jri312_นิตยสารท่องเที่ยว_สาขาวิชาวารสารสนเทศผ่านสื่อใหม่...

9

Upload: juniorvariety-journalism-and-information-technology

Post on 13-Mar-2016

221 views

Category:

Documents


2 download

DESCRIPTION

สาขาวิชาวารสารสนเทศผ่านสื่อใหม่ คณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีปทุม Commarts,Sripatum University

TRANSCRIPT

Page 1: JRI312_นิตยสารท่องเที่ยว_สาขาวิชาวารสารสนเทศผ่านสื่อใหม่ คณะนิเทศศาสตร์
Page 2: JRI312_นิตยสารท่องเที่ยว_สาขาวิชาวารสารสนเทศผ่านสื่อใหม่ คณะนิเทศศาสตร์

การท่องเที่ยวมีหลายรูปแบบเช่นวัดการท่องเที่ยงเป็น

กิจกรรม

อย่างหนึ่งที่ทำาให้รู้สึกผ่อนคลายทำาให้มีกำาลังใจในการใช้ชีวิตและ

สามารถทำาให้ลืมเรื่องเครียดได้

การท่องเที่ยวมีมากมายหลายที่เช่นธรรมชาติสถาปัตยกรรม

เทคโนโลยีสถาณที่โบราณในการท่องเที่ยวในหนังสือเล่มจะพาคุณไปเที่ยว

ไหว้พระเพื่อเป็นศิริมงคลให้กับชีวิตให้อิ่มบุญและอิ่มท้องไปกับร้านอาหารเลิศ

รสกับสถานที่ไกล้เคียงวัด

สุดท้ายนี้ที่มีบรรณาธิการและนักเขี่ยนหวังว่าเป็นอย่างยิ่งว่านิตยสารเล่มนี้จะ

ช่วยเติมเต็มจิตนาการของผู้อ่านได้เพลิดเพลินกับสถานที่ต่างๆทีเรารวบรวมมา

ท่องเท

ี่ยว

บทบรรณ

าธิการ

สารบัญ

การแต่งกายไปวัด 1

วัดพระศรีรัตนศาสดารา 2

วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร 3

วัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร 4

ทายนิสัยจากการเตรียมตัวไปเที่ยว 5

ร้านอาหาร ประจักษ์เป็ดย่าง 6

พรชัยเบเกอรี่ 7

พ่อครัวเถื่อนยอดนักตุ๋น 8

ปั้นลี่เบเกอรี่ 9

วัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร 10

วัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหาร 11

วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร 12

วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร 13วัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร 14

contents

intro

Page 3: JRI312_นิตยสารท่องเที่ยว_สาขาวิชาวารสารสนเทศผ่านสื่อใหม่ คณะนิเทศศาสตร์

1.วัดพระศรีรัตนศาสดารา

คติ : เพื่อจิตใจสะอาด ดุจรัตนตรัย

เครื่องสักการะ : ธูป 3 ดอก เทียน 1 เล่ม ดอกไม้

ประวัติ/ความเป็นมา วัดพระศรีรัตนศาสดาราม หรือวัดพระแก้ว เป็นพระอารามที่อยู่ในบริเวณพระบรมมหาราชวัง รัชกาลที่ 1 โปรด

เกล้าฯ ให้สร้างขึ้นใน พ.ศ. 2326 เพื่อความสะดวกเวลาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงบำาเพ็ญพระราชกุศลตามราชประเพณี และ

เพื่อเป็นที่บรรจุพระอัฐิอายุของพระเจ้าแผ่นดินเจ้านายในราชสกุล ภายในวัดพระแก้วมีสิ่งที่น่าสนใจมากมาย อาทิ พระอุโบสถอันเป็นที่

ประดิษฐาน

 ๑. การแต่งกายไปวัด

ควรใช้เสื้อผ้าสีอ่อนๆ ถ้ามีลายก็เป็นลายเรียบๆ เนื้อผ้าไม่

ควรโปร่งบางจนเกินไป ไม่หรูหราจนเกินไป เสื้อผ้าไม่ควร

หลวมหรือรัดรูปจนเกินไป เพื่อความสะดวกในการกราบ

ไหว้พระและนั่งสมาธิสำาหรับผู้หญิงควรแต่งกายให้สุภาพ

เรียบร้อย และไม่ควรตกแต่งด้วยเครื่องประดับและเครื่อง

สำาอาง ตลอดจนใส่น้ำาหอมมากจนเกินไป ไม่ควรแต่งหน้า

เขียนคิ้ว ทาปาก ทาเล็บจนเกินงาม เหตุที่ควรปฏิบัติเช่นนี้

เพราะวัดเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรม คนไปวัดเพื่อทำาบุญ ทำา

จิตใจให้สงบ จึงควรตัดเรื่องปรุงแต่งกิเลสเหล่านี้ออกไป

เสียก

๒. การนำาเด็กหรือบุคคลอื่นๆ ไปวัด

เป็นการปลูกฝังนิสัยที่ดีแก่เด็ก เพราะทำาให้เด็กได้ใกล้ชิด

พระศาสนา ตั้งแต่อยู่ในวัยอันสมควร แต่มีข้อระวังคือ อย่า

นำาเด็กอ่อนไปวัดโดยไม่จำาเป็น เพราะอาจก่อให้เกิดความ

รำาคาญ หรือในกรณีที่เด็กซุกซน อาจจะส่งเสียงดังรบกวน

สมาธิของผู้อื่นที่ต้องการความสงบในกรณีที่มีความจำาเป็น

ต้องนำาบุคคลอื่นๆ เช่น พนักงานขับรถหรือคนรับใช้ไปวัด

ด้วย ก็ควรเปิดโอกาวให้เขาได้ร่วมทำาบุญด้วย และกวดขัน

เรื่องกิริยามารยาทและการแต่งกาย การขับรถเข้าไป

ในบริเวณวัด ควรระมัดระวังในเรื่องการใช้แตร การเร่ง

เครื่องยนต์เสียงดัง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในขณะที่พระกำาลัง

สวด และการจอดรถก็ควรจอดให้เป็นระเบียบในสถานที่

ที่ทางวัดได้กำาหนดไว้

๓. การเตรียมอาหารไปวัด 

อาหารที่เหมาะสมสำาหรับการนำาไปถวายพระภิกษุนั้น ควร

เป็นอาหารที่เรารับประทานกันทั่วไป คือ ปรุงจากพืช ผัก

หรือเนื้อสัตว์ที่มีขายอยู่ในท้องตลาด แต่ควรระมัดระวัง

อาหารที่ปรุงด้วยเนื้อสัตว์ที่เป็นที่ต้องห้ามสำาหรับพระภิกษุ

อันได้แก่

1.เนื้อมนุษย์ 2.เนื้อช้าง 3.เนื้อม้า 5.เนื้องู 7.เนื้อเสือโคร่ง 9.เนื้อเสือดาว 4.เนื้อสุนัข 6.เนื้อราชสีห์ 8.เนื้อเสือเหลือง 10.เนื้อหมี

อย่านำาอาหารที่ปรุงจากเนื้อดิบๆ เลือดดิบๆ ไปถวายพระ

ภิกษุสงฆ์ เช่น ปลาดิบ กุ้งดิบ ฯลฯ จนกว่าจะทำาให้สุกด้วย

ไฟ นอกจากนั้น ไม่ควรนำาอาหารที่ปรุงด้วยสุราที่มีสีหรือ

กลิ่นหรือรสปรากฏชัดไปถวายพระภิกษุสงฆ์ และอย่าฆ่า

สัตว์โดยจำาเพาะเจาะจงว่าจะนำาเนื้อนั้นไปทำาอาหารถวาย

แด่พระภิกษุสงฆ์

๔. การเตรียมตัวก่อนไปวัด อาจจะทำาได้ดังนี้ คือ ๑. จัดทำาภารกิจของตนให้เรียบร้อยเพื่อจะได้ไม่ต้อง

เป็นที่กังวล ๒. ทำาจิตใจให้แจ่มใส โดยการระลึกถึงบุญกุศลและคุณ

งามความดีที่เคยได้ทำามาแล้ว ๓. รำาลึกถึงคุณพระรัตนตรัยเพื่อทำาใจให้บริสุทธิ์

๕. การปฏิบัติตนโดยทั่วไปภายในวัด

วัดเป็นที่รวมของคนหลายประเภทซึ่งแตกต่างกันมาก ทั้ง

อายุ ฐานะ และความเป็นอยู่ การศึกษา อาชีพ ตลอดจน

นิสัยใจคอ โอกาสที่จะกระทบกระทั่งกันย่อมเกิดขึ้นได้ง่าย

จึงจำาเป็นต้องระมัดระวังสำารวมตน โดยปฏิบัติดังนี้ ๑. สำารวมกาย วาจา ใจ ให้สงบเรียบร้อย งดอาการ

คะนองด้วยประการทั้งปวง ทั้งนี้เพื่อให้กาย วาจา ใจ ของ

เราเหมาะสมที่จะบำาเพ็ญบุญกุศล ๒. งดสูบบุหรี่โดยเด็ดขาด ๓. ควรนั่งให้เป็นระเบียบในสถานที่ที่กำาหนดไว ้

๔. ในการประกอบศาสนพิธี เช่น สวดมนต์ สมาทานศีล

ถวายสังฆทาน ฯลฯ ควรเปล่งเสียงอย่างชัดเจนโดยพร้อม

เพรียงกัน ๕. เมื่อมีสิ่งใดทำาให้ขุ่นข้องหมองใจ เช่น อากาศร้อน

กระหายน้ำา เห็นหรือได้ยินกิริยาอาการที่ไม่เหมาะสมของ

คนอื่น หรือการไม่ได้รับความสะดวกในเรื่องต่างๆ ขอให้

อดทนและแผ่เมตตา ให้ความเห็นอกเห็นใจทุกสิ่งทุกอย่าง

อย่าให้เกิดโทสะขึ้นได้ ๖. การสนทนากับพระ ในการสนทนากับพระนั้น หาก

เป็นผู้ชายไม่ค่อยมีระเบียบปฏิบัติที่เคร่งครัดนัก เพียงแต่ให้

ตระหนักว่าเป็นการสนทนากับพระ ซึ่งเป็นปูชนียบุคคลของ

สังคม มีเพศ คือ สถานะทางสังคมเหนือกว่าตน

เมื่อเข้าไปถึงที่อยู่ของท่าน ควรจะกราบพระพุทธปฏิมาที่

ประดิษฐานอยู่ในนั้นก่อน แล้วจึงกราบพระสงฆ์ ซึ่งนิยม

กราบแบบเบญจางคประดิษฐ์สำาหรับคนที่ต้องแสดงความ

เคารพอย่างสูง

ทุกครั้งที่พูดกับท่านควรพนมมือไหว้ ใช้สรรพนามที่ใช้เรียก

ตนเอง เช่น “กระผม” “ดิฉัน” โดยมองที่สถานะของพระ

เป็นตัวกำาหนด หากท่านเป็นพระธรรมดา สรรพนามที่เรียก

ท่านมักนิยมคำาว่า “ท่าน” “พระคุณเจ้า” หากเป็นพระที่มี

สมณศักดิ์สูงก็อาจจะใช้คำาว่า “ใต้เท้า” “พระเดชพระคุณ”

“พระคุณ” “เจ้าพระคุณ” สำาหรับสมเด็จพระสังฆราชใช้คำา

ว่า “ฝ่าบาท” สรรพนามแทนตนเองใช้คำาว่า “กระหม่อม”

ในกรณีที่เป็นสตรีนั้น ควรมีผู้ชายไปด้วยจะเป็นการดี

เพราะพระท่านอาจจะมีปัญหาทางพระวินัย ต้องอาบัติได้

ง่ายเมื่ออยู่กับสตรีสองต่อสอง

ที่มา : หนังสือวิถีธรรมวิถีไทย(พระพุทธศาสนา) โดย

สุชาดา วราหพันธ์

มีพระศรีรัตนเจดีย์ประดับกระเบื้องสีทองทั้งองค์เป็นที่ประดิษฐาน

พระบรมสารีริกธาตุมีหอพระราชพงศานุสรณ์เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูป

ประจำารัชกาลของพระมหากษัตริย์แห่งกรุงรัตนโกสินทร์มีหอระฆังที่มีระฆังซึ่งตี

มีเสียงดังกังวานดีมีพระบรมราชานุสาวรีย์ประจำารัชกาลของพระมหากษัตริย์กรุง

รัตนโกสินทร์และยังมีรูปยักษ์6คู่เป็นรูปยักษ์ตัวสำาคัญจากเรื่องรามเกียรติ์เป็นปูน

ปั้นทาสีประดับกระเบื้องเคลือบสีต่างๆสูงประมาณ6เมตรตั้งประจำาที่ช่องประตู

พระระเบียง

การเดินทาง

วัดพระศรีรัตนศาสดารามตั้งอยู่บริเวณสนามหลวงถนนหน้าพระลานแขวง

พระบรมมหาราชวังเขตพระนครสามารถโดยรถประจำาทางสาย1,3,25,32,33,

59,60,70,82,91,201,203รถปรับอากาศสายปอ.2,3,6,25,32,59,60,70,82,

91,201,203,512

ไหว้พระขอพร 9 พระอารามหลวง

1 2

Page 4: JRI312_นิตยสารท่องเที่ยว_สาขาวิชาวารสารสนเทศผ่านสื่อใหม่ คณะนิเทศศาสตร์

4.วัดชนะสงครามราชวรมหาวิหาร

คติ : มีชัยชนะต่ออุปสรรคทั้งปวง

เครื่องสักการะสำาหรับพระประธานในโบสถ์ : ธูป 3 ดอก เทียน 1 เล่ม ดอกบัว 1 ดอก

เครื่องสักการะสำาหรับรูปเคารพสมเด็จกรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาท : ธูป 5 ดอก เทียน 1 เล่ม ดอกบัว 1 ดอก

ประวัติ/ความเป็นมา

วัดชนะสงครามราชวรมหาวิหาร เป็นพระอารามหลวงชั้นโท สร้างสมัยก่อนกรุงรัตรโกสินทร์ สมเด็จกรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาททรงสถาปนา

วัด ขึ้นมาใหม่ และรัชกาลที่ 1 โปรดเกล้าฯ ให้เป็นวัดพระสงฆ์ฝ่ายราชสามัญ เพื่อเป็นการให้เกียรติแก่ทหารรามัญในกองทัพของสมเด็จกรม

พระราชวังบวรมหา สุรสิงหนาท ต่อมาเมื่อมีชัยชนะต่อกองทหารข้าศึกถึง 3 ครั้ง จึงพระราชทานนามใหม่ว่า “วัดชนะสงคราม”

วัดชนะสงครามราชวรมหาวิหาร มีพระพุทธรูปปูนปั้นลงรักปิดทอง ปางมารวิชัย เป็นพระประธาน มีพระนามว่า “พระพุทธนรสีห์ตรีโลกเชฏฐ์ มเหทธิ

ศักดิ์ ปูชนียะชยันตะโคดมบรมศาสดา อนาวรญาณ” ประดิษฐาน ณ พระอุโบสถ

การเดินทาง

วัดชนะสงครามราชวรมหาวิหาร ตั้งอยู่บนถนนจักรพงษ์ แขวงบางลำาพู เขตพระนคร สามารถเดินทางโดยรถประจำาทาง สาย 33, 64, 65 หรือรถ

ปรับอากาศ สาย ปอ. 3, 32, 33, 64, 65

3.วัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร

คติ : เดินทางปลอดภัยดี มีมิตรไมตรีที่ดี

เครื่องสักการะ : ธูป 3 ดอก เทียนแดงคู่ ดอกไม้พวงมาลัย

ประวัติ/ความเป็นมา

วัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร เป็นพระอารามหลวงชั้นโท เจ้าพระยานิกรบดินทร์ (โต กัลยาณมิตร) ได้อุทิศที่ดิน ซึ่งบริเวณ

ดังกล่าวเดิมเรียกว่า “หมู่บ้านกุฎีจีน” วัดนี้สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ.2368 ในสมัยรัชกาลที่ 3 และได้ถวายเป็นพระอารามหลวง ได้รับ

พระราชทานนามว่า “วัดกัลยาณมิตร” พร้อมกับทรงสร้างพระวิหารหลวงเพื่อเป็นที่ประดิษฐาน “พระพุทธไตรรัตนนายก” (หลวงพ่อ

โต) ซึ่งเป็นชื่อที่ได้รับพระราชทานจากรัชกาลที่ 4 หรือเรียกตามแบบจีนว่า ชำาปอฮุดกง หรือ ชำาปอกง

วัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร เป็นวัดเดียวในประเทศไทยที่มีองค์พระประธานเป็นพระพุทธรูปปางปาลิไลยก์ โดยประดิษฐาน

อยู่ในพระอุโบสถ ภายในมีภาพจิตรกรรมฝาผนังเรื่องพุทธประวัติ นอกจากนี้ ยังมีหอพระธรรมมณเฑียรเถลิงพระเกียรติ เป็นที่เก็บพระ

ไตรปิฎกและพระคัมภีร์ต่าง ๆ ซึ่งรัชกาลที่ 4 โปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2408

การเดินทาง

วัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร ตั้งอยู่แขวงวัดกัลยาณ์ เขตธนบุรี มีโดยรถประจำาทาง สาย 40, 57, 149 รถปรับอากาศ สาย ปอ. 177

หรือจะไปทางเรือก็ต้องข้ามเรือข้ามฟากที่ท่าเรือปากคลองตลาดมาท่าเรือวัดกัลยาฯ

2.วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร

คติ : ร่มเย็นเป็นสุข

เครื่องสักการะ : ธูป 9 ดอก เทียนคู่ ทองคำาเปลว 11 แผ่น

ประวัติ/ความเป็นมา วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราช

วรมหาวิหาร หรือที่รู้จักกันในนาม “วัดโพธิ์” เป็นพระอารามหลวง

ชั้นเอก เดิมชื่อ “วัดโพธาราม”

พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชทรงบูรณะและ

โปรดเกล้าฯ ให้สร้างประเจดีย์เพื่อบรรจุพระพุทธรูปพระศรีสรร

เพชญ์ ซึ่งอัญเชิญมาจากกรุงศรีอยุธยา ต่อมาใน พ.ศ. 2377 รัชกาล

ที่ 3 ทรงโปรดเกล้าฯ ให้บูรณะพระเจดีย์ แล้วพระราชทานนาม

ว่า “พระมหาเจดีย์ศรีสรรเพชญดาญาณ” และทรงสร้าง “พระมหา

เจดีย์ดิลกธรรมกนิธาน” เพื่ออุทิศถวายพระบาทสมเด็จพระพุทธ

เลิศหล้านภาลัยรัชกาลที่ 2 และทรงมีพระราชประสงค์ให้วัดโพธิ์

เป็น “มหาวิทยาลัยสำาหรับประชาชน” จึงโปรดเกล้าฯ ให้รวบรวม

สรรพวิชาความรู้มาจารึกบนแผ่นศิลาติดไว้บริเวณพระอุโบสถ เพื่อ

ให้ประชาชนมาศึกษาหาความรู้

ที่วัดโพธิ์มี “พระพุทธเทวปฏิมากร” ประดิษฐานอยู่ภายในพระอุโบสถ ใต้ฐานชุกชี บรรจุพระบรมอัฐิของรัชกาลที่ 1 มีพระวิหาร

เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปไสยาสน์ที่สวยงามที่สุด และองค์ใหญ่เป็นอันดับ 4 ในประเทศไทย เป็นพระพุทธรูปก่ออิฐถือปูนพื้นพระบาท

ประดับมุก เป็นภาพมงคล 108 ประการ นอกจากนั้น วัดโพธิ์ยังมีเจดีย์ทั้งสิ้น 99 องค์ ถือว่าเป็นวัดที่มีเจดีย์มากที่สุดในประเทศไทย และ

มีพระมหาเจดีย์ 4 รัชกาล คือ รัชกาลที่ 1- 4 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์

ในปัจจุบันวัดโพธิ์เปิดอบรมเผยแพร่วิชาการแพทย์แผนโบราณ โดยผู้ผ่านการอบรมจะได้รับใบประกอบโรคศิลป์จากกระทรวง

สาธารณสุข

การเดินทาง

วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ราชวรมหาวิหาร ตั้งอยู่ด้านหลังพระบรมมหาราชวัง ถนนสนามไชย แขวงพระบรมมหาราชวัง

เขตพระนคร สามารถโดยสารรถประจำาทางสาย 12, 44, 82, 91 รถปรับอากาศ สาย ปอ. 12, 32, 44, 91, 51

3 4

Page 5: JRI312_นิตยสารท่องเที่ยว_สาขาวิชาวารสารสนเทศผ่านสื่อใหม่ คณะนิเทศศาสตร์

ร้านอาหารประจักษ์เป็ดย่าง

ร้านประจักษ์เป็ดย่าง เป็นร้านเป็ดย่างเปิดมานาน

นับ100 ปี รสชาติจึงอร่อยคงกระพันยาวนาน เป็น

ร้านที่ขึ้นชื่อย่านบางรัก และยังมี บะหมี่กวางตุ้ง ที่

เก่าแก่ และเกี้ยวหมู เกี้ยวกุ้ง ของร้านก็มีชื่อเสียง ยัง

มีเมนูมากว่า 80 เมนูอร่อย ทั้งขนมจีบ, ซาลาเปา

ราคาก็ไม่แพงกว่าที่คิ ดเริ่มต้นตั้งแต่ 30 บาทถึง

350 บาท ร้านนี้เปิดมานาน บวกกับเจ้าของร้านยิ้ม

แย้มแจ่มใสจึงเป็นที่รู้จักกันดีในย่านนี้ ...

 เมนูแนะนำา :ข้าวหน้าเป็ด, ข้าวหมูแดง-หมูกรอบ,

บะหมี่เป็ดย่าง, เกี๊ยวกุ้ง, ซาลาเปา

ที่อยู่ :  1415 อาคาร ตรงข้ามห้างโรบินสันบางรัก

ถนนเจริญกรุง แขวงสีลม เขตบางรัก กรุงเทพฯ

10500

เบอร์โทรศัพท์ :022343755 , 022356324 ,

0839101444เวันและเวลาเปิดปิดทำาการ :เปิด

ทุกวัน เวลา 07.00-20.30 น. (หยุดเทศกาลตรุษ

จีน,สงกรานต์)

การเดินทาง จากถนนเจริญกรุง ตรงไปห้าง

โรบินสันบางรัก จะเห็นร้านประจักษ์เป็ดย่างอยู่ทาง

ด้านขวามือ ตรงข้ามกับห้างโรบินสันบางรัก ใกล้

กับสถานีรถไฟฟ้าตากสิน

ทายนิสัยจากการเตรียมตัวไปเที่ยว

สำาหรับ คนที่จะได้ออกเดินทางไปเที่ยวหรือพักผ่อนกับเข้าสักครั้ง

หากมีเวลาเตรียมตัวแล้วล่ะก้อลองสังเกตดูสิว่าตัวเองเตียมตัวไป

เที่ยวสไตล์ ไหน จะแบบรีบเร่งรึว่าเคร่งขรึมรอบคอบ หรือวุ่นวาย

ชาวบ้านเขาไปหมด คราวนี้ล่ะ ถึงเวลาทายใจกันแล้ว

คิดอยู่นานว่าจะเอาอะไรไปดี

สำาหรับ คนที่พอรู้ว่าจะได้ไปเที่ยวก็คิดอยู่นั่นแหละว่าจะเอาอะไรไป

ดีน้อ...อะไรที่ ขาดเหลือควรเผื่อไว้ หรืออะไรที่ไม่จำาเป็นต้องเอาไป

เรียกว่าตระเตรียมทางความคิดอยู่นานทีเดียว แสดงว่าเป็นคนที่ช่าง

วิตก ช่างจินตานาการ แต่จะออกไปทางในแง่ร้ายนิดๆ เรียกว่าเป็น

คนระแวงระวังตัวสูง รอบคอบจนกลายเป็นเข้มงวด แต่ถึงอย่างนั้นก็

เถอะ เวลาทำางานลองได้ตกลงใจทำาอะไรแล้ว ก็จะลงแรงทุ่มเทกาย

ใจ ต่อสู้ฟันฝ่าอุปสรรคอย่างไม่ย่อท้อ เป็นคนที่เอาใจใส่ต่องานดีมาก

ไม่เตรียมอะไรมากทำาตัวเฉยชา

แต่ หากเป็นคนที่ไม่มีทีท่าว่าจะตระเตรียมอะไรเลย แถมยังดูเฉยชา

อีกต่างหาก คล้ายกับว่าถึงเวลาไปก็ไป ไม่ห่วงกังวลใดๆทั้งสิ้น นั่น

แปลว่ามักจะเป็นคนที่มีความเครียดแอบแฝงอยู่ในใจลึกๆเสมอ บาง

ครั้งจะรู้สึกว่าไม่มีใครเข้าใจตัวเอง แต่ก็ไม่ต้องการแสดงความรู้สึก

ให้ใครรับรู้ และในบางเวลาก็จะติดนิสัยเย้ยหยันโลกและผู้คน คิดว่า

สิ่งที่ใครๆทำาหรือคิดนั้น”ไม่ได้เริ่อง”แต่ก็มีข้อดีคือว่า จะเป็นคนโอบ

อ้อมอารีอยู่ลึกๆ

เตรียมพร้อมด้วยการไปซื้อของที่ต้องใช้

และ ถ้าใครที่พอจะรู้ว่าจะได้ไปเที่ยวก็จัดแจงไปช็อปไว้ก่อนเลย ทั้ง

เสื้อผ้า อาหาร ของใช้จำาเป็น ไม่มีขาด แต่ก็ไม่เกินความจำาเป็น นั่น

หมายความว่า จะเป็นบุคคลที่มีวิสัยทัศน์ยาวไกล มักมีบุคลิกร่าเริง

แอ็คทีฟ บางคนจะมีความเป็นผู้นำาสูง ชอบจัดการอะไรๆด้วยความ

สามารถของตัวเอง เมื่อสนใจเรื่องใดก็จะลงมือค้นคว้าและตือตาม

หาข้อมูลไม่ลดละและกหนึ่งความ ชอบคือ ชอบความลงตัวพอดีใน

ทุกๆเรื่อง

เตรียมพร้อมเน้นหนักเรื่องอาหารไว้ก่อน

ส่วน คนที่เตรียมความพร้อมในการเดินทางด้วยการแสดงความ

สนใจเรื่องอาหารไว้ก่อน ไม่ว่าจะเป็นการเตรียมอาหาร หรือ

สอบถามถึงสถานที่ที่จะไปรับประทานอาหารแสดงว่า เป็นคนที่ชอบ

ชีวิตที่มีรสชาติ มีสีสัน ไม่ชอบเรื่องเครียดๆ หรือเรื่องกังวลใจใดๆ

แต่อีกด้านหนึ่ง กลับมักเป็นคนที่เอาแต่ใจตัวเอง อาจมีความดื้อรั้น

แบบแปลกๆ แต่พอเข้าสังคมก็จะปรับตัวได้ดีอย่างไม่น่าเชื่อเป็นคน

ที่ชอบความสนุกแต่ก็ มีความจริงจังว่างั้นเถอะ

เตรียมพร้อมด้วยความตื่นเต้นสุดๆ

สำาหรับ คนพอรู้ว่าจะได้ไปเที่ยวก็ตื่นเต้นไว้ก่อน จะสนุกไม่สนุกยัง

ไง ก็คาดการณ์ไว้ว่า”ต้องมันส์ล่ะน่า”แสดงว่าเป็นคนที่รักความ

สนุกสนานแบบเด็กๆ มักไม่ชอบการวางแผนระยะยาว ดูคล้าย

คนที่ไม่มีความรับผิดชอบอะไรมากมายในชีวิต ไม่ชอบเรื่องความ

ผูกพันในเชิง”พันธะสัญญา” แต่ว่าโดยทั่วไปแล้วจะเป็นผู้ที่สามารถ

แก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้เก่ง มีความเฉลียวฉลาด มีไหวพริบ ใน

ยามพบปะอุปสรรคทั้งปวง อีกอย่างนึ่งคือ เป็นคนที่รักษา”การมี

อิสระ”ของตัวเองสูงมาก

เจอใครก็ชวนไปเที่ยวด้วย

แต่ กรณีใครที่พอรู้ว่าตัวเองจะได้ไปเที่ยว ก็ชักชวนใครต่อใคร

ไปเพียบ ไม่ว่าจะเจอใครเป็นอันชวนไปด้วยหมด อย่างนี้เรียกว่า

เป็น คนที่มีมนุษยสัมพันธ์ดีเยี่ยม เป็นคนที่ให้ความสำาคัญกับเรื่อง

มิตรภาพ ชอบการรวมตัวกันแบบคติที่ว่า”รวมกันเราอยู่แยกหมู่เรา

ตาย”อะไรทำานองนั้น และจะมีนิสัยเปิดเผยรักเพื่อน มีน้ำาใจ รักการ

เสียสละ สุภาพและก็ให้ความสำาคัญกับจิตใจผู้อื่นด้วย

จัดโปรแกรมล่วงหน้าละเอียดยิบ

และ สำาหรับคนที่จะพอไปเที่ยว ก็ต้องหาแผนที่หรือโปรแกรมการ

เดินทางมาดูเป็นอันดับแรก แสดงว่าเป็นคนที่มีความชัดเจนใน

จุดยืนของตัวเอง จนบางครั้งอาจจะออกไปในแนวอนุรักษ์นิยมเล็ก

น้อย หรือเป็นผู้ที่ติดจะเคร่งเครียดเอาจริงเอาจังกับเรื่องต่างๆจน

ทำาให้คนรอบ ข้างอึดอัดใจ แต่จะว่าไปแล้ว ก็เป็นคนที่รู้จักคุณค่าของ

เวลาและมีเป้าหมายในชีวิตชัดเจนกว่าใครๆ

กังวลเรื่องความปลอดภัยเอาไว้ก่อน

แต่ สำาหรับคนที่หากรู้ว่าจะได้ไปเที่ยว แทนที่จะรู้สึกสนุก คึกคัก

อยากไปด้วยใจระทึก กลับหวาดกลัวเรื่องอุบัติเหตุจากการเดินทาง

กลัวตัวเองจะไปเจ็บไข้ได้ป่วยนั้น หมายถึงเป็นคนที่มีอารมณ์อ่อน

ไหว ชอบอยู่ติดที่ บางคนอาจจะเก็บตัวนิดๆด้วยซ้ำาไป เป็นผ้รักสงบ

ต้องการความปลอดภัยในชีวิตสูง ไม่แน่ด้วยว่าจะเคยมีความทรง

จำาเลวร้ายเกี่ยวกับเรื่องสุขภาพอีกหนึ่งนิสัย เฉพาะตัวก็คือ เป็นคน

ตกใจง่าย เวลาหวาดกลัวก็จะแสดงออกอย่างลนลาน และพยายาม

หลบหนีออกไปจากบริเวณนั้นๆสุดชีวิต

5 6

Page 6: JRI312_นิตยสารท่องเที่ยว_สาขาวิชาวารสารสนเทศผ่านสื่อใหม่ คณะนิเทศศาสตร์

พ่อครัวเถื่อนยอดนักตุ๋น

ร้านชื่อเก๋าๆ ในย่านกรุงเก่าอย่าง

ซอยเจริญกรุง 91 แห่งนี้ ยังคงเป็น

สถานที่ที่ลูกค้าที่ถูกอกถูกใจในฝีไม้

ลายมือในการทำาอาหารของ ‘พ่อ

ครัวเถื่อน’ หรือคุณลุงเจ้าของร้าน

ไม่เปลี่ยนแปลง ด้วยฝีมือที่ถึงแม้จะ

ได้มาจากการครูพักลักจำาจากการ

เดินทางไปที่นั่นที่นี่ตั้งแต่วัยหนุ่ม

แต่ก็ได้สั่งสมเป็นประสบการณ์ จน

กลายเป็นที่เรื่องลือในเรื่องของ

การ ‘ตุ๋น’ ไม่แพ้พ่อครัวที่จบมาจาก

สถาบันไหนๆ ทั้งการตุ๋นเนื้อ ตุ๋น

หมู ตุ๋นไก่ จนได้ออกมาเป็นเมนู

อาหารเลิศรส ราคาไม่แพง ขาย

แบบบ้านๆ บรรยากาศสบายๆ แต่

คลองใจลูกค้าจนแวะเวียนมาที่ร้าน

ไม่ขาด

เมนูแนะนำา :เยื่อไผ่ตุ๋นหอยเป๋าฮื้อ,

ขาไก่ตุ๋นยาจีน, กระเพาะปลาตุ๋น

กระดูกไก่, ซุปไก่ตุ๋นมะเขือเทศ,

สาหร่ายฮ่องเต้ตุ๋นไก่บ้าน, ไก่ดำา

ตุ๋นโบราณ, เกาลัดตุ๋นซี่โครงหมู

ที่อยู่ : 2351/26 ซอยเจริญกรุง

91 ถนนเจริญกรุง แขวง

บางคอแหลม เขตบางคอแหลม

กรุงเทพฯ 10120

เบอร์โทรศัพท์ :022890563 ,

วันและเวลาเปิดปิดทำาการ :เปิด

ทุกวัน เวลา 09.00-16.00 น.

การเดินทาง ใช้ถนนเจริญกรุง

เลี้ยวเข้าซอยเจริญกรุง 91 แยก 1

ตรงไปประมาณ 50 เมตร จะเห็น

ร้านพ่อครัวเถื่อนยอดนักตุ๋น ตั้งอยู่

ซ้ายมือ ใกล้กับวัดราษฎร์สิงขร

พรชัยเบเกอรี่

หรือที่หลายคนเรียกว่าขนมปังพรชัยบางคนก็เรียกว่าขนมปังบางลำาพูแต่ไม่ว่าใครจะเรียกชื่อร้านว่าอะไรแต่ชื่อเสียงของ

ขนมปังร้านนี้ก็ได้รับการยอมรับในเรื่องของรสชาติและไส้ขนมปังที่ใส่ไปแบบไม่มีกั๊กเมื่อแบ่งออกมาก็จะพบไส้ที่อัดแน่นอยู่ใน

เนื้อขนมปังนุ่มๆไม่ว่าเวลาจะผ่านไปกี่ปีแต่ขนมปังร้านนี้ก็ยังมีลูกค้ามายืนต่อแถวกันอย่างไม่ขาดสาย

ประเภทธุรกิจ :ร้านอาหาร 

ประเภทอาหาร :ซื้อกลับบ้าน-ของฝาก   เค้กขนมและเบเกอรี่  

ที่อยู่ :  78แขวงตลาดยอดเขตพระนครกรุงเทพฯ10200

เบอร์โทรศัพท์ :0-2281-0801,0-2282-1534,08-1376-7745

วันและเวลาเปิดปิดทำาการ :เปิดทุกวันเวลา09.00-19.00น.

การเดินทาง:จากสี่แยกคอกวัวมุ่งหน้าไปเข้ามาทางถนนตะนาวฝั่งที่จะไปบางลำาพูตรงไปประมาณ120เมตรร้านขนมปังบาง

ลำาพู(พรชัยเบเกอรี่)อยู่ซ้ายมือ

7 8

Page 7: JRI312_นิตยสารท่องเที่ยว_สาขาวิชาวารสารสนเทศผ่านสื่อใหม่ คณะนิเทศศาสตร์

ปั้นลี่เบเกอรี่

ร้านปั้นลี่ เป็นร้านเบเกอรี่สองคูหา ด้านหน้าร้านตกแต่งด้วยสีแดงประตูทำาด้วยกระจกมองทะลุเห็นด้านในร้านที่ตกแต่งด้วยชั้นวางขนมที่มีหลากหลายชนิดให้คุณเลือก และทางร้านยังมีบริการรับสั่งจอง เค็กวันเกิด ราคากันเอง ด้วยรสชาติขนมปังที่อ่อน นุ่มกว่าร้านไหนๆ จึงเป็นที่รู้จักกันดีในย่านนี้

เมนูแนะนำา :ขนมปังเนยสด, คุกกี้,

เค้ก, กาแฟสด

ที่อยู่ :  1335 อาคาร เชิงสะพาน

สีลม ถนนเจริญกรุง แขวงสีลม เขต

บางรัก กรุงเทพฯ 10500

เบอร์โทรศัพท์ :022335428 ,

022346873

วันและเวลาเปิดปิดทำาการ :เปิดทุก

วัน เวลา 06.00-20.00 น.

การเดินทาง ร้านตั้งอยู่ริมถนน

เจริญกรุงตรงแยกบางรัก (ถนน

สีลมตัดกับถนนเจริญกรุงทางที่จะ

ไปสะพานตากสิน)

5.วัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร

คติ : เดินทางปลอดภัยดี มีมิตรไมตรีที่ดี

เครื่องสักการะ : ธูป 3 ดอก เทียนแดงคู่ ดอกไม้พวงมาลัย

ประวัติ/ความเป็นมา

วัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร เป็นพระอารามหลวงชั้นโท เจ้าพระยานิกรบดินทร์ (โต กัลยาณมิตร) ได้อุทิศที่ดิน ซึ่งบริเวณดังกล่าวเดิมเรียกว่า

“หมู่บ้านกุฎีจีน” วัดนี้สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ.2368 ในสมัยรัชกาลที่ 3 และได้ถวายเป็นพระอารามหลวง ได้รับพระราชทานนามว่า “วัด

กัลยาณมิตร” พร้อมกับทรงสร้างพระวิหาร หลวงเพื่อเป็นที่ประดิษฐาน “พระพุทธไตรรัตนนายก” (หลวงพ่อโต) ซึ่งเป็นชื่อที่ได้รับ

พระราชทานจากรัชกาลที่ 4 หรือเรียกตามแบบจีนว่า ชำาปอฮุดกง หรือ ชำาปอกง

วัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร เป็นวัดเดียวในประเทศไทยที่มีองค์พระประธานเป็นพระพุทธรูปปางปาลิไลยก์ โดยประดิษฐานอยู่ในพระ

อุโบสถ ภายในมีภาพ จิตรกรรมฝาผนังเรื่องพุทธประวัติ นอกจากนี้ ยังมีหอพระธรรมมณเฑียรเถลิงพระเกียรติ เป็นที่เก็บพระไตรปิฎกและ

พระคัมภีร์ต่าง ๆ ซึ่งรัชกาลที่ 4 โปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2408

การเดินทาง

วัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร ตั้งอยู่แขวงวัดกัลยาณ์ เขตธนบุรี มีโดยรถประจำาทาง สาย 40, 57, 149 รถปรับอากาศ สาย ปอ. 177 หรือ

จะไปทางเรือ ก็ต้อข้ามเรือข้ามฟากที่ท่าเรือปากคลองตลาดมาท่าเรือวัดกัลยาฯ

วัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร เป็นวัดเดียวในประเทศไทยที่มีองค์พระประธานเป็นพระพุทธรูปปางปาลิไลยก์ โดย

ประดิษฐานอยู่ในพระอุโบสถ ภายในมีภาพจิตรกรรมฝาผนังเรื่องพุทธประวัติ นอกจากนี้ ยังมีหอพระธรรมมณเฑียรเถลิงพระ

เกียรติ เป็นที่เก็บพระไตรปิฎกและพระคัมภีร์ต่าง ๆ ซึ่งรัชกาลที่ 4 โปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2408

การเดินทาง

วัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร ตั้งอยู่แขวงวัดกัลยาณ์ เขตธนบุรี มีโดยรถประจำาทาง สาย 40, 57, 149 รถปรับอากาศ สาย

ปอ. 177 หรือจะไปทางเรือก็ต้องข้ามเรือข้ามฟากที่ท่าเรือปากคลองตลาดมาท่าเรือวัดกัลยาฯ

การเดินทาง

วัดสระเกศราชวรมาหาวิหารตั้งอยู่ในพื้นที่แขวงบ้านบาตร เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย เปิดให้ผุ้สนใจทุกท่านเข้าชมฟรี และสามารถ

เดินทางไปวัดสระเกศได้โดยรถประจำาทางทั้งรถปรับอาศและรถประจำาทางธรรมดาได้แก่สาย ๘,๑๕,๔๗,๔๙,ปอ.๘,ปอ.๔๙

9 10

Page 8: JRI312_นิตยสารท่องเที่ยว_สาขาวิชาวารสารสนเทศผ่านสื่อใหม่ คณะนิเทศศาสตร์

7.วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร

คติ : เสริมสร้างความคิดอันเป็นสิริมงคล

เครื่องสักการะ : ธูป 9 ดอก เทียน 1 เล่ม ดอกบัว 3 ดอก

ประวัติ/ความเป็นมา

วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร เป็นพระอารามหลวงชั้นโท เป็นวัดสำาคัญคู่มากับการสร้างกรุงเทพมหานคร เป็น

วัดโบราณสร้างมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา เดิมชื่อวัดสะแก รัชกาลที่ 1 ทรงปฏิสังขรณ์ขึ้นใหม่โปรดให้ขุดคลองรอบ

พระอารามและพระราชทานนามว่า วัดสระเกศ จนถึงสมัยรัชกาลที่ 3 โปรดให้บูรณปฏิสังขรณ์ทั่วทั้งพระอารามและ

สร้างสิ่งต่าง ๆ เพิ่มเติม เช่น พระบรมบรรพต หรือ ภูเขาทอง

สิ่งสำาคัญภายในวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร ได้แก่ พระบรมบรรพต หรือ ภูเขาทอง ซึ่งสร้างเป็นพระปรางค์

ในสมัยรัชกาลที่ 3 แต่เกิดทรุดพังลง รัชกาลที่ 4 โปรดให้ซ่อมแซม โดยแปลงเป็นภูเขาและก่อพระเจดีย์ไว้บนยอด

ภายในบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ สร้างแล้วเสร็จในสมัยรัชกาลที่ 5 นอกจากนี้ ภายในพระอุโบสถที่ภายในมีภาพเขียน

จิตรกรรมฝีมือช่าง สมัยรัชกาลที่ 3 และหอไตร ศิลปะสมัยอยุธยา บานหน้าต่างเป็นลายรดน้ำา

การเดินทาง

วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร ตั้งอยู่บริเวณปากคลองมหานาค แขวงบ้านบาตร เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย

6.วัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหาร

คติ : ชื่อเสียงโด่งดัง คนนิยมชมชอบ

เครื่องสักการะ : ธูป 3 ดอก เทียนคู่ ทองคำาเปลว

ประวัติ/ความเป็นมา

วัดระฆังโฆสิตารามวรมหาวิหาร หรือเป็นที่รู้จักกันในนาม วัดระฆัง เป็นพระอารามหลวงชั้นโท เดิมชื่อว่า “วัดบางว้าใหญ่” เป็นวัดโบราณมี

มาตั้งแต่ครั้งกรุงศรีอยุธยา พระอุโบสถเป็นสถาปัตยกรรมในสมัยรัชกาลที่ 1 มีลายหน้าบันเป็นรูปนารายณ์ทรงครุฑ ภายในมีภาพจิตรกรรมฝาผนัง

พระอุโบสถนี้ เป็นที่ประดิษฐานของพระประธานซึ่งรัชกาลที่ 5 ทรงเรียกว่า “พระประธานยิ้มรับฟ้า” นอกจากนี้ ยังมีหอไตรเป็นรูปเรือนสามหลัง

แฝด ภายในมีภาพจิตรกรรมที่สำาคัญหลายแห่งทั้งบานประตู และฝาผนังรวมทั้งตู้พระไตรปิฏกสมัยกรุงศรีอยุธยา

วัดระฆังเคยเป็นที่ประทับของสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) สมเด็จพระราชาคณะในสมัยรัชกาลที่ 4 ซึ่งเป็นพระเถระผู้ทรง

เกียรติคุณ วิทยาคุณโด่งดังมากแต่อดีตจวบจนปัจจุบัน การไปสักการะสมเด็จพุฒาจารย์ เพื่อขอพรโดยการสวดคาถาชินบัญชรเมื่อสวดจบแล้ว ปัก

ธูปที่กระถางและปิดทองที่รูปปั้น แล้วอย่าลืมพรมน้ำามนต์เพื่อความเป็นสิริมงคล

การเดินทาง

วัดระฆังโฆสิตารามมรมหาวิหาร ตั้งอยู่บนถนนอรุณอัมรินทร์ แขวงศิริราช เขตบางกอกน้อย สามารถโดยรถประจำาทาง สาย 19, 57

ส่วนทางเรือ โดยเรือด่วนเจ้าพระยาแล้วลงที่ท่ารถไฟ หรือท่าวังหลัง หรือข้ามฝากที่ท่าช้างแล้วขึ้นที่ท่าเรือวัดระฆัง

11 12

Page 9: JRI312_นิตยสารท่องเที่ยว_สาขาวิชาวารสารสนเทศผ่านสื่อใหม่ คณะนิเทศศาสตร์

9.วัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร

คติ : เดินทางปลอดภัยดี มีมิตรไมตรีที่ดี

เครื่องสักการะ : ธูป 3 ดอก เทียนแดงคู่ ดอกไม้พวงมาลัย

ประวัติ/ความเป็นมา

วัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร เป็นพระอารามหลวงชั้นโท เจ้าพระยานิกรบดินทร์ (โต กัลยาณมิตร) ได้

อุทิศที่ดิน ซึ่งบริเวณดังกล่าวเดิมเรียกว่า “หมู่บ้านกุฎีจีน” วัดนี้สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ.2368 ในสมัยรัชกาลที่ 3 และได้

ถวายเป็นพระอารามหลวง ได้รับพระราชทานนามว่า “วัดกัลยาณมิตร” พร้อมกับทรงสร้างพระวิหารหลวงเพื่อเป็น

ที่ประดิษฐาน “พระพุทธไตรรัตนนายก” (หลวงพ่อโต) ซึ่ง

เป็นชื่อที่ได้รับพระราชทานจากรัชกาลที่ 4 หรือเรียกตาม

แบบจีนว่า ชำาปอฮุดกง หรือ ชำาปอกง

วัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร เป็นวัดเดียวใน

ประเทศไทยที่มีองค์พระประธานเป็นพระพุทธรูปปาง

ปาลิไลยก์ โดยประดิษฐานอยู่ในพระอุโบสถ ภายในมีภาพ

จิตรกรรมฝาผนังเรื่องพุทธประวัติ นอกจากนี้ ยังมีหอพระ

ธรรมมณเฑียรเถลิงพระเกียรติ เป็นที่เก็บพระไตรปิฎกและ

พระคัมภีร์ต่าง ๆ ซึ่งรัชกาลที่ 4 โปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นใน

ปี พ.ศ. 2408

การเดินทาง

วัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร ตั้งอยู่แขวงวัดกัลยาณ์ เขตธนบุรี มีโดยรถประจำาทาง สาย 40, 57,

149 รถปรับอากาศ สาย ปอ. 177 หรือจะไปทางเรือก็ต้องข้ามเรือข้ามฟากที่ท่าเรือปากคลอง

ตลาดมาท่าเรือวัดกัลยาฯ

8.วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร

คติ : ชีวิตรุ่งโรจน์ทุกคืนวัน

เครื่องสักการะ : ธูป 3 ดอก เทียนคู่

ประวัติ/ความเป็นมา

วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร เป็นพระอารามหลวงชั้นเอก สร้างสมัยกรุงศรีอยุธยา เดิมชื่อ

วัดมะกอก เมื่อ พ.ศ. 2310 สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช (พระเจ้ากรุงธนบุรี) เสด็จทางชลมารคจาก

กรุงศรีอยุธยามารุ่งเช้าที่หน้าวัดมะกอก จึงโปรดเกล้าฯให้ปฏิสังขรณ์ แล้วเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น "วัดแจ้ง" ต่อ

มาในสมัยรัชกาลที่ 2 ได้ทรงปฏิสังขรณ์และพระราชทานนามใหม่ว่า "วัดอรุณราชวราราม"

ในสมัยกรุงธนบุรีวัดอรุณราชวรารามเคยเป็นที่ประดิษฐานของพระแก้วมรกต ก่อนที่จะอัญเชิญไป

ประดิษฐานที่วัดพระแก้ว นอกจากนั้นยังมียักษ์ปูนปั้นขนาดใหญ่ 2 ตน ตั้งอยู่หน้าประตูซุ้มยอดพระมงกุฏ

ซึ่งเป็นที่รู้จักกันทั่วไปในนาม "ยักษ์วัดแจ้ง"

ภายในวัดอรุณราชวรารามนี้มีสิ่งที่น่าสนใจมากมาย อาทิ มีพระปรางค์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกสูง 33

วาเศษ ประดับด้วยชิ้นกระเบื้องเคลือบสีต่าง ๆ ยอดพระปรางค์เป็นนภศูล ในสมัยรัชกาลที่ 3 มีปรางค์

ทิศทั้ง 4 ประดิษฐานพระพุทธรูปปางประสูติ เทศน์พระธัมมจักร ตรัสรู้ นิพพาน การเดินเวียนทักษิณาวัด

รอบพระปรางค์ 3 รอบ โดยเดินเวียนขวา ( ตามเข็มนาฬิกา) เพื่อความเป็นสิริมงคล มีพระอุโบสถเป็นที่

ประดิษฐาน "พระพุทธธรรมมิศรราชโลกธาตุดิลก" ซึ่งรัชกาลที่ 2 ทรงปั้นหุ่นและพระพักตร์ด้วยฝีพระหัตถ์

พระองค์เอง และยังมีพระวิหารที่มีพระบรมสารีริกธาติที่เกศพระพุทธชมภูนุชฯ มีพระอรุณหรือพระแจ้ง ที่

รัชกาลที่ 4 ทรงอัญเชิญมาจากเวียงจันทน์

การเดินทาง

วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร ตั้งอยู่ข้างกองทัพเรือ ถนนอรุณอัมรินทร์ เขตบางกอกใหญ่

สามารถโดยรถประจำาทาง สาย 19, 57 หรือนั่งเรือโดยสารข้ามฟากจากท่าเตียน มาขึ้นที่วัดอรุณ

13 14