บทที่ 1 : แนวความคิดเกี่ยวกับ ......11 2....

Post on 30-Dec-2019

5 Views

Category:

Documents

0 Downloads

Preview:

Click to see full reader

TRANSCRIPT

บทที่ 1 : แนวความคิดเกี่ยวกับการตลาด

และกระบวนการทางการตลาด

อาจารย์เรวดี ไวยวาสนา

2

ความหมายของการตลาด (Marketing)

สมาคมการตลาดแห่งประเทศสหรัฐอเมริกา

(American Marketing Association)

การตลาด หมายถึง กระบวนการวางแผนและบริหารแนวความคิด ราคา การจัดจ าหน่ายผลิตภัณฑ์หรือบริการและการส่งเสริมทางการตลาด เพื่อการแลกเปลี่ยนผลิตภัณฑ์หรือบริการจากผู้ผลิตไปสู่ผู้บริโภคขั้นสุดท้าย

Philip Kotler

3

4

ฟิลิป คอตเลอร ์

การตลาด หมายถึง กระบวนการทางสังคมและการบริหาร (Social and Managerial Process) ในอันที่จะท าให้ปัจเจกบุคคลและกลุ่มบุคคลได้รับในสิ่งที่สนองความจ าเป็น(Needs) และความต้องการ(Wants)ของเขา โดยอาศัยก า ร ส ร้ า ง ส ร ร ค์ (Creating) ก า ร น า เ ส น อ ( Offering) ก า ร แ ล ก เ ป ลี่ ย น ( Exchanging) ผลิตภัณฑ์และสิ่งที่มีมูลค่า(Value) กับผู้อื่น

5

William Stanton

การตลาด หมายถึง ระบบกิจกรรมทางธุรกิจที่เกี่ยวกับการวางแผนงาน การก าหนดราคา การส่งเสริมการตลาดและการจัดจ าหน่ายผลิตภัณฑ์และบริการเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคปัจจุบันและผู้บริโภคคาดหวังในอนาคต

6

สรุป

การตลาด จะประกอบด้วยกิจกรรมต่าง ๆ ที่เราสร้างขึ้นเพื่ออ านวยความสะดวก และก่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนที่มุ่งสนองตอบความต้องการของมนุษย์ให้เกิดความพึงพอใจอย่างสูงสุด และภายใต้การมีก าไรของกิจการ

7

โดยมีความเกี่ยวข้องกับเรื่องต่อไปนี ้

1. ความจ าเป็นและความต้องการ (Needs and Wants)

2. ผลิตภัณฑ์ (Products) 3. คุณค่า ต้นทุน และความพึงพอใจ(Value

Costs and Satisfaction) 4. การแลกเปลี่ยน ( Exchange) 5. ความสัมพันธ์ (Relationship)

8

ความหมายของตลาด (Market)

ตลาด หมายถึง สถานที่ ที่ผู้ซื้อและผู้ขายมาพบปะกันเพื่อท าธุรกิจการค้า

หรือหมายถึง ที่ซึ่งมีสินค้าหรือบริการเสนอขายและมีการโอนย้ายเปลี่ยนมือกันทางกรรมสิทธิ ์

9

ตลาดประกอบด้วย

1.ความจ าเป็น (Needs)

2. ความต้องการ (Wants)

3. ความปรารถนาที่จะซื้อ (Willingness to buy)

4. มีเงินที่จะซื้อ (Money to buy)

5. มีอ านาจในการซื้อ (Authority to buy)

10

แนวความคิดด้านการตลาด

1. แนวคิดมุ่งเน้นการผลิต(The Production Concept)

เน้นปริมาณการผลิต ผู้ผลิตเน้นการปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตให้มีจ านวนมากและมีต้นทุนต่ าเพื่อจ าหน่ายในราคาต่ า เน้นก าไรมาก ๆ ส่งผลให้ผู้บริโภคไม่มีโอกาสเลือกสินค้า

11

2. แนวคิดมุ่งเน้นผลิตภัณฑ์(The Product Concept)

เป็นช่วงที่มีคู่แข่งขันในตลาดมาก ท าให้มีสินค้าจ านวนมาก ราคาใกล้เคียงกัน แนวคิดนี้ ผู้ ผ ลิ ต ใ ห้ ค ว า ม ส า คั ญ กั บ คุ ณ ภ า พ ประสิทธิภาพของสินค้าที่ผลิตสูงขึ้นกว่าแนวคิดที่ 1 และมุ่งพัฒนาผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง

12

3. แนวคิดมุ่งเน้นการขาย(The Selling Concept) แนวคิดนี้เน้นการแก้ปัญหาการขายสินค้าที่มีอยู่ด้วยวิธีการขายในรูปแบบต่าง ๆ เพื่อกระตุ้นให้เกิดการบริ โภคสินค้ า ส่ วนมากใช้กับการขายผลิตภัณฑ์ที่ผู้ซื้อไม่เคยคิดซื้อมาก่อน และเป็นสินค้าที่ขายยาก เป็นแนวคิดที่มีลักษณะเริ่มจากภายในไปสู่ภายนอก(Inside-Out)

แนวคิดที่ 1-3 จัดเป็นแนวคิดทางการตลาดแบบดั้งเดิม จะเน้นเฉพาะผู้ขายหรือผู้ผลิต

13

4.แนวคิดมุ่งเน้นการตลาด (The Marketing Concept) เน้นความต้องการของผู้บริ โภคเป็นส าคัญ

เป็นแนวคิดหลักของการด าเนินธุรกิจทั่วไปในปัจจุบัน มีการศึกษาวิเคราะห์ถึงความจ าเป็น ความต้องการของผู้ซื้อก่อนแล้วจึงน าข้อมูลที่ได้รับมาด าเนินการผลิตสินค้าหรือบริการออกสู่ตลาดเพราะความต้องการของผู้บริโภคมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา (บริษัทเน้นการได้รับก าไรในระยะยาว) เป็นแนวคิดที่มีลักษณะเริ่มจากภายนอกเข้าสู่ภายใน(Outside-In)

14

หลักส าคัญของแนวคิดมุ่งเน้นการตลาด

1. การตอบสนองความต้องการของลูกค้า (Meeting Customer Needs)

2. การใช้ความพยายามทางการตลาดของทุกฝ่ายให้ เกิดการประสานสัมพันธ์กัน

(Coordinating Marketing Efforts Across the Organization) 3. การด า เนินงานเพื่ อหวั งผลก าไรในระยะยาว

(Working for Long Term Profits)

15

ตารางเปรียบเทียบแนวคิดเน้นการขายกับเน้นการตลาด

แนวคิดมุ่งเนน้การขาย แนวคิดมุ่งเนน้การตลาด

1.เน้นความต้องการขายของผู้ขาย(Seller’ Oriented)

1 . เน้ นคว ามต้ อ งก า รของผู้บริโภค(Consumer’ Oriented)

2. เริ่ มต้นจากผลิตภัณฑ์ที่บริษัทมีอยู่แล้วเริ่มท าการขาย ส่ ง เ ส ริ มก า รข าย สู่ ค ว ามต้องการของผู้บริโภค(Inside-Out)

2. เริ่มต้นจาการพจิารณาถึงความต้องการของผู้บริโภคก่อนจึงน าเสนอผลิตภัณฑ์เพื่อตอบสนองความต้องการนั้น(Outside-In)

16

แนวคิดมุ่งเนน้การขาย แนวคิดมุ่งเนน้การตลาด

3. เน้นก าไรจากยอดขายสูงสุด 3. เน้นก าไรสูงสุดจากความพึงพอใจของผู้บริโภค

4. ใช้การวางแผนระยะสั้น ไม้เน้นการเติบโตอย่างยั่งยืนขององค์กร ท าให้องค์กรอยู่ได้ไม่นาน

4. ด าเนินงานตามแผนระยะยาวเพื่อการเติบโตขององค์กรในอนาคต

17

5. แนวคิดมุ่งเน้นการตลาดเพื่อสังคม(The Societal marketing Concept)

เป็นแนวคิดที่เน้นผลกระทบที่เกิดขึ้นในสังคมควบคู่ไปกับการตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคและวัตถุประสงค์ขององค์กร

18

ส่ ว น ป ร ะ ส ม ท า ง ก า ร ต ล า ด (Marketing Mix) / 4’Ps

หมายถึง ตัวแปรทางการตลาดที่ควบคุมได้ซึ่งใช้ร่วมกันเพื่อตอบสนองความต้องการ ความพึงพอใจของกลุ่มเป้าหมาย หรือเป็นเครื่องมือทางการตลาดเพื่อสร้างสรรค์คุณค่าให้กับลูกค้าและเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ทางการตลาดขององค์กร

ส่วนประสมทางการตลาด (4’Ps)

1. ด้านผลิตภัณฑ์ (Product)

2. ด้านราคา (Price)

3. ด้านช่องทางการจัดจ าหน่าย (Place)

4. ด้านการส่งเสริมการตลาด (Promotions)

19

ส่วนประสมทางการตลาดส าหรับธุรกิจบริการ (Marketing Mix : 7P's )

1. ด้านผลิตภัณฑ์ (Product)

2. ด้านราคา (Price)

3. ด้านช่องทางการจัดจ าหน่าย (Place)

4. ด้านการส่งเสริมการตลาด (Promotions)

5. ด้านบุคคล (People) หรือพนักงาน (Employee)

6. ด้านกายภาพและการน าเสนอ

(Physical Evidence/Environment and Presentation)

7. ด้านกระบวนการ (Process) 20

7P's

21

22

ประกอบด้วย 4P

Product (ผลิตภัณฑ์) ต้องมีอรรถประโยชน์(Utility or Benefit)และมีมูลค่า(Value) ในสายตาของผู้บริโภค

ผลิตภัณฑ์ แบ่งเป็น 2 ประเภท

1 . ผลิตภัณฑ์เพื่อการบริโภค(Consumer Goods)

1.1 ผลิตภัณฑ์สะดวกซื้อ(Convenience Goods)

23

ผลิตภัณฑ์หลัก(Staple Goods) ผลิตภัณฑ์ซื้อโดยแรงดลใจฉับพลัน(Impulses Goods)

ผลิตภัณฑ์ซื้อยามฉุกเฉิน(Emergency Goods)

1.2 ผลิตภัณฑ์เลือกซื้อ(Shopping Goods) ที่มีความเหมือนกัน (Homogeneous

goods)

ที่มีความแตกต่างกัน (Heterogeneous goods)

24

1.3 ผลิตภัณฑ์ที่ เจาะจงซื้อ (Specialty Goods) 1 . 4 ผ ลิ ต ภั ณฑ์ ที่ ไ ม่ ไ ด้ แ ส ว ง ห า ซื้ อ(Unsought Goods)

2. ผลิตภัณฑ์เพื่อการอุตสาหกรรม(Industrial Goods)

แบ่งเป็น 5 ประเภท

1. วัตถุดิบ (Raw Material)

2. ชิ้นส่วนประกอบ (Component parts)

25

3. สิ่งก่อสร้าง/อุปกรณ์ติดตั้ง (Installation)

4. อุปกรณ์เสริม (Accessory equipment)

5. เครื่องอ านวยความสะดวก (Supplies)

26

ว ง จ ร ชี วิ ต ผ ลิ ต ภั ณ ฑ์ (Product Life Cycle:PLC)

1. ขั้นแนะน า (Introduction) / บุกเบิก(Pioneer stage)

บ. ยังไม่ได้ก าไร

ใช้งบฯ โฆษณาสูง

ยอดขายเพิ่มอย่างช้า ๆ

27

2. ขั้นเจริญเติบโต (Growth)

ยอดขายเพิ่มอย่างรวดเร็ว

มีก าไรเพิ่มขึ้น

มีคู่แข่งขันเพิ่มจ านวนมาก(Me too product)

28

3. ขั้นอิ่มตัว (Saturation) / เจริญเติบโตเต็มที่(Maturity stage)

ยอดขายเริ่มลดลง

ก าไรคงที่หรือลดลง

ค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นในการป้องกันตลาดจากคู่แข่ง

29

4. ขั้นตกต่ า (Decline stage)

ยอดขาย+ก าไรลดลง

ค่าใช้จ่ายในการส่งเสริมการตลาดลดลง

บ. บางรายหยุดการผลิตสินค้า

อาจมีการพัฒนา+ปรับปรุงสินค้าใหม่เพื่อให้วงจรชีวิตผลิตภัณฑ์มีอายุยืนยาวไปอีกเพื่อรักษาตลาดไว้

Product Life Cycle

30

31

Price (ราคา)

หมายถึง จ านวนเงินหรือสิ่งอื่น ๆ ที่มีความจ าเป็นต้องจ่ายเพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์หรือบริการ หรือหมายถึง อัตราการแลกเปลี่ยนผลิตภัณฑ์ระหว่างกันในตลาด โดยใช้เงินเป็นสื่อกลาง

ราคาถือเป็นต้นทุน (cost)ของผ ลิ ต ภั ณ ฑ์ ห รื อ บ ริ ก า ร ซึ่ ง ผู้ บ ริ โ ภ ค จ ะเปรียบเทียบความคุ้มค่าที่ตนคาดหวังจะได้รับเมื่อใช้ผลิตภัณฑ์

Place or Distribution (ช่องทางการจัดจ าหน่าย)

หมายถึง ช่องทางในการเคลื่อนย้ายสินค้า+บริการจากองค์การไปตลาด รวมถึงกิจกรรมที่ช่วยในการกระจายตัวสินค้า ได้แก่ การขนส่ง การคลังสินค้า การบริหารสินค้าคงเหลือ หรือเส้นทางการจ าหน่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ และไม่ก่อให้เกิดปัญหาต่อการหาซื้อผลิตภัณฑ์ของผู้บริโภค

32

การจัดระบบช่องทางการจัดจ าหน่าย

มี 2 ลักษณะ

1. แบบขายตรง (Direct Marketing)

2. ผ่านพ่อค้าคนกลาง (Middle Man)

33

การบริหารช่องทางการจัดจ าหน่ายเพื่อกระจายตัวสินค้า

1 . ก า ร จั ด จ า ห น่ า ย อ ย่ า ง ทั่ ว ถึ ง (Intensive Distribution)

2 . ก า ร จั ด จ า ห น่ า ย แ บ บ เ ลื อ ก ส ร ร (Selective Distribution)

3 . ก า ร จั ด จ า ห น่ า ย แ บ บ ผู ก ข า ด (Exclusive Distribution)

34

Promotion (การส่งเสริมการตลาด) หมายถึง เครื่องมือการสื่อสารซึ่งใช้เพื่อสร้างความพึงพอใจต่อตราผลิตภัณฑ์ บริการ ความคิด หรือบุคคล เป็นการติดต่อข้อมูลข่ าวสารระหว่ า งผู้ ข ายกับลู กค้ า ในตลาดเป้าหมายได้เกิดการรับรู้ในสิ่งที่น าเสนอ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อ กระตุ้น เร่งเร้า จูงใจหรือเชิญชวนให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อ

35

เ ค รื่ อ ง มื อ ข อ ง ก า ร ส่ ง เ ส ริ ม ก า ร ต ล า ด

1. การโฆษณา (Advertising)

2. การประชาสัมพันธ์ (Public Relations)

3. การส่งเสริมการขาย (Sales Promotion)

4. การขายโดยใช้พนักงานขาย (Personal Selling)

5. การตลาดทางตรง (Direct Marketing)

36

การน าเอา 4P’s มาใช้ต้องค านึงถึง 4 C’s ควบคู่กันไปด้วย เพราะ 4C’s จะเป็นส่วนที่ลูกค้าเป้าหมายทางการตลาดได้น าเอามาคิดและค านงึถึงก่อนที่จะตัดสินใจซื้อ ดังตารางต่อไปนี ้

37

4P’s 4C’s

1. ผลิตภัณฑ์หรือบริการ (Product)

1 . ผ ลิ ต ภั ณฑ์ / บ ริ ก า ร ที่สนองตอบความพึงพอใจของผู้บริโภค (Consumer wants and need)

2. ราคา (Price) 2. ต้นทุนที่ผู้บริโภคพอใจที่จะจ่าย (Cost to Satisfy customer)

38

4P’s 4C’s 3.ช่องทางจัดจ าหน่าย(Place)

3. ความสะดวกสบายที่จะซื้อ (Convenience to buy)

4. การส่งเสริมการตลาด (Promotion)

4. การติดต่อสื่อสาร (Communication)

หน้าที่ของการส่งเสริมการตลาด

1. เพื่อให้ข้อมูลข่าวสาร (To inform)

2. เพื่อเชิญชวน (To persuade)

3. เพื่อเตือนความทรงจ า (To Remind)

39

ก ร ะ บ ว น ก า ร บ ริ ห า ร ก า ร ต ล า ด /กระบวนการทางการตลาด

(Marketing Management Process)

40

หมายถึง กระบวนการในการวางแผน(Planning) และการบริหารแนวความคิด (Executing the Conception) ก า ร ตั้ ง ร า ค า (Pricing) ก า ร ส่ ง เ ส ริ มการตลาด(Marketing Promotion)และการจัดจ าหน่าย(Distribution)สินค้า บริการ หรือความคิด เพื่อสร้างให้เกิดการแลกเปลี่ยนโดยสามารถบรรลุวัตถุประสงค์ขององค์การ

ก ร ะ บ ว น ก า ร บ ริ ห า ร ก า ร ต ล า ด

ขั้นที่ 1 : การวิเคราะห์สถานการณ์ทางการตลาด (Marketing Situation Analysis)

1. การสรุปประวัติของบริษัทและการสรุปแผนการบริหารบริษัท

2. การวิเคราะห์สถานการณ์ทางการตลาดในปัจจุบัน

2.1 วิเคราะห์สถานการณ์ด้านการตลาดพิจารณาจากสภาพแวดล้อมระดับมหภาคและจุลภาค

41

ระดับมหภาค (External Marketing Macro-Environment)

42

1. สภาพแวดล้อมด้านประชากรศาสตร์ (Demographic Environment) 2. สภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจ (Economic Environment) 3. สภาพแวดล้อมด้านเทคโนโลยี (Technology Environment)

4. สภาพแวดล้อมด้านสังคม+วัฒนธรรม

(Social-Culture Environment)

5. สภาพแวดล้อมด้านกฎหมายการเมือง

(Political-Legal Environment)

6. สภาพแวดล้อมด้านทรัพยากรธรรมชาติ

(Natural Environment)

43

ระดับจุลภาค (External Marketing Micro-Environment)

44

1. ผู้ขายปัจจัยการผลิต (Suppliers) 2. คนกลางทางการตลาด (Marketing Intermediaries) 3. สาธารณชน (Public)

4. คู่แข่ง (Competitors) 5. ลูกค้า (Customer)

2.2 การวิเคราะห์สถานการณ์ด้านตลาดโดยพิจารณาจากสภาพแวดล้อมทางการตลาดภายใน (Internal Marketing Environment)

45

1. ส่ ว น ป ร ะ ส ม ท า ง ก า ร ต ล า ด (Marketing Mix) 2 . ปั จ จั ย แ ว ด ล้ อ ม ภ า ย ใ น อ ง ค์ ก ร (Internal Environment

ห ลั ก ก า ร วิ เ ค ร า ะ ห์ S-W-O-T

1. จุดแข็ง(Strength : s) คือ การพิจารณาข้อมูลภายในเพื่ อหาจุ ด เด่น /ข้ อ ได้ เปรี ยบของผลิตภัณฑ์ บริการหรือองค์การ

2. จุดอ่อน(Weakness : w) คือ การพิจารณาข้อมูลภายในเพื่อหาจุดด้อยหรือข้อเสียเปรียบเพื่อน าไปปรับปรุง

46

3. โอกาส(Opportunities:O) คือ การพิจารณาข้อมูลภายนอกเพื่อหาข้อได้เปรียบที่เกิดจากปัจจัยแวดล้อมภายนอกเป็นประโยชน์ต่อ ผลิตภัณฑ์ บริการหรือองค์การ

4. อุปสรรค(Threats:T) คือ การพิจารณาข้อมูลภายนอกเพื่อหาข้อเสียเปรียบที่เกิดจากปัจจัยภายนอกน าไปสู่การป้องกันหรือแก้ปัญหาที่ส่งผลต่อผลิตภัณฑ์ บริการหรือองค์การ

47

ขั้นที่ 2 : การวางแผนการตลาด (Marketing Planning)

แผนการตลาด หมายถึง เอกสาร/ข้อความที่เขียนเพื่ออธิบายถึงการวิเคราะห์สถานการณ์ตลาดในปัจจุบัน

48

แ ผ น ก า ร ต ล า ด ป ร ะ ก อ บ ด้ ว ย

1. วัตถุประสงค์

1.1 ด้านการเงิน

1.2 ด้านการตลาด

2. ก าหนดกลยุทธ์และกิจกรรมการตลาด 2.1 วิเคราะห์สถานการณ์ทางการตลาด

1. ตลาด

2. ผลิตภัณฑ์

49

3. ผู้บริโภคเป้าหมาย+พฤติกรรมการซื้อ 4. การคาดคะเนงบก าไรขาดทุนและความเป็นไปได้ทางการตลาด

50

2.2 การแบ่งส่วนตลาด การก าหนดตลาดเป้าหมายและก าหนดต าแหน่งผลิตภัณฑ ์ 1 . ก า ร แ บ่ ง ส่ ว น ต ล า ด ( Market Segmentation) คื อ การแบ่ งกลุ่ มผู้ ซื้ อที่ มี ลั กษณะแตกต่างกันออกเป็นกลุ่มย่อย อาจมีความต้องการเหมือนหรือต่างกัน

.

2. การก าหนดตลาดเป้าหมาย(Target Market) คือ การตัดสินใจเลือกหนึ่ งส่วนตลาด /มากกว่าหนึ่งส่วนเป็นตลาดเป้าหมาย

3. การก าหนดต าแหน่งผลิตภัณฑ์(Product Positioning) คือ การสร้างความแตกต่างในการรับรู้ความเป็นตัวตนของผลิตภัณฑ์/บริการให้เกิดขึ้นในจิตใจของผู้บริโภคเป้าหมาย

51

2.3 การก าหนดกลยุทธ์ส่วนประสมทางการตลาด

52

2.3.1 กลยุทธ์ด้านผลิตภัณฑ ์ 1. ความแตกต่างทางการแข่งขัน (Competitive Differentiation) 2 . อ ง ค์ ป ร ะ ก อ บ ข อ ง ผ ลิ ต ภั ณ ฑ์ (Product Component)

3. การพัฒนาผลิตภัณฑ์ (Product development) 4. สายผลิตภัณฑ์ (Product line) 5. การก าหนดต าแหน่งผลิตภัณฑ์ (Product Positioning)

2.3.2 กลยุทธ์ด้านราคา 1. ตั้งราคาตามตลาด (On-going price)

2. ตั้งราคาตามความพอใจ

(Leading price)

3. ตั้งราคาแบบเท่ากันหมด

(One pricing)

53

4. ตั้งราคาที่มีความแตกต่าง

(Discriminative price)

5. ตั้งราคาเพื่อให้เป็นผลิตภัณฑ์ชั้นสูง (Premium price)

6. ตั้งราคาเพื่อการแข่งขัน

(Fighting price)

7. ตั้งราคาตามมาตรฐาน

(Standard price)

54

2.3.3 กลยุทธ์ด้านช่องทางการจัดจ าหน่าย/คนกลางทางการตลาด นักการตลาดต้องพิจารณาการอ านวยความสะดวกในการซื้อ ขั้นตอนต่าง ๆ ที่สินค้าเดินทางกว่าจะถึ งผู้บริโภค

55

2.3.4 กลยุทธ์ด้านการส่งเสริมการตลาด 1. ส ารวจแผนการตลาด 2. วิเคราะห์สถานการณ ์

3. ก าหนดวัตถุประสงค์ในการสื่อสาร 4. ก าหนดงบประมาณ

5. การพัฒนากลยุทธ์ส่วนประสมการส่งเสริม

การตลาด

6 . การปฏิบั ติ ต าม โปรแกรมการส่ ง เสริ มการตลาด

7. การติดตาม ตรวจสอบ ประเมินผลและควบคุมโปรแกรมการส่งเสริมการตลาด

56

ขั้นที่ 3 : การปฏิบตัิการทางการตลาด (Marketing Operation) 3 . 1 ก า ร จั ด อ ง ค์ ก า ร ท า ง ก า ร ต ล า ด (Marketing Organization)

3.2 การปฏิบัติการทางการตลาด (Marketing Implementation)

3.3 การควบคุมทางการตลาด (Marketing Control)

57

ปัจจัยท่ีควรค านึงถึงในการวางแผนกลยุทธ์การสื่อสารการตลาด 1. ความสามารถในการบริหารงานเชิงกลยุทธ์

2. ผลงานในอดีต

3. การสื่อสารขององค์กรธุรกิจ

- การสื่อสารแบบแนวนอน (Horizontal Com.)

- การสื่อสารแบบแนวดิ่ง (Vertical Com.)

4. ความน่าเชื่อถือของคณะผู้บริหาร 58

สภาพแวดล้อมทางการตลาดในปจัจบุัน

1. ภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว

2. ผู้บริโภคมีการศึกษาสูงขึ้น

3 . สภาพแวดล้อมทางสั งคม+วัฒนธรรมเปลี่ยนไป

4. วิทยาการเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว

59

The end

top related