kubjaikubjan2

22
กลับใจ กับจันทร์ 2 To Chanthaburi

Upload: pp-miracle

Post on 14-Mar-2016

218 views

Category:

Documents


5 download

DESCRIPTION

kubjaikubjan2,bhisit

TRANSCRIPT

Page 1: kubjaikubjan2

กลับใจกับจันทร์ 2

To Chanthaburi

Page 2: kubjaikubjan2
Page 3: kubjaikubjan2

Editor’s Talk

ตอนนี้ไปที่ไหนๆ ก็ไม่ค่อยจะดี เน่ืองจากสภาพดินฟ้า-อากาศ แปรปรวน

ต่างประเทศหิมะตก-แผ่นดินไหว ทำให้สายการบินของหลายประเทศต้องหยุดทำ

การบินและเปลี่ยนเส้นทาง บางวันอากาศร้อน อบอ้าว แต่พอตกกลางคืนอากาศ

หนาวเย็น บางพื้นที่ทำท่าว่าฤดูหนาวจะกลับมาอีกครั้ง โดยเฉพาะภาคเหนือและ

ภาคอีสานตอนบน คงต้องเตรียมความพร้อม สำหรับความไม่แน่นอน เช่น เสื้อ-

ผ้าห่ม ยาบอากาศที่เปลี่ยนไป สามัญประจำบ้าน บางคนที่ร่างกายอ่อนแอหรือ

คนเฒ่าชรา อาจจะรับมือกับอากาศที่เปลี่ยนไป บางวันขับรถออกจากบ้านไปว

ทำงาน หรือบางท่านอาจจะพาครอบครัวเดินทาง ท่องเที่ยวเพื่อพักผ่อนยังต่าง

จังหวัด อาจเจอกับฝนที่ตกลงมา จะเดินทางไปไหนก็ควรระมัดระวังกันมากหน่อย

สำหรับนักท่องเที่ยว ต้องการพักผ่อน ขอแนะนำ จันทบุรี ระยะไม่ไกล

สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน-สถานที่พัก-อาหาร-สถานที่ตากอากาศและ

โบราณสถานที่สำคัญมากมาย่

ขอเชิญชวน คนไทย-รักไทย เที่ยวเมืองไทย สบายดี จริง

พิสิษฐ์ รัตนาธรรม

บรรณาธิการ

Page 4: kubjaikubjan2

ก่อนที่ผมจะนั่งวิปัสสนาสมาธิผมจะต้องท่องบทสวดอีกหนึ่งบท

เพื่อเป็นการชำระล้างจิตใจและพยายามเหนี่ยวนำจิตให้เข้าสู่ภวังค์หรือ

อารมณ์ของจิต ซึ่งจะไม่ให้จิตหนีไปไหนได้ไกลง่ายต่อการควบคุมและที่

สำคัญเป็นการระลึกถึงคุณขององค์สัมมาสัมพุทธเจ้าแผ่บุญแผ่กุศล ขอ

อโหสิกรรมแก่เจ้ากรรมนายเวรนี่ก็เป็นอุบายอีกหนึ่งที่ใช้ทำสมาธิบทสวด

ที่ผมใช้สวดเริ่มต้นด้วย

นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ

นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ

นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ

ปะริสุทโธ อะหัง ภันเต ปะริสุโธติ มัง พุทโธ ธัมโม สังโฆ ธาเรถะ

พุทโธ เมนาโถ ธัมโม เมนาโถ สังโฆ เมนาโถ อิติสุขโต อะระหัง พุทโธ

นะโม พุทธายะ

แล้วอธิษฐานต่อไปว่า ข้าพเจ้าจะขอ

ปฏิบัติเป็น พุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชา

ขออานิสงส์ส่วนนี้จงเป็นเหตุจงเป็นปัจจัยให้

ดวงจิตของข้าพเจ้าเข้าสู่องค์สมาธิและมีดวง

ตาเห็นธรรมด้วยเถิดคำขออโหสิกรรม-ข้าพเจ้าขออโหสิกรรมกรรมใดที่

ทำแก่ผู้ใดในชาติใดๆก็ตามขอให้เจ้ากรรมและนายเวรจงอโหสิกรรมให้

แก่ข้าพเจ้าอย่าได้จองเวรจองกรรมต่อไปเลย แม้กรรมที่ ใครๆทำแก่

ข้าพเจ้าก็ตาม ข้าพเจ้าขออโหสิกรรมให้ทั้งสิ้นยกถวายพระพุทธเจ้าเป็น

อภัยทาน เพื่อจะได้ไม่มีเวรไม่มีกรรมต่อไป ด้วยอานิสงส์แห่งอภัยทาน

นี้ ขอให้ข้าพเจ้า ครอบครัว บุตรหลาน ตลอดจนวงศาคณาญาติของ

ข้าพเจ้ามีความสุขความเจริญ ปฏิบัติแต่สิ่งที่ดี และสิ่งที่ชอบด้วยเทอญฯ

ทำบุญแล้วต้องให้ทานต่อ อย่าหวง ทำบุญแล้วให้ทาน รวย

ทำบุญแล้วไม่ให้ทาน จน เราจึงเรียกว่า “ทำบุญสุนทาน”

(พระธรรมสิงหบูราจารย์)

เข้านั่งที่วิปัสสนาสมาธิ

Page 5: kubjaikubjan2

ศาลหลักเมือง

ศาลหลักเมืองสันนิษฐานว่าพระเจ้าตาก

ทรงสร้างขึ้นในปี พ.ศ. 231 ศาลเดิมมี

สภาพทรุดโทรม มีต้นโพธิ์ ต้นข่อย ขึ้น

ปกคลุมจนไม่เหลือเค้าเดิมว่ามีลักษณะ

เช่นไร ต่อมาทางจังหวัดจันทบุรีได้ ก่อ

สร้างศาลและหล่อองค์เจ้าพ่อหลักเมือง

ขึ้นใหม่โดยวางศิลาฤกษ์เมื่อ พ.ศ. 2524 ก่อสร้างเสร็จในปี พ.ศ. 2526 และได้

มีการบูรณะซ่อมแซมตัวอาคาร ปรับปรุงภูมิทัศน์โดยรอบ ให้มีความสวยงดงาม

สมศักดิ์ศรีของเมือง ในปี พ.ศ. 2542 เจ้าพ่อหลักเมืองเป็นแท่งศิลาประดิษฐาน

ภายในอาคารทรงไทยแบบจัตุรมุข ก่ออิฐถือปูน มีช่อฟ้าใบระกามีปรางค์ที่ด้าน

บนอาคาร มีบันไดทางขึ้นสี่ด้าน

การเดินทาง : มาตามถนนท่าหลวงจะพบศาลหลักเมืองอยู่บริเวณใกล้

กับศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช

Page 6: kubjaikubjan2

ศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินฯ เป็นสถานที่

สำคัญอีกแห่งหนึ่งของเมืองจันท์ บ่งบอกถึงความ

ผูกพันของชาวเมืองนี้ที่มีต่อพระเจ้าตาก โดยมีคำ

กล่าวว่า ถ้าไม่ได้มาสักการะพระเจ้าตาก ก็ถือว่า

ยังมาไม่ถึงเมืองจันท์ ประวัติ:ศาลสมเด็จพระเจ้า

ตากสินฯ เดิมเป็นศาลไม้อยู่ข้างศาลเจ้าพ่อหลัก

เมือง ต่อมาในปี 2463 สมัย ม.จ.สฤษดิเดชชยางกูรเป็นสมุหเทศาภิบาลมณฑล

จันทบุรี ได้สร้างศาลขึ้นใหม่บริเวณด้านหน้าค่ายทหารกองพันนาวิกโยธินคนละ

ฝั่งถนนกับศาลเจ้าพ่อหลักเมือง โดยอาศัยอาคารเป็นศาลาคอนกรีตสี่เหลี่ยม

จัตุรมุตขมีบันไดด้านหน้าและด้านข้างรวม 3 ด้านกรมศิลปากรเป็นผู้ออกแบบ

ภายในเป็นที่ประดิษฐานเทวรูปซึ่งเป็นเทพเจ้าประจำพระองค์พระเจ้าตาก

ชาวจันทบุรีถือว่าสมเด็จพระเจ้า

ตากสินมหาราชทรงมีพระมหา-

กรุณาธิคุณทำให้จันทบุรีเป็นที่

รู้จักและเป็นส่วนหนึ่งของประวัติ-

ศาสตร์การกอบกู้เอกราช คราว

เสียกรุงครั้งที่ 2 ในฐานะที่ เป็น

ฐานที่มั่นของสมเด็จพระเจ้าตาก

สินฯในระหว่างการรวบรวมพล

รวมถึงเสบียงอาหารและสถาปนา

อำนาจขึ้นใหม่

ศาลสมเด็จพระเจ้าตากสิน

Page 7: kubjaikubjan2

ค่ายเนินวง จ. จันทบุรี

ตั้งอยู่ที่ ตำบลวังกระแจะ บนทาง

หลวงหมายเลข 3147 หากเริ่มจากหน้า

โรงแรมอีสเทอร์นไปตามถนนท่าแฉลบอีก

6 กิโลเมตร มีทางแยกเลี้ยวขวาประมาณ

400 เมตร พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้า-

เจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 โปรดเกล้าฯ ให้เจ้า

พระยาพระคลังสร้างขึ้นเมื่อวันที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2377 โดยรื้อศิลาแลงและอิฐของ

กำแพงจากเมืองเก่าจันทบุรีไปสร้างเพื่อป้องกันการรุกรานของพวกญวนบนกำแพงค่า

ยวางปืนใหญ่เรียงรายอยู่โดยรอบภายในบริเวณค่ายมีศาลหลักเมืองสมเด็จพระเจ้าตา

กสินมหาราชและวัดโยธานิมิตรซึ่งสร้างขึ้นเพื่อเป็นวัดประจำเมืองตั้งอยู่ปัจจุบันเป็นที่

ตั้งของหน่วยโบราณคดีใต้น้ำกรมศิลปากร ซึ่งเป็นสถานที่เก็บรักษาโบราณวัตถุและ

เครื่องปั้นดินเผาที่ยึดได้จากเรือออสเตรเลี่ยนไทด์ที่ละเมิดน่านน้ำอ่าวไทยเพื่อลักลอบ

นำโบราณวัตถุออกไปยังต่างประเทศ หน่วยโบราณคดีแห่งนี้เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชม

ทุกวัน โดยไม่เสียค่าเข้าชม

ค่ายเนินวง

Page 8: kubjaikubjan2
Page 9: kubjaikubjan2

คุกขี้ไก่ จังหวัดจันทบุรี ตั้งอยู่ตำบล

ปากน้ำแหลมสิงห์ ก่อนถึงท่าเทียบ

เรือ 1 กิโลเมตร สร้างขึ้น เมื่อ พ.ศ.

2436 ( ร.ศ. 112 ) เมื่อฝรั่งเศสได้

เข้ายึดจันทบุรี ในกรณีพิพาทกันด้วย

เรื่องดินแดนฝั่งซ้ายแม่น้ำโขงระหว่าง

นั้นกองทหารฝรั่งเศสประมาณ 600 คน แยกกันอยู่สองแห่งแห่งแรกตั้งอยู่ที่

เมืองจันทบุรีบริเวณที่เป็นค่ายทหาร ในปัจจุบันอีกแห่งอยู่ที่ปากน้ำแหลมสิงห์

ฝรั่งเศสได้สร้างคุกขี้ไก่ เพื่อใช้กักขังคนไทยที่ต่อต้านฝรั่งเศส

มีลักษณะเป็นหอสี่เหลี่ยมจัตุรัส กว้างยาวด้านละประมาณ 4.40 เมตร

สูงประมาณ 7 เมตร มีช่องระบายอากาศอยู่สองแถว หลังคาโปร่ง เล่ากันว่า

เป็นคุกที่ทรมานมากเพราะชั้นบนใช้เป็นที่เลี้ยงไก่ ซึ่งจะถ่ายมูลราดศีรษะนัก

โทษที่ถูกคุมขังตลอดเวลา

คุกขี้ไก่

Page 10: kubjaikubjan2

ซากโบราณสถานเมืองเพนียด

หรือที่เรียกกันว่า ปราสาทหินจันทบูร

ปัจจุบันเหลือเพียงแนวกำแพงศิลาแลง

และคันดิน กว้าง 16 ม. ยาว 26 ม.สูง

3 ม.มีอายุกว่าพันปีเนื่องจากชิ้นส่วนที่

เคยเป็นปราสาทหินถูกขนย้ายออกจาก

พื้นที่ไปเป็นจำนวนมาก จึงเหลือไว้ ณ

ที่นี้เพียงส่วนน้อย

นักโบราณคดีสันนิษฐานว่าบริเวณเมือง

เพนียดน่าจะมีปราสาทหินสองสามหลังรวมทั้ง

ส่วนที่เป็นบ่อทรายหรืออ่างเก็บน้ำรูปสี่เหลี่ยม

ผืนผ้าขนาดใหญ่กรุด้วยศิลาแลง และเชื่อว่า

เมืองเพนียดน่าจะเก่ากว่านครวัดนครธมของ

เขมรเนื่องจากมีการพบทับหลังศิลปะแบบ

ถาลาบริวัตซึ่งเป็นรูปแบบศิลปะที่เก่าแกกว่า

นครวัด นครธมนับร้อยปี

โบราณสถานเมืองเพนียด

Page 11: kubjaikubjan2

วัดเขาพลอยแหวน สร้างขึ้นเมื่อประมาณ

ปี จ.ศ.1183 หรือเมื่อ ประมาณ ปี พ.ศ.

2364 มีหลักฐานที่จะพึงสันนิษฐานได้ว่า

สร้างก่อนเจดีย์ และเสาธงบนยอดเขา

พลอยแหวน เพราะว่า เจดีย์นั้นสร้างเมื่อ

จ.ศ. 1198 หรือ พ.ศ. 2379 มีแผ่นศิลา

จารึกไว้ว่าพญาพิไชยธิบดีศรีรณรงฤาไชย

พญาจันทบุรี สร้างเมื่อ วันเสาร์ เดือน 11จุลศักราช 1198 ปีวอก องค์เจดีย์ กว้าง

5 วา สูง 6 วา 3 ศอก บรรจุพระบรมธาตุ พร้อมกับเสาร์ธง และได้ให้นามว่า

"รัตนคีรีเจดีย์" ส่วนเสาธงนั้น

ปัจจุบันได้สร้างมณฑปแทนและประดิษฐาน

พระพุทธบาทจำลองและพระพุทธรูปไว้พร้อมกับได้

สร้างศาลามีพระปางห้ามญาติประดิษฐานอยู่ส่วน

เจดีย์นั้นได้ต่อเติมให้กว้างและสูงขึ้นกว่าเดิมพร้อม

กับสร้างบันไดขึ้นยอดเขา รวม 625 ขั้น วัดแห่งนี้

ชาวบ้านเรียกกันว่า วัดเขาพลอยแหวน เพราะตั้ง

อยู่บนเนินเขา ซึ่งบริเวณเขาเป็นที่กำเนิดพลอย

ชนิดต่างๆ ของเมืองจันท์ เช่น พลอยเขียวมรกต

พลอยเขียวไพลิน พลอยเขียวส่อง พลอยบุษราคัม

และพลอยสตาร์

วัดเขาพลอยแหวน

Page 12: kubjaikubjan2

วัดเขาสุกิม เป็นวัดที่มีชื่อเสียง

ของเมืองจันท์ สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2509

ด้วยแรงศรัทธาของพุทธศาสนิกชนที่มีต่อ

พระอาจารย์สมชาย ฐิตวิริโยตั้งอยุ่บนเขา

แพร่งขาหยั่ง โดยมีจุดประสงค์เพื่อใช้เป็น

ที่บำเพ็ญภาวนาของพุทธศาสนิกชนทั่วไป

นักท่องเที่ยวจะต้องนั่งรถรางไฟฟ้าขึ้นไป

โดยไม่เสียค่าบริการ

บริเวณวัดมีพื้นที่กว้างขวางประมาณ

3,280 ไร่ อยู่สูงขึ้นไปบนเนินเขาทาง

วัดได้สร้างพระพุทธรูปขนาดใหญ่ปาง

ต่างๆ ให้นักท่องเที่ยวได้นมัสการและ

มีบ่อเลี้ยงปลาคราฟขนาดใหญ่ตลอด

จนร้านจำหน่ายอาหารและของที่ระลึก

ภายในวัดมีพิพิธภัณฑ์ซึ่งจัดแสดง

ศาสนสมบัติ ศาสนวัตถุ วัตถุโบราณ

ล้ำค่าต่างๆ มากมาย นอกจากนี้ยังมี

โรงเรียน โรงพยาบาล และมีการจัด

แสดงหุ่นขี้ผึ้งหลวงปู่แหวน หลวงปู่วัน

พระอาจารย์มั่น ฯลผู้ที่ประสงค์จะมา

วิปัสสนาสามารถติดต่อโดยตรงกับทาง

วัด

วัดเขาสุกิม

Page 13: kubjaikubjan2
Page 14: kubjaikubjan2

ตึกแดง เป็นอาคารชั้นเดียวก่ออิฐถือปูน

กว้าง 7 เมตร ยาว 32 เมตร ทาสีแดง

ชาด ภายในแบ่งเป็น 5 ห้อง มีประตูเปิด

ถึงกันหมด มีระเบียงสองด้านตามแนว

ยาวของตัวตึกสร้างขึ้นในบริเวณที่ตั้งป้อม

ปืนเก่าแก่และได้รับการบูรณะ ในสมัย

รัชกาลที่ 3 เพื่อรับศึกญวนฝรั่งเศสได้รื้อ

ตึกจากตัวป้อมมาสร้างตึกแดงเพื่อใช้เป็น

ที่พักนายทหารและกองรักษาการณ์ปากน้ำแหลมสิงห์ ตึกแดงได้รับการบูรณะเมื่อ

ปี พ.ศ. 2527 และใช้เป็นอาคารห้องสมุดและศูนย์การศึกษานอกโรงเรียนของ

อ.แหลมสิงห์ ต่อมาเลิกใช้และเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชม

ตึกแดง

Page 15: kubjaikubjan2

ตำแหน่งที่ตั้งวัดซึ่งไม่ห่างจากโบราณสถาน

เมืองเพนียดมากนักวัดทองทั่ว มีโบสถ์หลัง

เก่าซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมแบบของยุคต้น

รัตนโกสินทร์สร้างทับไปบนศาสนสถาน

แบบขอม ทางทิศตะวันออก หน้าโบสถ์

มีสิงห์นั่งแกะสลักด้วยหินทรายสีแดง สูง

90 ซม.หน้าประตูมีชิ้นส่วนธรณีประตูหิน

ทรายสีขาวในโบสถ์เก่าหลังนี้ปัจจุบันเป็น

ที่เก็บทับหลังหินทรายสีขาวและสลักเป็นศิลป์ แบบถาลาบริวัตรต่อสมโบรไพรกุก

(พ.ศ. 1150) อีกชิ้น คือทับหลังหินทรายสีขาวเช่นเดียวกันและสลักเป็นรูปลาย

พันธุ์พฤกษาและพวงมาลัย ลักษณะศิลป์แบบไพรกเมง (พ.ศ.1180-1250)และ

ยังมีเสาประดับกรอบประตูเทวสถาน

ลักษณะศิลปสครวัดมีโกลนพระคเณศ

แกะไม่เสร็จยังกำหนดรูปแบบศิลปะ

ไม่ได้แต่ร่องรอยด้านหลังที่เป็นรอย

เศียรนาค คือ การดัดแปลงพระพุทธ

รูปนาคปรกให้เป็นเทวรูปแสดงให้เห็น

ถึงลักษณะศิลปะทวารวดีที่ปะปนกับ

ขอมซึ่งขึ้นอยู่กับผู้ครองนครจะเลื่อมใส

ศาสนาใดมากกว่ากันลักษณะแบบนี้พบในเมืองโบราณหลายแห่งทางภาคตะวันออก

นี้ เช่น เมืองพระรถเมือง-ศรีมโหสถเมืองดงละครและโคกกระโดนอยู่ริมถนนสุขุมวิท

ห่างจากตัวเมืองราว 4 กิโลเมตร

วัดทองทั่ว

Page 16: kubjaikubjan2

วัดมังกรบุปผารามหรือวัด เล่งฮัวยี่ตั้ง

อยู่บนถนนสุขุมวิทเส้นทางสายจันทบุรี-ขลุง

ห่างจากตัวเมืองจันทบุรี 16 กิโลเมตรสร้าง

ขึ้นในปี พ.ศ. 2520 เป็นวัดในพุทธศาสนา

นิกายมหายานมีศาลาและพระอุโบสถที่ตก

แต่งด้วยกระเบื้องโมเสกเป็นลวดลายต่างๆ

อย่างงดงาม

ภายในวัดมีบรรยากาศที่เงียบสงบและ

ร่มรื่น เหมาะสำหรับผู้ที่สนใจการปฏิบัติธรรม

ซึ่งทางวัดยินดีจะอำนวยความสะดวกในด้าน

ที่พักวัดแห่งนี้มีงานประจำปีที่สำคัญ 2 งานคือ

งานบุญกฐินจะจัดขึ้นหลังช่วงเทศกาลออกพรรษาและงานทำบุญประจำปีของ

วัด ซึ่งจะจัดขึ้นหลังวันตรุษจีน 21วัน ซึ่งจะมีประชาชนเดินทางมาร่วมทำบุญ

ถือศีลและพำนักที่วัดตลอดช่วงการจัดงานนาน 7-10 วัน

วัดมังกรบุปผาราม

Page 17: kubjaikubjan2
Page 18: kubjaikubjan2

แหล่งโบราณคดีบ้านคลองบอน ลักษณะของแหล่งโบราณคดีบ้านคลองบอน

เป็นที่ราบเนินเขารูปร่างพื้นผิวดินเป็นลูกคลื่นลอนลาด มีภูเขาล้อมรอบทั้งสี่

ด้าน มีลำน้ำธรรมชาติขนาดใหญ่ (แต่มีน้ำไหลไม่ตลอดปี)ขนาบอยู่สองข้าง

ทางทิศตะวันออกมีคลองบอนอยู่ห่าง

จากแหล่งโบราณคดีประมาณ 500

หลา ทางทิศตะวันตกมีคลองกันทึม

อยู่ห่างออกไปประมาณ1.5กิโลเมตร

ด้านทิศเหนือมีลำน้ำเก่า ซึ่งตื้นเขิน

อยู่ที่บ้านคลองบอนตำบลหนองตามา

อำเภอโป่งน้ำร้อน จังหวัดจันทบุรี

แหล่งโบราณคดีบ้านคลองบอน

Page 19: kubjaikubjan2

"ร้านสมบูรณ์ แหลมสิงห์"

เป็นร้านอาหารอร่อย บรรยากาศดี

อยู่ติดชายทะเล อำเภอแหลมสิงห์

จังหวัดจันทบุรีมีบริการอาหารทะเล

สดใหม่กันทุกวันด้วยบริการที่เป็น

กันเองและราคาย่อมเยากับเจ้าของ

ร้านใจดีอย่าง คุณขนิษฐา ตั้งมั่น

ที่มาปรุงอาหารอร่อยๆ ให้เราได้รับ

ประทานกันเมนูแรกที่ขอแนะนำเป็น

เมนูประจำท้องถิ่นแสนอร่อยของที่นี่ปูนิ่มผัดพริกไทยดำเนื้อปูหวานเข้มข้นรส

เผ็ดร้อนอร่อยกำลังดี ต่อด้วย ปลากะพงทอดราดน้ำปลาเมนูที่ปรุงออกมาได้

อย่างยอดเยี่ยมรสชาติน้ำราดแซบเผ็ดถึงเครื่องบวกกับปลากะพงที่สดใหม่ทอด

กรอบทำให้เมนูนี้น้องคิวพีชอบมากครับ ถัดมาเป็นเมนู กุ้งอบซอสที่นี่อยู่ใกล้

ทะเล กุ้งที่เสิร์ฟเลยตัวใหญ่มากเห็นที

แรกถึงกับตกใจเลยและมีรสชาติอร่อย

มากๆครับเนื้อกุ้งสดใหม่หวานเหนียว

นุ่ม เมื่อรับประทานคู่กับน้ำจิ้มซีฟู้ดของ

ทางร้านที่ปรุงได้รสชาติเผ็ดเปรี้ยวกำลัง

ดีเรียกได้ว่าอร่อยโดนใจอีกแล้วครับ

สามารถเลือกรับประทานได้ตามชอบ

ไม่ว่าจะเป็นกุ้ง หอย ปู ปลา หรือ

ปลาหมึก เค้ามีให้บริการหมดทั้งครับ

อบ นึ่ง ทอด ได้ทุกอย่างปิดท้ายกับอีกหนึ่งเมนูที่อร่อยแซ่บได้สุขภาพกับพล่ากุ้ง

บอกได้คำเดียวว่าทั้งอร่อยทั้งได้สุขภาพเพราะสมุนไพรที่ที่นำมาปรุงในเมนูจานนี้

เรียกว่ายกสวนกันมาเลยทีเดียวครับการันตีได้ว่าอาหารทะเลที่นี่เค้าอร่อย สด

ใหม่ถึงเครื่องจริงๆ ครับ หากคราวหน้าคุณผู้อ่านได้มีโอกาสเดินทางมาพักผ่อน

ยังเมืองจันทบุรีแห่งนี้ก็อย่าลืมแวะมาที่"ร้านสมบูรณ์แหลมสิงห์"อีกหนึ่งสถานที่

ที่ไม่ควรพลาดครับ!

ร้านสมบูรณ์ แหลมสิงห์

Page 20: kubjaikubjan2

Beach House Beach House ริมหาคคุ้งวิมาน จันทบุรี

ที่พักเก๋ๆ ติดชายทะเล ขนาดย่อม 9 ห้อง

ตกแต่งผสมผสานแบบได้กลิ่นอายแบบ

โมรอคแคน อินเดีย เมดิเตอร์เรเนียน

แต่ละห้องตกแต่งแบบมีบุคลิคเป็นของ

ตัวเอง ซึ่งทุกห้องจะมีชื่อเรียกน่ารักๆ

ตามชื่อเมืองต่างๆของประเทศโมรอคโค

คือ Marrakech, Fez, Casablanca,

Essaouira, Asilah, Tangier, Rabat,

Meknes, Sale’. ทุกห้องเห็นวิวทะเล

ทาง Beach House มี่บริการอาหารทะเลสดๆ

ที่ทุกท่านสามารถสั่งรับประทานได้ที่บริเวณ

ชายหาด หรือบนดาดฟ้าของทาง Al Medina

ซึ่งจะได้สัมผัสบรรยากาศวิวพาโนรามาของ

ทะเล และภูเขและยังได้ชมพระอาทิตย์ตกดิน

แบบโรแมนติกที่หาดคุ้งวิมานซึ่งเป็นหาดเล็กๆ

ที่ยังมีธรรมชาตฺสวยงาม ผู้คนไม่พลุกพล่าน

สัมผัสบรรยากาศดีๆแบบนี้เคล้าเพลง Jazz

หรือ Chill out เบาได้ที่นี่ ราคาเริ่มต้น

3900 - 6300 บ.

สอบถามข้อมูล สำรองห้องพักได้ที่

Mobile: (08-5334-3555 / 08-5155-3333) FAX: 02 3911799

Website: www.almedinabeach.com Email: [email protected]

Page 21: kubjaikubjan2
Page 22: kubjaikubjan2