาพพหุภาค:ี ผูนําชุมชน เจาหนาท่ีสาธารณสุข และ อปท.

---------------------------------------------------------------------------- วันท่ี 1. 08.00 – 08.30 พิธีเปดการฝกประชุมปฏิบัติการโดย....................................................... 08.30 - 09.45 ปฐมนิเทศ

• การละลายพฤติกรรมและ สรางความคุนเคย, • สํารวจความคาดหวังจากการฝกอบรม • รวมกําหนดกฎ, กติกา, มารยาท และบทบาทของ ทีมงานประจําวัน • บทบาทคาดหวังของผูเขารับการฝกอบรม

09.45- 10.00 พัก - กาแฟ 10.00-12.00 แลกเปลี่ยน-เรียนรูเกีย่วกับการปรับเปลี่ยนกระบวนทัศน เพื่อการทํางานแบบพหุภาค ีและการเสริมสรางพลังชุมชน

ทุกสิ่งดีอยูที่ใจ การพัฒนาชุมชนโดยอาศยัสินทรัพยชุมชนเปนฐาน เครื่องมือศึกษาวิถีชีวิตและวฒันธรรมชุมชน

การคนหาทุนทางสังคม การเขาถึงชุมชนเชิงบวก การสํารวจขุมพลังชุมชน และสินทรัพยของชุมชน การจัดทําแผนที่เดินดิน

12.00 - 13.00 พัก – อาหารกลางวัน 13.00 –14.30 การจัดเวทีชุมชนสุนทรียสนทนา ศึกษาความเขมแข็งความสามารถและทุน

ของทีมงาน (DISCOVERY1) 14.30-14.45 พักกาแฟ ผอนคลายกับอาหารวาง 14.45-16.30 ศึกษาเครื่องมือศึกษาชุมชนเชิงบวก วิธีการจดัทํา แผนที่เดนิดิน และศึกษา วิธีการสํารวจสินทรัพยชุมชน ทุนทางสังคม (DISCOVERY 2)

Page 33: สุนทรียปรัศนีตามแนวทางแห่งอริยมรรค-อุทัยวรรณ กาญจนกามล

สุนทรียปรัศนี: ปฏิบัติการสูความเปนเลิศของทีมงาน ฯ อุทัยวรรณ กาญจนกามล Appreciative Inquiry: Best Practice of Teamwork สถาบันเสริมสรางพลังชุมชน ________________________________________________________________________________________

33

วันท่ี 2 08.30 -09.00 ทบทวนบทเรยีนในวนัแรก 09.00-12.00 ฝกปฏิบัติการในชุมชน หรือในหองประชุม ศึกษาเครื่องมอืศึกษาชุมชน เชิงบวก จดัทําแผนที่เดินดนิ สินทรัพยชุมชน และทุนทางสงัคม

(DISCOVERY 3) 12.00 - 13.00 พัก – อาหารกลางวัน 13.00 - 14.30 รวบรวม วเิคราะห ขอมูลที่ไดจากการศึกษาและจัดเตรียมนําเสนอตอที่

ประชุม 14.30-14.45 พักกาแฟ ผอนคลายกับอาหารวาง 14.45-15.30 นําเสนอผลการศึกษาตอที่ประชุมอยางสรางสรรค (DISCOVERY 4) 15.30 -16.30 รวมถักทอฝน อยางสมศักดิ์ศรี (DREAM) วันที่ 3 08.30 -09.00 ทบทวนบทเรยีนในวนัที่สอง 09.00-10.15 “รวมออกแบบอยางมีสุนทรียะ (DESIGN)โดยใชวิธีการอภิปรายอยางม ี

สวนรวม(ORID) แลกเปลี่ยนเรียนรูเกี่ยวกับการนําขุมพลังชุมชน และสินทรัพยชุมชนและแผนที่เดินดินมาใชในการพัฒนาสุขภาพชุมชน ออกแบบการทํางานเปนรูปแบบ(MODEL)อยางมีบูรณาการ

10.15-10.30 พักกาแฟ ผอนคลายกับอาหารวาง 10.30-12.00 รวมวางแผนปฏิบัติการอยางมีสวนรวม (DESTINY) 12.00-13.00 พัก – อาหารกลางวนั 13.00-15.00 ถอดบทเรียน ประเมนิผลอยางมีสวนรวม เพื่อเสรมิสรางพลังทีมงาน (After Action Review and Participatory Evaluation) 15.00-15.15 พัก – กาแฟ 15.15-16.30 พิธีมอบประกาศนยีบตัร และปดการประชุม หมายเหตุ กําหนดการอาจมีการปรับเปลี่ยนไดตามความเหมาะสม

Page 34: สุนทรียปรัศนีตามแนวทางแห่งอริยมรรค-อุทัยวรรณ กาญจนกามล

สุนทรียปรัศนี: ปฏิบัติการสูความเปนเลิศของทีมงาน ฯ อุทัยวรรณ กาญจนกามล Appreciative Inquiry: Best Practice of Teamwork สถาบันเสริมสรางพลังชุมชน ________________________________________________________________________________________

34

ตัวอยาง กิจกรรมกลุมสมัพันธระหวางการฝกอบรมฯ จํานวน 12 กิจกรรม อาจมีการปรับเปล่ียนตามสถานการณในทุกบทเรียนจะมีสันทนาการประกอบเพื่อนําไปสูการเรียนรูในลักษณะของ “หรรษาวิชาการ” (Edutainment) ดังนี ้1 ช่ือกิจกรรม จูจุบ...กาลครั้งหนึ่ง วัตถุประสงค 1. เพื่อสงเสริมการนําสมาธิมาใช 2. เพื่อถอดตัวตนออกจากความคุนชินเดิมๆ

3. เพื่อพัฒนาความคิดสรางสรรค อันที่จะนําไปสูการคดิคนนวัตกรรม

ระยะเวลา 20 นาท ี

อุปกรณ - วิธีดําเนนิกิจกรรม 1. จัดผูเขารวมกิจกรรมนั่งเปนวงกลมวงเดียว จะนั่งกับพื้นหรือนั่งบน

เกาอี้ก็ได (ควรจัดนั่งแบบเขาชนเขา) 2. ใหทุกคนยกมือซายตั้งฉากกับลําตัว แบมือหงายขึ้น แลวเอานิ้วช้ีมือ

ขวาจิ้มลงบนฝามือซายของคนที่นั่งชิดดานขวาของตนเอง 3. ผูดําเนินกจิกรรมชี้แจงวิธีการเลน โดยมีขอกําหนดวา จะเลาเรื่องราว

ใหฟงไปเรื่อยๆ และเมื่อไดยนิคําวา “หนึ่ง” ใหแตละคนรีบชักมือขวาออก ในขณะเดยีวกนัใหรีบหุบมือซายจับนิว้ช้ีมอืขวาของอีกคนใหได

4. ใหทําลองทําประมาณ 2 – 3 รอบ “โหล ๆ หนึ่ง – สอง – สามท” “ พรอมสี่ – สาม – สอง – หนึ่ง” “กาลครั้งหนึ่ง นามามาแลว” เปนคน

5. เร่ืองเลาเรื่อง ใชเวลาเลาเรือ่งประมาณ 5 นาท ี

สรุปการเรียนรู 1. ชวนสนทนาถึงปจจัยทีเ่อื้อตอการละเลนกิจกรรมนี ้2. คนสวนมากจะคุนชินอยูกับการทํางาน การคิดแบบเดิมๆ และบางครั้งจากคาดกาลลวงหนาในความคุนชนินั้นๆ

3. การนําสิ่งเกามาปรับปรุง และใสความคิดสรางสรรคเขาไปนั้น คือ “นวัตกรรม”

Page 35: สุนทรียปรัศนีตามแนวทางแห่งอริยมรรค-อุทัยวรรณ กาญจนกามล

สุนทรียปรัศนี: ปฏิบัติการสูความเปนเลิศของทีมงาน ฯ อุทัยวรรณ กาญจนกามล Appreciative Inquiry: Best Practice of Teamwork สถาบันเสริมสรางพลังชุมชน ________________________________________________________________________________________

35

2 ช่ือกิจกรรม ทีมแกรง คนเกง วัตถุประสงค 1. เพื่อพัฒนาความคิดสรางสรรค 2. เพื่อสรางทีมปฏิบัติงาน

3. เพื่อสรางองคกรที่รูถึงบทบาทหนาที่ เคารพในกฎกติกาขององคกร

และสังคม

4. เพื่อเสริมสรางใหรักองคกร และสรางสรรคงานขององคกรใหสําเร็จและบรรลุตามวัตถุประสงค

ระยะเวลา 45 นาท ี

อุปกรณ 1. กระดาษปรูฟ, กระดาษกาวยน

2. ปากกาเคมี ครบตามจํานวนคน

วิธีดําเนนิกิจกรรม 1. แบงกลุมผูเขารวมกิจกรรม กลุมละ 8 – 10 คน โดยใชเพลง หรือเกม

ที่เหมาะสม

2. ใหแตละกลุมเลือกประธาน – เลขานุการ – ผูชวยเลขานุการ – โฆษก

ประจํากลุม - ผูชวยโฆษก – ฝายวัสดุอุปกรณ – ที่เหลือนอกนั้นเปนกรรมการฝายบริการ (คนใชทั่วไป) 3. ใหแตละกลุมตั้งชื่อกลุม ที่มีความหมายเชิงสรางสรรค (อาจใหมกีารตั้งชื่อเลนของกลุมดวยก็ได โดยมีขอกําหนดเปนชื่อพยางคเดียว) – คิดคําขวัญกลุม - และสรางขอตกลงในการทํางานและอยูรวมกันของกลุม

สรุปการเรียนรู การทํางานในลักษณะ “ทีมแกรง – คนเกง” นั้น จะตองใชกระบวนการ

กลุม ซ่ึงมีหลักในการทํางานกลุมคือ ตองรอยรัดกันในสามสวนคือ ผูนํา – ผูตาม – วิธีการเขียนเปนกลอนไดดังนี ้

งานจะดี ตองอยูที่ หัวหนากลุม รูควบคุม รูช้ีนํา ปอนคําถาม

อีก สมาชิกกลุม หรือผูตาม ไมวูวาม รักกลุม ทุมใจกาย

มีหัวหนา สมาชิก ที่สามารถ งานก็อาจ ไมเร็วรุด ถึงจุดหมาย

จําตองมี วิธีการ ที่แยบคาย ยุงกลับหาย ยากกลับงาย รายกลับด.ี ----------------------

Page 36: สุนทรียปรัศนีตามแนวทางแห่งอริยมรรค-อุทัยวรรณ กาญจนกามล

สุนทรียปรัศนี: ปฏิบัติการสูความเปนเลิศของทีมงาน ฯ อุทัยวรรณ กาญจนกามล Appreciative Inquiry: Best Practice of Teamwork สถาบันเสริมสรางพลังชุมชน ________________________________________________________________________________________

36

3 ช่ือกิจกรรม รูเขา – รูเรา – รูรวม วัตถุประสงค เพื่อสรางความตระหนกัถึงการอยูรวมกันอยางมีความสขุ

ระยะเวลา 10 – 15 นาท ี

อุปกรณ -

วิธีดําเนนิกิจกรรม กิจกรรมยอยที ่1 1. ใหผูเขารวมกิจกรรมแตละคนเลือกสมาชิกอื่นของตนเอง 2 คน(ในใจ) โดยกําหนดใหคนที่หนึ่งเปน A และคนทีส่องเปน B โดยไมตองบอกให เจาตัวรู 2. ผูดําเนินกจิกรรมชี้แจงวิธีการเลน โดยกําหนดใหแตละคนตองเคลื่อนที่เขาใกลA ของตนเองใหมากที่สุด ในขณะเดยีวกนัตองเคลื่อนที่หนีใหหางB ของตนเอง 3. การเคลื่อนที่จะตองเคลื่อนที่ชา ไมมีเสยีง 4. ใหผูเขารวมกิจกรรมเคลือ่นที่ประมาณ 3 นาที 5. เมื่อการเคลื่อนที่หยดุนิ่ง ก็ใหทกุคนนั่งลง ผูดําเนินกจิกรรมสุมถามถึงA กับ B

ของแตละคน

สรุปการเรียนรู 1. สมมติให A เปนคนที่เราชอบ สวน B คนที่เราไมชอบ โดยธรรมชาติ ของคน

ทุกคนยอมอยากอยูใกล อยากทํางาน อยากรวมกจิกรรมกับคนที่เราชอบ ในขณะเดยีวกนัก็ไมอยากทํางาน หรือรวมกิจกรรมกับคนที่เราไมชอบ

2. แตในที่สุดเราก็ไมสามารถปลีกตัวเฉพาะความชอบของเราได เพราะบางคนที่เราไมชอบ เขาอาจจะชอบเรากไ็ด ในขณะที่คนที่เราชอบอาจจะเลือกเราเปนคนสุดทาย

ก็เปนได นั่นคือการทํางานในองคการตองอยูรวมกนัอยางกัลยาณมิตร วิธีดําเนนิกิจกรรม กิจกรรมยอยที ่2

1. ใหผูเขารวมกจิกรรมแตละคนเลือกสมาชิกอื่น 2 คน กําหนดใหเปน A

และ B

(ไมควรใหเจาตัวรูและควรเลือกคนใหม) และกําหนดใหตนเองเปน C

2. ผูดําเนินกจิกรรมชี้แจงวิธีการเลน กําหนดใหแตละคนเคลื่อนที่ชาๆ ไมม ี

เสียง

Page 37: สุนทรียปรัศนีตามแนวทางแห่งอริยมรรค-อุทัยวรรณ กาญจนกามล

สุนทรียปรัศนี: ปฏิบัติการสูความเปนเลิศของทีมงาน ฯ อุทัยวรรณ กาญจนกามล Appreciative Inquiry: Best Practice of Teamwork สถาบันเสริมสรางพลังชุมชน ________________________________________________________________________________________

37

โดยตองพยายามสรางสามเหลี่ยมดานเทากับเพื่อสมาชิกที่เลือก ABC

3. ใหผูเขารวมกิจกรรมเคลือ่นที่ที่สักระยะหนึ่ง จะหยดุนิ่ง 4. ใหทุกคนนัง่ลง ผูเขารวมกิจกรรมสุมถามถึง A กับ B ของแตละคน

สรุปการเรียนรู 1. ปจจัยทีใ่ชในกิจกรรมนี้คือ การมีสติ และนําเอาสมาธมิาใช 2. การถักทอเครือขายนั้น ถึงจุดหนึ่งจะนิ่ง และสานสัมพนัธกันอยาง

ทั่วถึง 3. จากนั้นจึงจะเคลื่อนไหวอยางเปนกระบวนการและทรงพลังในทาง

สรางสรรค ---------------------

4 ช่ือกิจกรรม เจาสี่ทิศ

วัตถุประสงค 1. เพื่อฝกภาวะผูนํา และผูตามที่ทรงคุณคา 2. เพื่อฝกการทํางานที่รอยรัดกัน โดยยดึเปาหมายและวตัถุประสงค ถึงแมจะมกีารปรับเปลี่ยนผูนําก็ตาม

ระยะเวลา 10 นาท ี

อุปกรณ - วิธีดําเนนิกิจกรรม 1. ใหผูเขารวมกิจกรรมจับกลุมกันกลุมละ 4 คน

(อาจใชเกมหรอืเพลงจับกลุม) 2. ผูดําเนินกจิกรรมขออาสาสมัคร 3 คน ออกมารวมสาธิตวิธีการเลน

3. ใหแตละกลุม หาที่วาง ยืนเปนรูปสี่เหล่ียมขนมเปยกปูน หันหนาไป

ทิศทางเดียวกนั ทั้ง 4 คน

4. ผูดําเนินกจิกรรมชี้แจงวิธีการเลน ใหทกุคนเคลื่อนไหวชาๆ โดยใหกําหนดใหคนที่อยูดานหลังทําทาทางเหมอืนกับคนที่อยูหนาสุด

5. เมื่อเคลื่อนไหวประมาณ 5 วินาที ใหทุกคนขวาหนั ทาํใหเปลี่ยนผูที่อยูดานหนา นั่นคือการเปลีย่นกนัเปนผูนาํ ใหผูนําคนใหมนําเคลื่อนไหวใหรอยรัดตอจากคนทีแ่ลว และทุกคนทําตาม

6. ใหเคลื่อนไหว ขวาหัน ทําตามกันอยางรอยรัด ประมาณ 2 – 3 รอบ

7. ผูดําเนินกจิกรรมชวนสนทนาหลับกิจกรรม

สรุปการเรียนรู 1. การทํางานเปนทีมนั้น งานจะตองตอเนือ่งรอยรัดกันอยางสรางสรรค

Page 38: สุนทรียปรัศนีตามแนวทางแห่งอริยมรรค-อุทัยวรรณ กาญจนกามล

สุนทรียปรัศนี: ปฏิบัติการสูความเปนเลิศของทีมงาน ฯ อุทัยวรรณ กาญจนกามล Appreciative Inquiry: Best Practice of Teamwork สถาบันเสริมสรางพลังชุมชน ________________________________________________________________________________________

38

2. ทุกคนลวนมีโอกาสเปนผูนํา และผูตาม เมื่ออยูในบทบาทใดก็ลวนแตมุงความสําเร็จขององคกรเปนหลัก

--------------------------- 5 ช่ือกิจกรรม คนลอย

วัตถุประสงค 1. เพื่อฝกการวางแผนรวมกนั

2. เพื่อฝกการปรับเปลี่ยนมมุมองในการวางแผนและการทํางาน

3. เพื่อฝกการทํางานเปนทีม

ระยะเวลา 20 นาท ี

อุปกรณ เกาอี้มีพนกั กลุมละ 4 ตัว

วิธีดําเนนิกิจกรรม 1. ใหแตละกลุม คัดเลือกตัวแทนกลุม 4 คน มีกติกาคอื เปนเพศเดียวกัน รางกายแข็งแรง ไมมีพันธะ และชอบความเสี่ยง

2. ใหแตละกลุมนําเกาอี้มาวางใหหันไป 4 ทิศทางกลางวงกลมของกลุม 3. ใหตวัแทนกลุมทั้ง 4 นั่งบนเกาอี้คนละตัว โดยใหหนัหนาตามเข็ม

นาฬิกา 4. ใหทั้ง 4 คนนอนลง โดยหนนุตักคนดานหลัง (จะเปนลักษณะนอน

หนุนตกัตอกันเปนวงกลม) 5. ใหสมาชิกที่เหลือวางแผนรวมกนั แลวชวยกันถอดเกาอี้ออกทั้ง 4 ตัว

โดยที่คนทั้งสีน่อนหนนุตักกันลอยตวัอยูได โดยไมตองมีใครประคอง 6. ผูดําเนินกจิกรรมชวนสนทนาหลังกิจกรรม

สรุปการเรียนรู 1. การทํางานจะตองมีการวางแผนรวมกนั

2. สมาชิกในองคกรจะตองไวเนื้อเชื่อใจกนั

3. การคิดนอกกรอบในบางครั้ง อาจทําใหงานสะดวก และสําเร็จไดเร็วขึ้น เปนการ

ประหยดัเวลา ทรัพยากร และลดภาวะเสี่ยงได

----------------------

Page 39: สุนทรียปรัศนีตามแนวทางแห่งอริยมรรค-อุทัยวรรณ กาญจนกามล

สุนทรียปรัศนี: ปฏิบัติการสูความเปนเลิศของทีมงาน ฯ อุทัยวรรณ กาญจนกามล Appreciative Inquiry: Best Practice of Teamwork สถาบันเสริมสรางพลังชุมชน ________________________________________________________________________________________

39

6ช่ือกิจกรรม เกาอี้มนุษย วัตถุประสงค 1. เพื่อฝกการทํางานเปนทีม

2. เพื่อฝกการวางแผนแบบมีสวนรวม

3. เพื่อสรางความตระหนักรูถึงการใชปญญามากกวาทีจ่ะมองแตปญหา ระยะเวลา 20 นาท ี

อุปกรณ เกาอี้ครบตามจํานวนผูเขารวมกิจกรรม

วิธีดําเนนิกิจกรรม 1. ใหผูเขารวมกิจกรรมเลือกนั่งตามอิสระ โดยใหมีชองวางระหวางเกาอี้ของแตละคนใหคนเดนิผานไดทุกทิศทาง และใหมีเกาอีว้างอยู 1 ตวั

2. ผูดําเนินกจิกรรมชี้แจงกตกิา ดังนี ้ 2.1 ผูเขารวมกิจกรรมทั้งหมดจะตองชวยกันพยายามไมใหผู

ดําเนินกิจกรรม นั่งเกาอี้ตวัที่วางได 2.2 ทุกคนสามารถวิ่งได แตผูดําเนินกิจกรรมจะเดินชาๆ 2.3 หามดึงตวัผูดําเนินกจิกรรม หามยกเกาอี้ออกขณะทีผู่ดําเนิน

กิจกรรมจะนั่ง 2.4 เมื่อลุกจะตองไป ถานั่งลงที่เดิมถือวาแพ 2.5 ใหมีการจบัเวลาดวย

3. ดําเนินกิจกรรมประมาณ 5 – 7

4. ผูดําเนินกจิกรรมชวนสนทนาหลังกิจกรรม

สรุปการเรียนรู 1. การทํางานจะเกิดภาวะผูนําขึ้น ทั้งโดยตําแหนง โดยบทบาท และโดย

ธรรมชาติ 2. การวางแผนจะตองใหทกุคนมีสวนรวม และตองมุงสูเปาหมายใหได 3. ทุกคนจะตองมีสติ มีสมาธิ และใชปญญามากกวาการมองที่ปญหา

---------------------------------

Page 40: สุนทรียปรัศนีตามแนวทางแห่งอริยมรรค-อุทัยวรรณ กาญจนกามล

สุนทรียปรัศนี: ปฏิบัติการสูความเปนเลิศของทีมงาน ฯ อุทัยวรรณ กาญจนกามล Appreciative Inquiry: Best Practice of Teamwork สถาบันเสริมสรางพลังชุมชน ________________________________________________________________________________________

40

7 ช่ือกิจกรรม ดาวหาแฉก กับ หกหองใจ

วัตถุประสงค 1. เพื่อเรียนรูตนเอง และเรียนรูผูอ่ืนอยางสรางสรรค 2. เพื่อใหกลานําเสนอแนวคดิของตนเอง และเคารพในแนวคิดของผูอ่ืน

3. เพื่อฝกการสนทนาดวยความเปนกัลยาณมิตร

ระยะเวลา 30 นาท ี

อุปกรณ 1. กระดาษ A4

2. ปากกา วิธีดําเนนิกิจกรรม 1. แจกกระดาษ A4 และปากกาใหครบทุกคนใหทุกคนวาดรูปดาวหา

แฉก ลงบนหนากระดาษดานหนึ่ง แลวให ตอบคําถามของ ผูดําเนินกิจกรรมทีละขอ ดังนี ้

2.1 แฉกที่ 1.- ใหบอกความเปนตัวตนของตนเอง(อัตตลักษณ+

เอกลักษณ) 2.2 แฉกที่ 2.- อุดมคติ หรือหลักการในการทํางานของตนเอง

คืออะไร

2.3 แฉกที่ 3.- เวลาที่เราประสบความสําเร็จ มีความสุข เราคิดถึงใครเปนอันดับแรก

2.4 แฉกที่ 4.- เวลาที่เราประสบความลมเหลว มีความทุกข เรา คิดถึงใครเปนอันดับแรก

2.5 แฉกที่ 5.- สําหรับคนที่มีครอบครัวแลว ถายอนเวลา กลับไปได ทานยัง คงรับเอาคูของทานอยูหรือไม สําหรับคนโสด ทานจะยอมอยูบนคานตลอดไปหรือไม

3. ใหแตละคนแบงชองหนากระดาษอีกดานหนึ่งเปน 6 ชอง แลวกําหนดเลขกํากับแตละชอง 1 – 6

4. ใหเลือกผูเขารวมกิจกรรมจากกลุมอื่น6 คน แลวเขยีนชื่อลงในชอง 1-6 ชองละคน จะเปนชื่อจริงหรือช่ือเลนก็ได 5. ผูดําเนินกจิกรรมชื้แจงกตกิา ดังนี ้ 5.1 ผูที่ถามจะตองเดินไปหาผูที่ทานจะถาม และเมื่อไดคําตอบแลวใหบันทึก

คําตอบลงในชองใหตรงกับชือ่ของผูถูกถาม

5.2 ถาเขาไมถามก็ไมตองตอบ แตถาเขาถามตองตอบ

Page 41: สุนทรียปรัศนีตามแนวทางแห่งอริยมรรค-อุทัยวรรณ กาญจนกามล

สุนทรียปรัศนี: ปฏิบัติการสูความเปนเลิศของทีมงาน ฯ อุทัยวรรณ กาญจนกามล Appreciative Inquiry: Best Practice of Teamwork สถาบันเสริมสรางพลังชุมชน ________________________________________________________________________________________

41

5.3 การเดินไปหาผูที่จะถามจะเคลื่อนที่ไปไดเมือไดยินคําวา “เร่ิม”

5.4 เมื่อไดยนิเสียงนกหวดีใหนั่งลง ณ จดุที่ยืนอยูนั้น

6. ผูดําเนินกจิกรรมเริ่มจากคําถาม ดังนี ้ 6.1 ใหทานไปหาคนในชองหมายเลข 1. แลวคามเขาวา “ทานสวย หรือหลอ เหมือนดาราหรือนักรองคนใด”.....เร่ิม 6.2 ใหทานไปหาคนในชองหมายเลข 2. แลวถามเขาวา “เวลาอาบน้ํา เขาจะถูตรงไหนบอยและนานที่สุด”

6.3 ใหทานไปหาคนในชองหมายเลข 3. แลวถามเขาวา “สมมติวามีกิ๊ก มาชวนไปจูจี๋กนัในที่ลับหูลับตาคน เขาจะไปหรือไม”

6.4 ใหทานไปหาคนในชองหมายเลข 4. แลวถามเขาวา “สมมติวาจากขอ 3. ทุกคนตอบวาไปหมด แลวเกิดติดใจ คราวนี้ตวัเองอยากจะไปอีกครั้ง เขาจะเอยปากชวนกิ๊กวาอยางไร”

6.5 ใหทานไปหาคนในชองหมายเลข 5. แลวถามเขาวา “วันหนึ่งถึงวาระทีจ่ะตองแยกทางกับกิ๊ก เขาจะพูดอยางไรโดยที่บวัไมใหชํ้าน้ําไมใหขุน”

6.6 ใหทานไปหาคนในชองหมายเลข 6. แลวถามเขาวา “ผลจากการมีกิ๊กและแลววันหนึ่งคูครองของเขาทราบเรื่อง เขาจะพูดกับคูครองของเขาวาอยางไร”

7. ผูดําเนินกจิกรรมสุมไลทีละคน โดยเริม่จากคนที่ 1 – 6 เวียนเปน

ลูกโซ 8. ผูดําเนินกจิกรรมชวนสนทนาหลังกิจกรรม

สรุปการเรียนรู 1. คนแตละคนจะมีความรูความสามารถที่แตกตางกัน

2. แตละคนจะมีอัตตลักษณและเอกลักษณทั้งที่แตกตางกันและ

เหมือนกนัในบางสวน

3. ทุกคนมีโอกาสที่จะอยูในภาวะเสี่ยง ทีจ่ะตองบริหารความเสี่ยงความ

สรางสรรค 4. การสื่อสารที่สรางสรรคจะมีพลังในการสรางความเขาใจอันดตีอกัน

--------------

Page 42: สุนทรียปรัศนีตามแนวทางแห่งอริยมรรค-อุทัยวรรณ กาญจนกามล

สุนทรียปรัศนี: ปฏิบัติการสูความเปนเลิศของทีมงาน ฯ อุทัยวรรณ กาญจนกามล Appreciative Inquiry: Best Practice of Teamwork สถาบันเสริมสรางพลังชุมชน ________________________________________________________________________________________

42

8 ช่ือกิจกรรม ขวา – ขวา – ขวา-ซาย-ขวา วัตถุประสงค 1. เพื่อฝกการนําสมาธิมาใชในการทํางาน

2. เพื่อสรางความตระหนักรูในการทํางานทั้งในสวนของการรับงานมา

ทํา หรือการมอบงานใหผูอ่ืน

ระยะเวลา 15 นาท ี

อุปกรณ วัสดุเทาที่มีหรือหาได เชน สมุด กระดาษ ปากกา ปายชือ่ พวงกุญแจ

ซองแวนตา ฯลฯ

วิธีดําเนนิกิจกรรม 1. จัดใหนั่งเปนวงกลมเขาชนเขา จะนั่งกบัพื้นหรือบนเกาอี้ก็ได โดย

ผูดําเนินกจิกรรมเปนสวนหนึ่งของวงกลม และทํากิจกรรมรวมกับผูเขารวมกิจกรรม

2. ใหทุกคนออกเสียงพรอมกันเปนจังหวะ “แท็ป – แท็ป – แท็ป-แท-แล-แล็บ-แท็ป-แท็ป”

3. ทุกคนมีวัสดุอยูบนตกั 1 ช้ิน ใหจับดวยสองมือ ผูดําเนินกจิกรรมช้ีแจงวิธีการเลน และสงตอ

3.1 แท็ป ที่ 1.- ใหจับวัสดุของตนเองดวยสอง สงไปวางบนตัก

ของคนที่นั่งตดิดานขวาของตน ปลอยแลวรีบยกมือกลับมาจับ

ของชิ้นใหมที่เขาสงมาให 3.2 แท็ปที่ 2.- ปฏิบัติเชนเดียวกับ แท็ปที่ 1. 3.3 แท็ปที่ 3.- ใหสงไปทางขวา แลวโยกกลับมาบนตักตนเอง

กอน 1 รอบพอรอบที่สองจึงวางบนตกัคนทางขวา 4. เร่ิมกิจกรรม ใหสงวัสดไุปทางขวา โดยทําชาๆ กอน แลวเรงจังหวะ

ใหเร็วขึน้

5. ผูดําเนินกจิกรรมชวนสนทนาหลังกิจกรรม

สรุปการเรียนรู 1. ปจจัยทีใ่ชในกิจกรรมนี้คือ ทุกคนตองมสีมาธิ กระฉับกระเฉง รวดเร็ว

3. เปรียบเทียบกบัการทํางาน ก็คือ คนบางคนจะรวบงามตางๆ มาไวเอง หมดโดยไมกระจายงาน ในขณะที่บางคนกลับพยายามปดงานไปใหคน

อ่ืน ซ่ึงผลที่ตามมาก็คือ ทําใหงานติดขดั ลาชา

---------------------

Page 43: สุนทรียปรัศนีตามแนวทางแห่งอริยมรรค-อุทัยวรรณ กาญจนกามล

สุนทรียปรัศนี: ปฏิบัติการสูความเปนเลิศของทีมงาน ฯ อุทัยวรรณ กาญจนกามล Appreciative Inquiry: Best Practice of Teamwork สถาบันเสริมสรางพลังชุมชน ________________________________________________________________________________________

43

9 ช่ือกิจกรรม ยกคน วัตถุประสงค 1. เพื่อประเมนิผลการเรียนรูหลังจากการอบรมปฏิบัติการ

(AAR อยางมสีาระ) ระยะเวลา 45 – 60 นาท ี

อุปกรณ 1. กระดาษปรูฟ 3 แผน 2. กระดาษสี ขนาด A4 แบงครึ่งตามแนวยาว ครบตามจํานวนคน

3. กระดาษกาวยน 4. ปากกาเคมี ครบตามจํานวนคน

วิธีดําเนนิกิจกรรม 1. ใหแตละกลุมนํากระดาษปรูฟทั้ง 3 แผน มาตอกันตามแนวยาว

2. ใหวาดรูปหัวใจสีแดงใหญๆ ในแผนดานบน

3. รับอาสาสมัครกลุมละ 1 คน ใหนอนลงบนกระดาษปรูฟ โดยใหดาน

หัวอยูใตหัวใจสีแดง 4 ใหสมาชิกในกลุมชวยกันใชปากกาเคมีวาดโครงรางของอาสา เมื่อ

เสร็จแลวใหทุกกลุมปรบมือขอบคุณอาสาของกลุม

5. ผูดําเนินกจิกรรม ตั้งคําถามใหตอบ ดังนี้ 5.1 คําถามที่ 1.- “กอนเขารวมอบรมปฏิบัติการในครั้งนี ้ ทานมีความคาดหวังอะไรบาง” ใหแตละคนเขียนลงในกระดาษสี A4

เขียนใหมากทีสุ่ดเทาที่ตนเองคาดหวังไว (เปนงานสวนบคุคล) เมื่อทุกคนเขียนเสร็จแลว ใหติดกระดาษA4 ลอมรอบภายนอกโครงรางมนุษย 5.2 คําถามที่ 2.- “ทานไดเรียนรูอะไรบาง จากการเขารวมอบรมปฏิบัติการในครั้งนี”้ ใหแตละคนเขียนลงในพื้นทีว่างนอกโครงรางมนุษย เขยีนใหมากที่สุดเทาที่ตนเองไดเรียนรู (เปนงานสวนบุคคล) 5.3 คําถามที่ 3.- “ถาทานรวมมือกัน นําเอาสิ่งที่ไดเรียนรูในครั้งนี้ บวกกับประสบการณของพวกทาน แลวนําไปสรางสรรคกับภาคีหุนสวน ทานคิดวา ภาคีหุนสวนของเราจะเปนเชนไร” เปนงานกลุม ใหชวยกลุมชวยกันสรุปผลที่นาจะเกิดขึน้กับภาคหีุนสวน แลวเขียนลงในโครงรางมนุษย

Page 44: สุนทรียปรัศนีตามแนวทางแห่งอริยมรรค-อุทัยวรรณ กาญจนกามล

สุนทรียปรัศนี: ปฏิบัติการสูความเปนเลิศของทีมงาน ฯ อุทัยวรรณ กาญจนกามล Appreciative Inquiry: Best Practice of Teamwork สถาบันเสริมสรางพลังชุมชน ________________________________________________________________________________________

44

5.4 คําถามที่ 4.- “ทานมีความรูสึกอยางไร เมื่อทานทําใหภาคีหุนสวนเกิดการพัฒนาตามทีส่รุปจากโครงรางมนุษย” ใหเขียนลงในหวัใจสีแดงดวงโต

6. ผูดําเนินกจิกรรมชวนสนทนาหลังกิจกรรม

สรุปการเรียนรู 1. การเรียนรูจะไมเกิดผลตามความคาดหวัง ถาไมนําไปสูการปฏิบัติอยางเปนรูปธรรม

2. เมื่อนําเอาการเรียนรูไปสูการปฏิบัติกับภาคีหุนสวน การพัฒนากจ็ะเกิดขึ้น

3. ยุทธศาสตรเชิงรุก ก็คือ การทําใหภาคหีุนสวน เกิดการพัฒนาทั้งในดานปริมาณและคุณภาพ

4. เมื่อภาคีหุนสวนเกดิการเปลี่ยนแปลงในดานบวก ยอมทําใหเราในฐานะผูปฏิบัตงิานเกิดความสุข ความภาคภูมิใจ

5. เมื่อใดก็ตามที่เราทุมโถมตนเองลงไปทาํงานใหชุมชน ชุมชนยอมได ภาคีหุนสวนยอมได และเราก็ไดอานิสงสนี้ไปดวย แตถาเมื่อใดก็ตามที่เราทําเพื่อตนเอง ตนเองไดแนนอน แตไมแนใจวาชุมชน ภาคีหุนสวนจะได

6. การทํางานชุมชนนั้น สําคัญอยูที่ ศรัทธา 4 อยาง คือ

ศรัทธาในคนเอง หนึ่ง ศรัทธาในชุมชน ศรัทธาในภาคีหุนสวน หนึ่ง ศรัทธาในกระบวนการทํางานเชิงบวก หนึง่ และ ศรัทธาในการทําดี หนึง่

----------------------