engineering mechanics i: statics กลศาสตร์วิศวกรรม ......engineering...
TRANSCRIPT
-
ENGINEERING MECHANICS I: STATICSกลศาสตร์วศิวกรรม 1: สถิตยศาสตร์
โดย อ.ดร. เจษฎาภรณ์ ปริยด ากลภาควชิาวศิวกรรมเคร่ืองกล
คณะวศิวกรรมศาสตร์ มหาวทิยาลยัมหิดล
-
อธิบายรายวิชา
รหัสรายวิชา: วศคก 121 กลศาสตร์วศิวกรรม 1
EGME 121 Engineering Mechanics I
วชิาทีต้่องศึกษามาก่อน: วทฟส 151 ฟิสิกส์ทัว่ไป 1 (SCPY 151 General physics)
เน้ือหา:
ระบบแรงต่างๆ การวเิคราะห์สมดุล การวเิคราะห์โครงสร้าง ความเสียดทาน หลกัการของงานเสมือน เสถียรภาพ โมเมนตค์วามเฉ่ือยของพื้นท่ี
-
แผนการบรรยายสปัดาหท่ี์ เน้ือหา
1 บทท่ี 1 บทน า (introduction to statics): กลศาสตร ์แนวคิดพ้ืนฐาน ปริมาณ กฎนิวตนั
2-3 บทท่ี 2 ระบบแรง (force systems)
4-5 บทท่ี 3 สภาพสมดลุ (equilibrium)
6-7 บทท่ี 4 โครงสรา้ง (structures)
8 สอบกลางภาค
9-10 บทท่ี 5 แรงกระจาย (distribution forces)
11-12 บทท่ี 6 แรงเสียดทาน (friction)
13 บทท่ี 7 งานเสมือน (virtual work)
14 บทท่ี 8 โมเมนตค์วามเฉ่ือยของพ้ืนท่ี (Area Moment of Inertia)
15 สอบปลายภาค
-
การวดัผล
คะแนน
สอบกลางภาค 35%
สอบปลายภาค 45%
การเขา้เรียน ตรงตอ่เวลา 5%
การบา้น หรือ สอบยอ่ย 15%
รวม 100%
-
เอกสารประกอบการสอน
1. J.L. Meriam, L,G, Kraige, Engineering Mechanics: Statics.
2. R.C. Hibbeler, Engineering Mechanics: Statics.
-
ENGINEERING MECHANICS: STATICSบทท่ี 1: บทน า กฎนิวตนั ระบบหน่วย และความรู้พื้นฐานของแรง
-
Outline
1. บทน ำ2. นิยำมพืน้ฐำน3. กฎนิวตนั4. ระบบหน่วย5. ควำมรู้พืน้ฐำนของแรง
-
กลศาสตร์
กลศาสคร์ของ ของไหลยบุตวัไม่ได ้(Incompressible
fluids)
กลศาสตร์ของของไหล (Fluids Mechanics)
กลศาสตร์ของวตัถุท่ีเสียรูปได้(Mechanics of deformable body)
กลศาสตร์ของวตัถุแขง็เกร็ง(Mechanics of rigid bodies)
กลศาสคร์ของ ของไหลยบุตวัได ้
(Compressible fluids)
กลศาสคร์ของวสัดุ(Mechanics of
Materials)
พลศาสตร์ (Dynamics)
สถิตยศาสตร์(Statics)
บทที่ 1 บทน าวิชำกลศำสตร์ (Mechanics) เป็นสำขำวิชำทำงฟิสิกส์ซึ่งศึกษำสภำพหยดุน่ิงหรือเคลื่อนท่ีของวตัถเุม่ืออยู่ภำยใต้กำรกระท ำของแรง
-
9
บทที่ 1 บทน า
กลศาสตร์ของวตัถุแขง็เกร็ง (Mechanics of rigid body)แบ่งเป็น
1) สถิตยสาสตร์ (Statics) – กลศาสตร์ท่ีวิเคราะห์แรงและการแกปั้ญหาของระบบแรงท่ีกระท าต่อวตัถุหน่ึงภายใตภ้าวะสมดุล
2) พลศาสตร์ (Dynamics) – กลศาสตร์ท่ีศึกษาการเคล่ือนท่ีของวตัถุหน่ึงๆภายใตก้ารกระท าของแรง
-
10
ตัวอย่างแรงท่ีกระท าต่อโครงสร้างต่างๆ
บทที่ 1 บทน า
(Ref. [2])
-
ตัวอย่างแรงท่ีกระท าต่อโครงสร้างต่างๆ
(Ref. [1],[2])
บทที่ 1 บทน า
-
➢ สเปซ (Space) พื้นท่ีซ่ึงวตัถุท่ีพิจารณาอยูใ่นพื้นท่ีดงักล่าว โดยการระบุต าแหน่งต่างๆ ภายในสเปซ สามารถก าหนดไดโ้ดยระบบพิกดั เช่น ปัญหา 2D ระบุในพิกดั x,y หรือ r,ปัญหา 3D ระบุในพิกดั x,y,z หรือ r,,z
➢ เวลา (time) เป็นการวดัความต่อเน่ืองของเหตุการณ์และใชร้ะบุเหตุการณ์
➢ มวล (mass) เป็นลกัษณะเฉพาะของวตัถุ เช่นวตัถุรูปร่างต่างกนั มีมวลเท่ากนั จะถูกโลกดึงดูดเท่ากนั
➢ แรง (force) เป็นตวัแทนของการกระท าต่อวตัถุ ประกอบดว้ย ขนาด(Magnitude), ทิศทาง(Direction), และจุดกระท า(Point of application)สามารถแทนไดด้ว้ย เวคเตอร์
บทที่ 1 นิยามพ้ืนฐาน
-
(ต่อ)
➢ อนุภาค (Particle) คือสารขนาดเลก็ สามารถแทนไดด้ว้ยจุดเลก็ในสเปซ
➢ วตัถุแข็งเกร็ง (Rigid body) หมายถึงกลุ่มของอนุภาคท่ีอยูร่วมกนัซ่ึงมีต าแหน่งแน่นอน และไม่มีการเปล่ียนแปลงเม่ือมีแรงมากระท า
(ไม่มีการเสียรูปเน่ืองจากแรงกระท า แต่ในความเป็นจริงจะเสียรูปเลก็นอ้ยเสมอ)
บทที่ 1 นิยามพ้ืนฐาน
-
• กฎข้อที่ 1 ถ้ำแรงลัพธ์ท่ีกระท ำกบัอนภุำคมีคำ่เท่ากับศูนย์ อนภุำคนัน้จะหยดุนิ่ง (ถ้ำเดิมอยู่นิ่ง)หรือจะเคลื่อนไปในแนวเส้นตรงด้วยควำมเร็วคงท่ี (ถ้ำเดิมเคลื่อนท่ีอยูแ่ล้ว) เขียนเป็นสมกำร
• กฎข้อที่ 2 ถ้ำแรงลัพธ์ท่ีกระท ำกบัอนภุำคไม่เท่ากับศูนย์ อนุภำคนัน้จะเคลื่อนท่ีด้วยควำมเร่ง ท่ีแปรผันตรงกับขนำดของแรงลพัธ์ และไปในทิศทำงเดียวกบัแรงลพัธ์ เขียนเป็นสมกำร
• กฎข้อที่ 3 แรงกระท ำ และแรงปฏิกิริยำ (action and reaction force) ระหวำ่งวตัถุท่ีสมัผสักนั มีขนำดเท่ำกนั + อยูใ่นแนวเดียวกนั แต่มีทิศทำงตรงกนัข้ำม
บทที่ 1 กฎของนิวตนั
-
• กฎการโน้มถ่วงของนิวตนั (Newton’s Law of Gravitational Attraction)
หากมีอนุภาค 2 อนุภาคท่ีมีมวล m1 และ m2 อนุภาคทั้งสองจะมีแรงดึงดูดระหว่างกนั โดยแรงท่ีกระท ามีขนาดเท่ากนัแต่มีทิศทางตรงกนัขา้ม
บทที่ 1 กฎของนิวตนั
r คือ ระยะห่างระหวา่งอนุภาค G คือ ค่านิจโนม้ถ่วงสากล
1 2
2
m mF G
r (Ref. [1])
-
Ex.
W = (1 kg)(9.81 m/𝑠2)= 9.81 N
บทที่ 1 กฎของนิวตนั
สมกำรทัว่ไป
สมกำรส ำหรับโลก 𝐹 = 𝑊 = 𝑚 𝐺𝑀𝑟2
โดย m = มวลของอนภุำค, M = มวลของโลก, r = รัศมีของโลก
ให้ 𝑔 = 𝐺𝑀𝑟2
𝑊 = 𝑚𝑔
เม่ือ W = ขนำด น ำ้หนกัของวตัถ ุ(Newton, N)
g = คำ่คงท่ี เรียกวำ่คำ่ควำมเร่งเน่ืองจำกแรงโน้มถ่วงของโลก
= 9.81 m/𝑠2
1 2
2
m mF G
r
-
บทที่ 3 ระบบหน่วยPrefixes for SI units
Exponential form Prefix SI symbol
Multiple
1,000,000,000 109 giga G
1,000,000 106 mega M
1,000 103 kilo k
Submultiple
0.001 10-3 milli m
0.000001 10-6 micro
0.00000001 10-9 nano n
-
บทที่ 3 ระบบหน่วยกฏการใช้หน่วย SI1. ในกรณีท่ีเป็นหน่วยแบบผสม ให้แยกกนัโดยใช้จดุ ∙ (dot) เพ่ือปอ้งกนักำรสบัสนกบั Prefix เช่น
N = kg∙m/s2 = kg∙m∙s-2 และ m∙s = meter-second, ms = milli-second
2. เลขยกก ำลงัส ำหรับหน่วยท่ีมี prefix ให้ยกก ำลงัทัง้ หน่วย และ prefixμN2 = (μN)2= μN ∙ μN
3. ไมนิ่ยมใช้ prefix กบัตวัหำร ส ำหรับหน่วยแบบผสม (ยกเว้นหน่วย kg)N/mm → kN/m , m/mg → Mm/kg
4. เม่ือมีกำรค ำนวนให้แปลง prefix ไปเป็นเลขยกก ำลงัของ 10 จำกนัน้ค ำตอบสดุท้ำยให้แสดงด้วย single prefix
[50 kN][60 nm] = [50x103 N][60x10-9 m]
= 3000x10-6 N∙m = 3x10-3 N∙m = 3 mN∙m
-
ตวัอยา่งท่ี 1.1
Evaluate each of the following and express with SI units having an appropriate prefix:
(a) (50 mN)(6 GN)
(b) (400 mm)(0.6 MN)2
(c) 45 MN3/900Gg.
Ans: (a) 300 kN2 (b) 144 Gm∙N2 (c) 50 kN3/kg
19
-
บทท่ี 1 ความรู้พ้ืนฐานของแรง
1. เวกเตอร์ (Vector)2. กำรบวกลบเวกเตอร์3. กำรวิเครำะห์และแก้ปัญหำเก่ียวกบั Vector เพื่อหำเวกเตอร์ลพัธ์ และเวกเตอร์ย่อย4. ระบบแรง ใน 2 มิติ
-
บทท่ี 1 ความรู้พ้ืนฐานของแรง
1. เวกเตอร์ (Vector)คือปริมำณท่ีมีทัง้ขนำด (Magnitude) และทิศทำง (Direction) เช่น ควำมเร็ว
(Velocity) แรง (Force) และโมเมนต์ (Moment) เป็นต้น
Ref. (2)
-
บทท่ี 1 ความรู้พ้ืนฐานของแรง2. การบวกลบเวกเตอร์
2.1 กฎสี่เหลี่ยมด้ำนขนำน
2.2 กำรสร้ำงสำมเหลี่ยม
Ref. (2)
-
บทท่ี 1 ความรู้พ้ืนฐานของแรง
2.3 กำรรวมแรงท่ีขนำนกนั
Ref. (2)
-
บทท่ี 1 ความรู้พ้ืนฐานของแรง
3. การวิเคราะห์และแก้ปัญหาเก่ียวกับ Vector เพื่อหาเวกเตอร์ลัพธ์ และเวกเตอร์ย่อย
- กฎสี่เหลี่ยมด้ำนขนำน - วิธีกำรสร้ำงสำมเหลี่ยม - Sine law
𝐴
sin 𝑎=
𝐵
sin 𝑏=
𝐶
sin 𝑐
- Cosine law
C = 𝐴2 + 𝐵2 − 2𝐴𝐵𝑐𝑜𝑠 c
-
ตวัอยา่งท่ี 1.2The screw eye is subjected to two forces. Determine the magnitude and direction of the resultant force. Ans: FR = 212.55 N, ∅ = 54.76°
Ref. (2)
-
ตวัอยา่งท่ี 1.3Determine the magnitudes of components acting along u and v axes.
Ans: Fu= 1039.23 N, Fv= 600 N
Ref. (2)
-
ตวัอยา่งท่ี 1.4Determine the magnitude of the component force F and the magnitude of the resultant force 𝐹𝑅 (if 𝐹𝑅 is directed along the positive y axis)
Ans: F= 244.95 N, FR= 273.2 N
Ref. (2)
-
บทท่ี 1 ความรู้พ้ืนฐานของแรง
4. ระบบแรง ใน 2 มิติแรง (force) คือ กำรกระท ำของวตัถหุนึง่ตอ่วตัถอีุกชิน้หนึง่ โดยแรงจะพยำยำมให้วตัถเุคลื่อนที่ไปตำม
แนวแรงนัน้ แรงประกอบด้วย
1. ขนำด (magnitude)
2. ทิศทำง (direction)
3. ต ำแหน่งที่แรงกระท ำ (point of application)
-
บทที่ 1 ความรู้พ้ืนฐานของแรง4. ระบบแรง ใน 2 มิต ิ(ต่อ)
แรงบนระนำบ 2 มิต ิคือ กำรแยกหำองค์ประกอบของแรงทิศทำง แกน x และแกน y1. Scalar notation
𝐹𝑥 = 𝐹𝑐𝑜𝑠𝜃
𝐹𝑦 = 𝐹𝑠𝑖𝑛𝜃
𝐹 = 𝐹𝑥2 + 𝐹𝑦
2 (ขนำด)
𝜃 = tan−1𝐹𝑦
𝐹𝑥
2. Cartesian Vector notation
𝑭 = 𝐹𝑥𝐢 + 𝐹𝑦𝒋
(Ref. [1])
-
บทที่ 1 ความรู้พ้ืนฐานของแรง
Cartesian Vector Notation
Ref. (2)
-
ตวัอยา่งท่ี 1.5Determine the x and y components of F1 and F2 acting on the boom. Express each force as a Cartesian vector.
Ans: 𝐹1= -100i +173.2j N, 𝐹2= 240i -100j N, റ𝐹= 140i +73.2j N
Ref. (2)
-
ตวัอยา่งท่ี 1.6แรง F1 F2 และ F3 ซึง่กระท ำท่ีจดุ A ดงัภำพ ให้หำองค์ประกอบในแนวแกน x และ y
Ans: F1x= 491.49 N, F1y= 344.14 N, F2x= -400 N,
F2y= 300 N, F3x= 357.83 N, F3y= -715.51 N
(Ref. [1])
1 1
2 2
3 3
, ?
, ?
, ?
x y
x y
x y
F F
F F
F F
-
ตวัอยา่งท่ี 1.7
The link is subjected to two forces F1 and F2 . Determine the magnitude and direction of the resultant force.
Ans: FR= 629.07 N, ∅ = 67.88°
Ref. (2)
-
ตวัอยา่งท่ี 1.8ให้หำแรงลพัธ์ R ซึง่เกิดจำกแรง P และ T
Ans: 𝑅= 346.42i – 392.77j N, R = 523.7 N, ∅= 48.58°
(Ref. [1])
-
ตวัอยา่งท่ี 1.9Forces F1 and F2 act on the bracket as shown. Determine the projection Fb of their resultant R onto the b-axis. Ans: Fb= 144.3 N
(Ref. [1])
-
[1] J.L. Meriam, L,G, Kraige, Engineering Mechanics: Statics.
[2] R.C. Hibbeler, Engineering Mechanics: Statics.
เอกสารอา้งอิง
36