วิชา การจัดการทรัพยากรมนุษย์ ......ส าค...

42
วิวัฒนาการและทฤษฎี การบริหารทรัพยากรมนุษย์ อาจารย์ดวงพร แสงทอง วิชา การจัดการทรัพยากรมนุษย์ Human Resource Management

Upload: others

Post on 04-Jan-2020

5 views

Category:

Documents


0 download

TRANSCRIPT

Page 1: วิชา การจัดการทรัพยากรมนุษย์ ......ส าค ญด งน 1.1 การหาการท างานท ด ท ส ด 1.2

วิวัฒนาการและทฤษฎี การบริหารทรัพยากรมนุษย ์

อาจารย์ดวงพร แสงทอง วิชา การจัดการทรัพยากรมนุษย์

Human Resource Management

Page 2: วิชา การจัดการทรัพยากรมนุษย์ ......ส าค ญด งน 1.1 การหาการท างานท ด ท ส ด 1.2

วิวัฒนาการและทฤษฎีการบริหารทรัพยากรมนุษย์

หัวข้อบรรยาย

Page 3: วิชา การจัดการทรัพยากรมนุษย์ ......ส าค ญด งน 1.1 การหาการท างานท ด ท ส ด 1.2

“คน เป็นผู้สร้างสรรพสิ่งทุกอย่างในองค์การจนกลายเป็นผลผลิตหรือการบริการท่ีน าองค์การไปสู่ความส าเร็จ”

“คน มีลักษณะหลาหหลายแตกต่างกัน ทั้งด้านความรู้ ทักษะ ความคิด ทัศนคติ ท่ีเป็นสิ่งส าคัญในการปฏิบัติภารกิจต่างๆ ให้องค์การบรรลุ

เป้าหมาย” “คน (มนุษย์) เป็นทุนทางสังคม ดังนั้นการมุ่งปลูกฝังแนวความคิดและ

จิตส านึกให้ผู้บริหารเปลี่ยนมุมมองท่ีเคยมองมนุษย์เป็นเพียงก าลังแรงงานมาเป็นการมองมนุษย”์

คน (มนุษย์)

Page 4: วิชา การจัดการทรัพยากรมนุษย์ ......ส าค ญด งน 1.1 การหาการท างานท ด ท ส ด 1.2

ความส าคญัของการบริหารทรพัยากรมนุษย ์

* การบรหิารทรพัยากรมนุษย ์น ัน้ ถอืเป็นส่วนหนึง่ของการบรหิารงาน

ในองคก์าร ซึง่ จะประกอบไปดว้ย

- การวางแผน

- การจดัองคก์าร

- การจดัคนเขา้ท างาน

- การส ัง่การ

- การควบคุม

โดยส่วนใหญ่ เรยีกว่า การบรหิารงานบคุคล และไดเ้ปลีย่นแปลงมาเป็นค าว่า การ

บรหิารทรพัยากรมนุษย ์

Page 5: วิชา การจัดการทรัพยากรมนุษย์ ......ส าค ญด งน 1.1 การหาการท างานท ด ท ส ด 1.2

ซึ่งเกี่ยวข้องกับปัจจัยในเรื่องต่าง ๆ อีกหลายปัจจัย เช่น

1. การพัฒนา

2. การประเมินผลพนักงาน

โดยปัจจัยทั้งหมดเป็นส่วนที่ส าคัญซึ่งท าให้องค์การประสบความส าเร็จ

3. การธ ารงรักษา

4. การจ่ายค่าตอบแทน

5. การจัดสวัสดิการ 6. การจูงใจ และปัจจัย

อื่นๆ

Page 6: วิชา การจัดการทรัพยากรมนุษย์ ......ส าค ญด งน 1.1 การหาการท างานท ด ท ส ด 1.2

ยุคดั้งเดิม เป็นยุคที่เก่าแก่ที่สุดโดยค้นพบจาก คัมภีร์ไบเบิล

ยุคปฏิวัติอุตสาหกรรม

ยุคกลาง

(ยุคการจัดการแบบวิทยาศาสตร์)

ยุคปัจจุบัน

Moderm Organization

theory

วิวัฒนาการของการบริหารทรัพยากรมนุษย ์

การบริหารทรัพยากรมนุษย์

Page 7: วิชา การจัดการทรัพยากรมนุษย์ ......ส าค ญด งน 1.1 การหาการท างานท ด ท ส ด 1.2

1. ยุคดั้งเดิม = เป็นยุคที่เก่าแก่ที่สุด โดยค้นพบจาก คัมภีร์ไบเบิล

โดย เป็นการบันทึกของนายโมเสส Moses ซึ่งเป็นการ

แนะน าให้คนงานรู้จักถึงข้อปฏิบัติงานและทราบถึง กฎเกณฑ์ต่าง ๆ ของการท างาน

* หลักฐานอีกชิ้นหนึ่งคือ ประมวลกฎหมายของพระเจ้า ฮัมมรูาบี ประเทศ บาบิโลเนีย 1800 ปี ก่อนคริสตศักราช โดยเป็นการบันทึกถึงการก าหนดค่าจ้างขั้นต่ าของคนงานชายและคนงานหญิง

* หลักฐานจากประเทศจีนโดย ขงจื้อได้กล่าวถึงการแบ่งงานกันท ารวมถึงการหมุนเวียนงานซึ่งขงจื้อเป็นนักปรัชญา ที่จัดอยู่ในกลุ่มทฤษฏี จิตวิเคราะห์

Page 8: วิชา การจัดการทรัพยากรมนุษย์ ......ส าค ญด งน 1.1 การหาการท างานท ด ท ส ด 1.2

ก า ร ป ฏิ วั ติ อุ ต ส า ห ก ร ร ม เ กิ ด ขึ้ น ใ นคริสต์ศตวรรษที่ 18 เกิดการเปลี่ยนแปลงทางด้านวิชาการ และแนวความคิดทางการเมือง การคิดค้นเรื่องเครื่องจักร และการการก่อตั้งโรงงานอุตสาหกรรมมากขึ้น มีความต้องการก าลังคนในการท างาน

ซึ่งผลที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ เป็นการเปลี่ยนจากการด าเนินงานแบบครัวเรือนไปสู่ระบบโรงงานอุตสาหกรรมมีการใช้เครื่องจักร และวัตถุดิบที่มีคุณภาพยิ่งขึ้น โดยการดูแลควบคุมของผู้เป็นเจ้าของเท่านั้น ลูกจ้างเป็นผู้ใช้แรงงานอย่างเดียว

สิ่ ง ที่ เ ห็ น ชั ด เ จ น ใ น ก า ร ป ฏิ วั ติอุตสาหกรรม คือ เป็นการมุ่ งพัฒนาทางด้ านเครื่องจักรกล แต่สภาพการปฏิบัติงานของบุคลกรยังไม่ดี ขากการดูแลเอาใจใส ่

2. ยุคปฏิวัตอิุตสาหกรรม

Page 9: วิชา การจัดการทรัพยากรมนุษย์ ......ส าค ญด งน 1.1 การหาการท างานท ด ท ส ด 1.2

เป็นยุคหลังการปฏิวัติอุตสาหกรรมในตอนต้นศตวรรษที่ 19 ได้เกิดวิวัฒนาการจัดการขนาดใหญ่ เรียกว่าการจัดการแบบวิทยาศาสตร์ ซึ่งวิธีการขั้นพื้นฐานที่ส าคัญของการจัดการแบบวิทยาศาสตร์ คือ 1 . พัฒนาหลั กกา รปฏิ บั ติ ง าน ให้ ดี ขึ้ น (Develop Principle of Work) 2. ว า ง ม า ต ร ฐ า น ใ น ก า ร ป ฏิ บั ติ ง า น (Standard of Work) 3. ควบคุมการปฏิบัติงาน (Control of Work)

3. ยุคกลาง (ยุคการจัดการแบบวิทยาศาสตร์)

Page 10: วิชา การจัดการทรัพยากรมนุษย์ ......ส าค ญด งน 1.1 การหาการท างานท ด ท ส ด 1.2

หมายถึง การจัดการที่ยึดหลักและวิธีการทางวิทยาศาสตร์ที่มีการวิจัย ทดลองและพิสูจน์ได้ด้วยกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ซึ่งแนวคิดนักวิชาการที่น่าสนใจมีดังนี้

ทฤษฎกีารจัดองค์การแบบวิทยาศาสตร์ (scientific management)

เฟรเดอริก เทเลอร์ (Frederick W. Taylor) สรุปหลักการที่ส าคัญไว้ 4 ประการ ดังน้ี

1. การหาวิธีการที่ดีที่สุด (one best way) ในการท างาน

2. การคัดเลือกคนงานโดยใช้หลักการและหลักเกณฑ์ที่แน่นอน

3. การจัดให้มีการจูงใจด้านการเงิน

4. การแยกฝ่ายบริหารจากฝ่ายปฏิบัติการ

Page 11: วิชา การจัดการทรัพยากรมนุษย์ ......ส าค ญด งน 1.1 การหาการท างานท ด ท ส ด 1.2

การบริหารแบบวิทยาศาสตร์ :Frederick W.Taylor

ข้อเสีย การบริหารจัดการแบบวิทยาศาสตร์ถูกวิจารณ์วา่ ไม่ไดค้ านึงถึงองค์ประกอบที่เป็นมนุษย์ ท าให้ขาดความไว้วางใจผู้บริหาร การน าไปใช้ ตามทฤษฎี Taylor เห็นว่าสามารถน าไปใช้ได้กับขั้นตอนการปฏิบัติงานทุกประเภท อย่ าง ไรก็ตามในทางปฏิบัติ ความคิด เกี่ ยวกับวิทยาการจัดการของ Taylor ได้รับการต่อต้านจากหลายฝ่าย เช่น นักบริหารระดับผู้จัดการ หัวหน้าง านที่ ไ ม่ มี ค ว ามรู้ / คว ามคิ ดที่ Taylor ให้ ก า รยกย่ อ ง ผู้ เ ชี่ ย วช าญพิ เ ศษ(Specialist) ส่วนสหภาพแรงงานก็ต่อต้านเพราะรู้สึกว่า Taylor มองคนเหมือนหุ่นยนต ์

Page 12: วิชา การจัดการทรัพยากรมนุษย์ ......ส าค ญด งน 1.1 การหาการท างานท ด ท ส ด 1.2

หมายถึง การจัดการที่ยึดหลักและวิธีการทางวิทยาศาสตร์ที่มีการวิจัย ทดลองและพิสูจน์ได้ด้วยกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ซึ่งแนวคิดนักวิชาการที่น่าสนใจมีดังนี้

1.1 ทฤษฎีการจัดองค์การแบบวิทยาศาสตร์ (scientific management)

1.1.1 เฟรเดอริก เทเลอร์ (Frederick W. Taylor) สรุปหลักการที่ส าคัญไว้ 4 ประการ ดังนี ้

1. การหาวิธีการที่ดีที่สุด (one best way) ในการท างาน

2. การคัดเลือกคนงานโดยใช้หลักการและหลักเกณฑ์ที่แน่นอน

3. การจัดให้มีการจูงใจด้านการเงิน

4. การแยกฝ่ายบริหารจากฝ่ายปฏิบัติการ

Page 13: วิชา การจัดการทรัพยากรมนุษย์ ......ส าค ญด งน 1.1 การหาการท างานท ด ท ส ด 1.2

1.2 ทฤษฎีการจัดการเชิงกระบวนการ หมายถึง การจัดการที่ยึดหลักกระบวนการการบริหารหรือหน้าที่ทางการบริหาร ซึ่งถ้าผู้จัดการท าหน้าที่บริหารตามที่ก าหนดไว้ จะท าให้องค์การประสบความส าเร็จอย่างแนน่อน ซึ่งแนวคิดนักวิชาการที่น่าสนใจมีดังนี้

1.2.1 เฮนรี ฟาโยว์ (Henry Fayol) ได้น าเสนอกิจกรรมการจัดการใน 2 ประเด็น

1) หลักการจัดการ

2) หน้าที่ของการจัดการ มี 5 ประการ ได้แก ่

(1) การวางแผน (2) การจัดองค์การ (3) การบังคับบัญชา (4) การประสานงาน (5) การควบคุม

Page 14: วิชา การจัดการทรัพยากรมนุษย์ ......ส าค ญด งน 1.1 การหาการท างานท ด ท ส ด 1.2

2.2 หลักการบริหารงานทั่วไป ที่จะสร้างประสิทธิภาพ 14 ข้อ 1. การแบ่งงานกันท า 2. อ านาจหน้าที่ 3.วินัย 4. เอกภาพในการบังคับบัญชา 5. เอกภาพในการด าเนินการ 6. ผลประโยชน์ส่วนตัว เป็นรองผลประโยชน์ส่วนร่วม 7. การจ่ายผลตอบแทน 8. การรวมอ านาจ 9. สายการบังคับบัญชา 10. ความมีระเบียบ 11. ความเสมอภาค 12. ความมั่นคงในการท างาน 13. ความคิดริเริ่ม 14. ความสามัคคี

Page 15: วิชา การจัดการทรัพยากรมนุษย์ ......ส าค ญด งน 1.1 การหาการท างานท ด ท ส ด 1.2

ใ น ยุ ค นี้ ถื อ ว่ า เ ป็ น ก า ร บ ริ ห า รทรัพยากรตามทฤษฎีแผนใหม่ เป็นยุคที่มีการศึกษาคันคว้า เรื่องความสัมพันธ์ ระหว่างบุคคลและการจัดการด้านบุคคลมากขึ้น ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเรื่องของการวิจัยและพัฒนา แนวคิดใหม่ ๆ

4. ยุคปัจจุบัน Moderm Organization theory

Page 16: วิชา การจัดการทรัพยากรมนุษย์ ......ส าค ญด งน 1.1 การหาการท างานท ด ท ส ด 1.2

ความหมายของทฤษฎีองค์การ ศิริวรรณ เสรีรัตน์ สมชาย หิรัญกิตติ ได้ให้ความหมายว่า ทฤษฎี หมายถึง การจัดกลุ่มอย่างมีระบบของความคิดและหลักเกณฑ์ที่ขึ้นแก่กัน ซึ่งก าหนดโครงสร้างการท างาน หรือน าความรู้มารวมกันเพื่อให้ได้มาซึ่งความรู้ที่ส าคัญเรื่องใดเรื่องหนึ่ง

เวกค์ ได้ให้ความหมายว่า ทฤษฎี หมายถึง ระบบของฐานคติหลักการที่ได้รับการยอมรับและกฎเกณฑ์ของกระบวนการที่ใช้ในการวิเคราะห์ พยากรณ์ หรือ อธิบายธรรมชาติของพฤติกรรมของปรากฎการณ์ที่ได้รับการสนใจศึกษา

สรุป ทฤษฎี หมายถึง ชุดของแนวคิดที่เชื่อมโยงสัมพันธ์กันเพื่อใช้อธิบายปรากฎการณ์ต่างๆที่อยู่ในความสนใจศึกษา

Page 17: วิชา การจัดการทรัพยากรมนุษย์ ......ส าค ญด งน 1.1 การหาการท างานท ด ท ส ด 1.2

ลักษณะที่ส าคัญของทฤษฎีองค์การ

เป็นการศึกษาพฤติกรรมขององค์การในลักษณะภาพรวม ครอบคลุมถึงการออกแบบโครงสร้างองค์การ หรือระบบภายในองค์การ

เป็นการศึกษาความสัมพันธ์ขององค์การกับสิ่งแวดล้อมภายนอก

เป็นการศึกษาความสัมพันธ์ขององค์การหนึ่งกับองค์การอื่นๆ

Page 18: วิชา การจัดการทรัพยากรมนุษย์ ......ส าค ญด งน 1.1 การหาการท างานท ด ท ส ด 1.2

ประโยชน์ของการศึกษาทฤษฎีองค์การ

ทฤษฎีองคก์าร

การออกแบบโครงสร้างและระบบขององคก์าร

การประยุกตเ์ทคนิค การจัดการ

สมาชิกมสุีขภาพด ี

การเปลี่ยนแปลงองคก์าร

การตอบสนองต่อความต้องการของสังคม

เข้าใจพฤตกิรรรมมนุษย์มากขึน้

ความเข้าใจและการวินิจฉัยปรากฎการณข์ององคก์าร

การด าเนินงานอย่างมีประสิทธิภาพ

Page 19: วิชา การจัดการทรัพยากรมนุษย์ ......ส าค ญด งน 1.1 การหาการท างานท ด ท ส ด 1.2

ซึ่งจริง ๆ แล้ว !!! โอ้โฮนานจริงๆ เกิดเมื่อ 2000 ปีมาแล้ว ในยุค อียิปส์ โบราณ

ส่วนประเทศไทยปรากฏหลักฐาน เมื่อสมัยสุโขทัย

การปกครองแบบพ่อปกครองลกู สมัยอยุธยา

การบริหารแบบระบบ เวียง วัง คลัง นา สมัยรัตนโกสินทร์ ( รัชกาลที่ 5 )

โดยได้มีการยกเลิกทาส และยังได้แยกหรือจ าแนก ลักษณะการท างานออกเป็น 3 จ าพวก

1. พวกที่เป็นเจ้าของกิจการ 2. พวกที่เป็นช่างฝีมือหรือผู้จับจ้างท างาน 3. พวกผูฝ้ึกงาน

Page 20: วิชา การจัดการทรัพยากรมนุษย์ ......ส าค ญด งน 1.1 การหาการท างานท ด ท ส ด 1.2

2. การจัดการองค์การสมัยใหม่ (neo-classic theory)

ทฤษฎีองค์การสมัยใหม่ เป็นทฤษฎีที่พัฒนามาจากทฤษฎีองค์การคลาสสิก โดยพัฒนามาพร้อมกับวิชาการด้านสังคมวิทยา จิตวิทยา การพัฒนาที่ส าคัญเกิดขึ้นระหว่าง ค.ศ. 1910 และ 1920 ในระยะนี้ การศึกษาด้านปัจจัยมนุษย์เริ่มพัฒนา โดยมองเห็นความส าคัญและคุณค่าของมนุษย์ (Organistic) ที่ด าเนินการตั้งแต่ ค.ศ. 1924 – 1932 ได้ชี้ให้เห็นถึงความส าคัญในการศึกษาทางพฤติกรรมศาสตร์ และในช่วงนี้ แนวความคิดด้านมนุษยสัมพันธ์ (Human Relation Movement) ได้รับการน ามาพิจารณาในองค์การและขบวนการมนุษยสัมพันธ์นี้ได้มีการเคลื่อนไหวพัฒนาในประเทศสหรัฐอเมริกาอย่างเต็มที่ในระหว่าง ค.ศ. 1940 – 1950 ความสนใจในการศึกษากลุ่มนอกแบบ หรือกลุ่มอย่างไม่เป็นทางการ (Informal Group) ที่แฝงเข้ามาในองค์การที่มีรูปแบบมีมากขึ้น ทฤษฎีองค์การสมัยใหม่มุ่งให้ความสนใจด้านความต้องการ (needs) ของสมาชิกในองค์การเพิ่มขึ้น

Page 21: วิชา การจัดการทรัพยากรมนุษย์ ......ส าค ญด งน 1.1 การหาการท างานท ด ท ส ด 1.2

สรุปได้ว่า ทฤษฎีองค์การสมัยใหม่ให้ความส าคัญในด้านความรู้สึกบุคคล ยอมรับถึงอิทธิพลทางสังคมที่มีผลกระทบต่อการปฏิบัติงาน อาทิเช่น กลุ่มคนงาน และการมีส่วนร่วมในการตัดสินใจ ซึ่งมีความเชื่อว่าขบวนการมนุษยสัมพันธ์นี้จะให้ประโยชน์ ในการผ่อนคลายความตายตัวในโครงสร้างขององค์การสมัยดั้งเดิมลง

Page 22: วิชา การจัดการทรัพยากรมนุษย์ ......ส าค ญด งน 1.1 การหาการท างานท ด ท ส ด 1.2

กลุ่มทฤษฎีองค์กรสมัยใหม่ (เน้นทางด้านพฤติกรรม)

• ทฤษฎีมนุษย์สัมพันธ์

• ทฤษฎีการจูงใจ

• ทฤษฎีล าดับขั้นความต้องการ

• ทฤษฎี X ทฤษฎี Y

Page 23: วิชา การจัดการทรัพยากรมนุษย์ ......ส าค ญด งน 1.1 การหาการท างานท ด ท ส ด 1.2

1. ทฤษฎีมนุษย์สัมพันธ์ : Elton Mayo

Hawthorne Studies ค.ศ.1924 - 1932

• ความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลที่ท างาน

• ผลตอบแทนท่ีไม่ใช่ตัวเงิน

• การจูงใจ ขวัญของคนงาน และผลผลิต

มีความสัมพันธ์กันเสมอ

Page 24: วิชา การจัดการทรัพยากรมนุษย์ ......ส าค ญด งน 1.1 การหาการท างานท ด ท ส ด 1.2

ทฤษฎีมนุษย์สัมพันธ์ ( Human Relation Theory)

การบริหารที่ประสบความส าเร็จ - โครงสร้างองค์การที่ชัดเจน - ระเบียบ ข้อบังคับ ขั้นตอนในการท างาน - ความสัมพันธ์แบบเป็นทางการระหว่างบุคคล - ทุกคนต้องท างานตามขั้นตอนและวิธีการที่องค์การก าหนดไว้อย่างเคร่งครัด

Page 25: วิชา การจัดการทรัพยากรมนุษย์ ......ส าค ญด งน 1.1 การหาการท างานท ด ท ส ด 1.2

ทฤษฎีมนุษยส์ัมพันธ์

* ความสัมพันธ์ทางสังคมระหว่างมนุษย์ซึ่งก่อให้เกิด

ความเข้าใจอันดีต่อกัน

* วิชาที่ว่าด้วยศาสตร์และศิลป์ในการเสริมสร้างความ

สัมพันธ์อันดีกับบุคคล เพื่อให้ได้มาซึ่งความรักใคร่

นับถือ ความร่วมมือ ความจงรักภักดี และ

ความส าเร็จ

Page 26: วิชา การจัดการทรัพยากรมนุษย์ ......ส าค ญด งน 1.1 การหาการท างานท ด ท ส ด 1.2

การจูงใจ หมายถึง ศาสตร์ที่ว่าด้วยการกระตุ้นความรู้สึกของพนักงานในองค์กรให้แสดงพฤติกรรมโดยกระท ากิจกรรมต่างๆอย่างเต็มความรู้ความสามรถอย่างมีทิศทางที่ชัดเจนและแสดงออกซึ่งพฤติกรรมนั้นจะมีทั้งการแสดงออกด้วยความตั้งใจและความพยายาม จะใช้พลังงานที่มีอยู่ในตนเองปฏิบัติกิจกรรมเพ่ือบรรลุผลส าเร็จตามความต้องการและสร้างความพึงพอใจในการท างานอย่างสูงสุด ประเภทของแรงจูงใจแบ่งออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ

1. ประเภทแรงจูงใจตามแหล่งที่เกิด ได้แก่ ก. แรงจูงใจภายนอก ข. แรงจูงใจภายใน 2. ประเภทแรงจูงใจตามธรรมชาติของมนุษย์ ก.แรงจูงใจทางสรีระวิทยา ข.แรงจูงใจทางจิตวิทยา ค.แรงจูงใจทางสงัคม

2. ทฤษฎีการจูงใจ

Page 27: วิชา การจัดการทรัพยากรมนุษย์ ......ส าค ญด งน 1.1 การหาการท างานท ด ท ส ด 1.2

ทฤษฎีการจูงใจกับสุขวิทยา Motivation – Hygiene - ปัจจัยทางสุขวิทยา(Hygiene Factors) - ความเข้าใจในนโยบายและการบริหารของบริษัท - การบังคับบัญชา - ความสัมพันธก์ับบุคคลอ่ืน - เงินเดือน - สภาพแวดล้อม

- ปัจจัยจูงใจ (Motivation Factors) - ความส าเร็จในการปฏิบัติงาน - การได้รับการยอมรับจากคนอื่น - การมีโอกาสก้าวหน้าในงาน - การได้ท างานที่ถนัด - ความรับผิดชอบที่เหมาะสมกับต าแหน่ง

เฮิร์ชเบิร์กได้แนะน าการจูงใจอีก 3 วิธี

+1. การปรับปรุงงาน +2. การเพิ่มขยายงาน +3. การหมุนเวียนสับเปลี่ยนต าแหน่งงาน

Page 28: วิชา การจัดการทรัพยากรมนุษย์ ......ส าค ญด งน 1.1 การหาการท างานท ด ท ส ด 1.2

การจูงใจทางบวก

เงิน ต าแหน่ง การยกย่องชมเชย ความก้าวหน้า...

การจูงใจทางลบ

การลงโทษทางวินัย การโยกย้าย การตัด

ค่าจ้าง...

การจูงใจ แบ่งเป็น 2 วิธีใหญ่ๆ

Page 29: วิชา การจัดการทรัพยากรมนุษย์ ......ส าค ญด งน 1.1 การหาการท างานท ด ท ส ด 1.2

29

3. ทฤษฎีความต้องการของ Maslow

สมมติฐาน : 4 ประการ เฉพาะความต้องการที่ยังไม่ได้รับการตอบสนองที่สามารถกระตุ้นการท างานได้ ความต้องการที่ได้รับการตอบสนองแล้วจะไม่สามารถจูงใจได้

ความต้องการของคนเรียงล าดบัตามความส าคัญ คนเราจะต้องได้รับตอบสนองในล าดับล่างก่อน จึงจะมีความต้องการในขั้นสูงต่อไป

ถ้าความต้องการที่ได้รับการตอบสนองแลว้หมดไปความต้องการนั้นจะกลับมาอีกครั้ง

Page 30: วิชา การจัดการทรัพยากรมนุษย์ ......ส าค ญด งน 1.1 การหาการท างานท ด ท ส ด 1.2

ทฤษฎีล าดับขั้นความต้องการของ Maslow

ความตอ้งการความส าเร็จสงูสดุ

ความตอ้งการเกยีรตยิศชือ่เสยีง

ความตอ้งการมสีว่นรว่มทางสงัคม

ความตอ้งการความปลอดภยัและมั่นคง

ความตอ้งการทางกายภาพ, ชวีภาพ

อุดมการณ์

พรรคนิยม

ใฝ่รัก

ปลอดภัย

ชีพรอด

1

2

3

4

5

Page 31: วิชา การจัดการทรัพยากรมนุษย์ ......ส าค ญด งน 1.1 การหาการท างานท ด ท ส ด 1.2

ความต้องการ การก าหนด กิจกรรม ที่ยังไม่ได้รับ น าไปสู่เป้าหมาย น าไปสู่ การตอบสนอง เป้าหมาย

หิว ง่วงนอน อยากหาเงิน รายได ้ อยากมีเพื่อน

- ตอ้งหาอาหาร ตอ้งหาท่ีนอน ตอ้งท างาน ตอ้งไปหาคน รูจ้กั

- ไปซือ้อาหารท าอาหารกิน - กลบับา้นไปนอนฟบุกบัโต๊ะนอน - ไปสมคัรงาน โทรศพัทไ์ปหาเพื่อน - ไปเท่ียว ฟังเพลง ดหูนงักบัเพื่อน

Page 32: วิชา การจัดการทรัพยากรมนุษย์ ......ส าค ญด งน 1.1 การหาการท างานท ด ท ส ด 1.2

1. ความต้องการพื้นฐานทางกายภาพ, ชีวภาพ (Physiological Needs)

เป็นความต้องการพื้นฐานเพื่อการอยู่รอด เช่น ปัจจัยสี่ (อาหาร, เครื่องนุ่งห่ม, ที่อยู่อาศัย, ยารักษาโรค) การขับถ่าย, การพักผ่อน เรื่องเพศ เป็นต้น

เงินเป็นตัวกลางในการได้มาซึ่งสิ่งจ าเป็นต่างๆ

Page 33: วิชา การจัดการทรัพยากรมนุษย์ ......ส าค ญด งน 1.1 การหาการท างานท ด ท ส ด 1.2

33

2. ความต้องการความปลอดภัยและมั่นคง (Security Needs)

มนุษย์ต้องการอยู่ห่างจากอันตรายทั้งปวง เช่น อุบัติเหตุ, โรคภัยไข้เจ็บ, โจรขโมย เป็นต้น ความมั่นคงในอาชีพ มีการสนใจในหลักประกันมากขึ้น ดูจาก... ประกันภัยในรูปแบบต่างๆ (ด้านสุขภาพ, อุบัติเหตุ และ ชีวิต)

เงินสะสม หรือ บ าเหน็จบ านาญ เมื่อเกษียณอายุ

Page 34: วิชา การจัดการทรัพยากรมนุษย์ ......ส าค ญด งน 1.1 การหาการท างานท ด ท ส ด 1.2

34

3. ความต้องการมีส่วนร่วมทางสังคม (Social Needs)

ต้องการเป็นส่วนหนึ่งของสังคมและเป็นที่ยอมรับ รวมถึงความต้องการในความรักใคร่ด้วย เช่น จากบิดามารดา สามีหรือภรรยา เพื่อนร่วมงาน เป็นต้น

Page 35: วิชา การจัดการทรัพยากรมนุษย์ ......ส าค ญด งน 1.1 การหาการท างานท ด ท ส ด 1.2

35

4. ความต้องการเกียรติยศชื่อเสียง (Esteem Needs)

ความต้องการของบุคคลที่จะมีคุณค่าในสายตาคนอื่น เช่น การได้รับชื่อเสียง, การได้รับอ านาจ,ได้รับความสนใจ, ถูกให้ความส าคัญ, การรู้สึกว่ามีคุณค่าส าหรับโลกนี้

Page 36: วิชา การจัดการทรัพยากรมนุษย์ ......ส าค ญด งน 1.1 การหาการท างานท ด ท ส ด 1.2

36

5. ความต้องการที่จะประสบความส าเร็จสูงสุด (Self-Actualization)

ความต้องการความเจริญเติบโต และความต้องการใช้ความสามารถอย่างเต็มที่ หรือ แนวโน้มที่บุคคลมีความปรารถนาที่จะเป็นอย่างที่ตนเป็นมากขึ้น สูงขึ้น โดยเป็นทุกสิ่งทุกอ ย่ า ง ที่ เ ข า ส า ม า ร ถ จ ะ เ ป็ น ไ ด้ *ค ว ามแตกต่ า ง ของบุ คคลมี ม ากที่ สุ ด ที่ระดับนี้

Page 37: วิชา การจัดการทรัพยากรมนุษย์ ......ส าค ญด งน 1.1 การหาการท างานท ด ท ส ด 1.2

4. ทฤษฎี X ทฤษฎี Y

Douglas McGregor ดักกลาส แมคเกรเกอร์ ได้อธิบายไว้ว่า การจูงใจคนงานมีอยู่ 2 วิธี คือ วิธีเดิม เรียกว่า ทฤษฎี X และวิธีแบบมนุษย

สัมพันธ์เรียกว่าทฤษฎี Y

Page 38: วิชา การจัดการทรัพยากรมนุษย์ ......ส าค ญด งน 1.1 การหาการท างานท ด ท ส ด 1.2

Douglas McGregor ดักกลาส แมคเกรเกอร์

มนุษย์ทุกคนมีความรับผิดชอบ

มนุษย์ไม่เฉื่อยชา

มนุษยท์ุกคนมีพื้นฐานที่ดี

มนุษย์มีสันดานขี้เกียจ พยายามหลีกเลี่ยงงาน

มนุษย์เห็นแก่ตัวคิดถึงแต่ตัวเอง

มนุษย์มีนิสัยต่อต้านการเปลี่ยนแปลง มนุษย์ไม่ฉลาดนัก ถูกหลอกง่าย

Page 39: วิชา การจัดการทรัพยากรมนุษย์ ......ส าค ญด งน 1.1 การหาการท างานท ด ท ส ด 1.2

ทฤษฏี X และทฤษฏี Y ของ McGregor

ทฤษฎี X คือ การมองพนักงานในเชิงลบ เช่น คนเกียจคร้านไม่ชอบท างาน

มีความทะเยอทะยานต่ า

จะต้องบังคับเพื่อให้ท างาน

ทฤษฎี Y คือการมองพนักงานในแง่ดี เช่น

มีความรับผิดชอบ

คิดอย่างสร้างสรรค ์

ควบคุมตนเองได ้

ใช้แรงจูงใจในการกระตุ้นการท างาน

Page 40: วิชา การจัดการทรัพยากรมนุษย์ ......ส าค ญด งน 1.1 การหาการท างานท ด ท ส ด 1.2

ทฤษฎี X ทฤษฎี Y

1.มนุษย์เป็นสัตว์ชนิดหนึ่ง 2.ความชั่วร้ายเป็นมรดกที่มนุษย์ได้รับ มาตามธรรมชาติ 3.มนุษย์ถูกผลักดันให้กระท าสิ่งต่างๆ ด้วยความต้องการทางร่างกาย 4.สิ่งจูงใจของมนุษย์ คือ การใช้อ านาจ ขู่เข็ญบังคับ 5.การชิงดีชิงเด่นเป็นรากฐานของมนุษย์ ในการปฏิบัติต่อกัน 6.หน่วยสังคมที่ส าคัญของมนุษย์ คือ ตนเอง 7.การมองโลกในแง่ร้ายเป็นของมนุษย์

1.มนุษย์รู้จักประมาณขีดความสามารถ ของตนเอง 2.ความดีเป็นมรดกที่มนุษย์ได้รับ มาตามธรรมชาติ 3.มนุษย์ถูกผลักดันให้กระท าในสิ่งต่างๆ เพราะคุณค่าของความเป็นคน 4.การให้ความร่วมมือด้วยความสมัครใจ เป็นผลการจูงใจของมนุษย์ 5.การให้ความร่วมมือร่วมใจเป็นรากฐาน ของมนุษย์ในการปฏิบัติต่อกัน 6.หน่วยที่ส าคัญของมนุษย์ คือ การ ท างานร่วมกันเป็นกลุ่ม 7.การมองโลกในแง่ดี เป็นปกติของ มนุษย์

Page 41: วิชา การจัดการทรัพยากรมนุษย์ ......ส าค ญด งน 1.1 การหาการท างานท ด ท ส ด 1.2

Douglas McGregor ดักกลาส แมคเกรเกอร ์

ข้อด ี ข้อเสีย

ทฤษฎนีี้พยายามท าความเข้าใจ

พฤติกรรมของมนุษย์เพราะเห็นว่ามนุษย์

สามารถบอกหรือให้เหตุผลต่อสิ่งที่ตน

ท าหรือชอบได้เสมอ การที่ใช้ศาสตร์ด้าน

อื่น เช่น การจัดการแบบวิทยาศาสตร์

มาใช้ในการบริหาร ละเลยความถูกต้อง

ที่แท้จริงของมนุษย์ เป็นต้น

ทฤษฎีนี้พยายามท าความเข้าใจ

มนุษย์ แต่ไม่พยายามที่จะแก้พฤติกรรม

เหล่านั้น กลับพยายามที่จะปรับปรุงและ

สร้างงานให้เหมาะกับคนมากกว่าซึ่งน่าจะ

เป็นการแก้ไขทั้งสองทางเข้าด้วยกัน

การเปรียบเทียบข้อดีและข้อเสียตามแนวคิดของ McGregor

Page 42: วิชา การจัดการทรัพยากรมนุษย์ ......ส าค ญด งน 1.1 การหาการท างานท ด ท ส ด 1.2

ให้นักศึกษาแบ่งกลุ่ม ออกเป็น 4 กลุ่ม และจากการศึกษาทฤษฎีองค์กรสมัยใหม่ ทั้ง 4 ทฤษฎี อธิบายถึงข้อดีและข้อเสีย ของทฤษฎีนั้นๆ และหากนักศึกษาเป็นผู้บริหาร นักศึกษาจะใช้ทฤษฎี.... มาบริหารหรือประยุกต์ใช้อย่างไร พร้อมบอกเหตุมาให้เข้าใจ และน าเสนอในสัปดาห์ถัดไป

แบบฝึกหัด