(ส าหรับจังหวัด/เขต/ศูนย์)...
TRANSCRIPT
แนวทางการปฏิบัติงาน
เกี่ยวกับที่ราชพัสดุ (ส าหรับจังหวัด/เขต/ศูนย์)
กองคลงั
กรมส่งเสรมิการเกษตร
กันยายน 2555
ค ำน ำ
กรมส่งเสริมการเกษตรมีสินทรัพย์ประเภทที่ดินและอาคาร/สิ่งปลูกสร้างเป็นจ านวนมาก เพ่ือให้ การก ากับดูแล การใช้ประโยชน์จากที่ดิน อาคารและสิ่งปลูกสร้างที่มีอยู่อย่างมีประสิทธิภาพและได้ รับประโยชน์สูงสุด จึงได้จัดท าแนวทางการปฏิบัติงานเกี่ยวกับที่ราชพัสดุ (ส าหรับจังหวัด/เขต/ศูนย์) ส าหรับ ให้เจ้าหน้าที่ของหน่วยงานภายในสังกัดกรมส่งเสริมการเกษตร ใช้เป็นแนวทางในการปฏิบัติงานเกี่ยวกับ การขอใช้ที่ราชพัสดุ การขอขึ้นทะเบียนที่ราชพัสดุ การขอรื้อถอนอาคารหรือสิ่งปลูกสร้าง การส่งคืน ที่ราชพัสดุ การขอใช้ประโยชน์อาคาร/สิ่งปลูกสร้างแบบชั่วคราว
การด าเนินงานเกี่ยวกับที่ราชพัสดุ ต้องปฏิบัติตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง และรายงานผล การปฏิบัติงานที่ได้ก าหนดไว้ กรมส่งเสริมการเกษตรหวังเป็นอย่างยิ่งว่าเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานผู้ถือปฏิบัติ จะได้ใช้เป็นคู่มือในการศึกษา ท าความเข้าใจและถือปฏิบัติได้ถูกต้องต่อไป
กองคลัง กรมส่งเสริมการเกษตร กันยายน 2555
สำรบัญ
หน้า
ความรู้เกี่ยวกับที่ราชพัสดุ 1
การขอใช้ที่ราชพัสดุ 5
การขอขึ้นทะเบียนที่ราชพัสดุ 8
การขอรื้อถอนอาคารหรือสิ่งปลูกสร้าง 11
การส่งคืนที่ราชพัสดุ 14
การขอใช้ประโยชน์อาคาร/สิ่งปลูกสร้างแบบชั่วคราว 17
ภำคผนวก
แบบฟอร์มต่ำง ๆ
1. แบบขอใช้ที่ราชพัสดุ (แบบ ทบ. 4)
2. แบบส ารวจรายการส่ง – รับที่ราชพัสดุขึ้นทะเบียน (แบบ ทร. 03 แบบส ารวจรายการที่ดิน)
3. แบบส ารวจรายการอาคาร/สิ่งปลูกสร้างขึ้นทะเบียนที่ราชพัสดุ (แบบ ทร. 04)
4. แบบส ารวจรายการอาคาร/สิ่งปลูกสร้างของรัฐที่ปลูกอยู่บนที่ดินที่มิใช่ที่ราชพัสดุ (แบบ ทร. 05)
5. แบบรายการส่ง – รับที่ราชพัสดุขึ้นทะเบียน (แบบ ทบ. 9)
6. แบบรายการแจ้งขอรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างที่เป็นที่ราชพัสดุ (แบบ ทบ. 3)
7. แบบแจ้งการรื้อถอนและจ าหน่ายอาคาร/สิ่งปลูกสร้าง (แบบ ทร. 11)
8. แบบส่งคืนที่ราชพัสดุ (แบบ ทบ. 6)
9. แบบส่งมอบ – รับมอบที่ราชพัสดุ (แบบ ทบ. 10)
10. แบบรายงานการปกครอง ดูแล บ ารุงรักษา ใช้ และจัดหาประโยชน์กับที่ราชพัสดุ ประจ าปี พ.ศ. ...
(แบบ ธร. 3801)
เอกสำรอ้ำงอิง 1. พระราชบัญญัติที่ราชพัสดุ พ.ศ. 2518
2. กฎกระทรวง ออกตามความในพระราชบัญญัติที่ราชพัสดุ พ.ศ. 2518
- ฉบับที่ 11 (พ.ศ. 2537)
- ฉบับที่ 14 (พ.ศ. 2542)
- ฉบับที่ 15 (พ.ศ. 2542)
3. ระเบียบส านักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ. 2535 และท่ีแก้ไขเพ่ิมเติม
4. หนังสือกรมธนารักษ์ ที่ กค 0407/ว 121 ลงวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2537 เรื่อง การขอใช้ที่ราชพัสดุ
สำรบัญ
5. กฎกระทรวงว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการปกครอง ดูแล บ ารุงรักษา ใช้ และจัดหาประโยชน์
เกี่ยวกับ ที่ราชพัสดุ พ.ศ. 2545
6. กฎกระทรวงว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการปกครอง ดูแล บ ารุงรักษา ใช้ และจัดหาประโยชน์
เกี่ยวกับที่ราชพัสดุ พ.ศ. 2545 (ฉบับปรับปรุง)
7. ระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการปกครอง ดูแล บ ารุงรักษา และการใช้ที่ราชพัสดุ พ.ศ. 2546
8. กฎกระทรวงว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการปกครอง ดูแล บ ารุงรักษา ใช้ และจัดหาประโยชน ์
เกี่ยวกับที่ราชพัสดุ (ฉบับที่ 2) และ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2549
9. กฎกระทรวงว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการโอนกรรมสิทธิ์ที่ราชพัสดุฯ พ.ศ. 2550
10. กฎกระทรวงว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการปกครอง ดูแล บ ารุงรักษา ใช้ และจัดหาประโยชน์
เกี่ยวกับที่ราชพัสดุ (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2552
11. หนังสือกรมส่งเสริมการเกษตร ที่ กษ 1003/ว 1101 ลงวันที่ 9 กันยายน 2554 เรื่อง แนวทางปฏิบัติ
ในการขออนุมัติรื้อถอนอาคารหรือสิ่งปลูกสร้าง
12. หนังสือกรมส่งเสริมการเกษตร ที่ กษ 1003/ว 1318 ลงวันที่ 23 พฤศจิกายน 2554 เรื่อง ขอให้
ด าเนินการถอนสภาพที่ดินสาธารณประโยชน์ และข้ึนทะเบียนที่ดิน เป็นที่ดินส าหรับทบวงการเมือง
13. ระเบียบและหนังสือเวียนที่เก่ียวข้อง
ควำมรู้เกี่ยวกับที่รำชพัสดุ
ควำมหมำย
“ที่รำชพัสดุ” หมายถึง อสังหาริมทรัพย์ อันเป็นทรัพย์สินของแผ่นดินทุกชนิด ที่มีลักษณะดังต่อไปนี้ 1. เป็นทรัพย์สินของแผ่นดินประเภทธรรมดา กล่าวคือ มิได้ใช้เพ่ือประโยชน์ของแผ่นดินโดยเฉพาะ ได้แก่
1.1 ที่นา สวน ไร่ 1.2 บ้านพักข้าราชการ 1.3 ที่ซึ่งไม่ได้สงวนไว้ใช้ในราชการและน าไปให้เอกชนเช่าปลูกบ้านอยู่อาศัย หรือท าการค้า เป็นต้น
แต่อย่างไรก็ตามถ้าที่ราชพัสดุนั้นเคยใช้ปลูกส านักงานราชการ แล้วต่อมาปลูกบ้านพักข้าราชการหรือจัดให้เช่าที่ราชพัสดุ ก็ยังคงเป็นที่สาธารณสมบัติของแผ่นดิน
2. เป็นสาธารณสมบัติที่ใช้เพ่ือแผ่นดินโดยเฉพาะ ซึ่งอาจกล่าวได้อีกอย่างหนึ่งว่าเป็นการใช้เพ่ือประโยชน์สาธารณะนั่นเอง ได้แก่
2.1 ที่ดิน ที่ใช้เป็นที่ตั้งสถานที่ราชการ 2.2 อาคาร สิ่งปลูกสร้างที่ใช้ประโยชน์ทางราชการ 2.3 ต้นไม้ยืนต้นในที่ราชพัสดุ 2.4 ดิน หิน กรวด ทราย แร่ธาตุในที่ราชพัสดุ
3. ต้องไม่ใช่ที่ดินของรัฐวิสาหกิจที่เป็นนิติบุคคลและท่ีดินขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 4. ต้องไม่เป็นที่ดินรกร้างว่างเปล่า ที่ดินที่มีผู้เวนคืน ที่ดินทอดทิ้ง ที่สาธารณประโยชน์ที่พลเมืองใช้ร่วมกัน
หรือสงวนไว้ใช้ร่วมกัน 5. ไม่รวมถึงที่ทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ที่ดินเอกชน (บุคคลธรรมดาและนิติบุคคล) ที่ดินวัดหรือที่วัด
ที่ธรณีสงฆ์ และที่กัลปนา (ที่ซึ่งมีผู้อุทิศผลประโยชน์แก่วัดหรือพระศาสนา) 6. นอกจากนี้ไม่รวมถึง ที่ดินป่าสงวนแห่งชาติ ที่ดินเขตอนุรักษ์ ที่ดินปฏิรูปการเกษตร ที่นิคมสร้างตนเอง 7. ส าหรับที่ดินที่มีกฎหมายพิเศษยกเว้นไม่ให้เป็นที่ราชพัสดุ เช่น พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ
พ.ศ. 2542 ที่ดินนั้นก็ไม่ใช่ที่ราชพัสดุ
“ผู้ใช้ที่รำชพัสดุ” หมายถึง กระทรวง ทบวง กรม องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หน่วยงานของรัฐ หรือองค์กรอ่ืนของรัฐที่เป็นผู้ปกครอง ดูแลหรือใช้ประโยชน์ในที่ราชพัสดุ และให้หมายความรวมถึงรัฐวิสาหกิจที่เป็น นิติบุคคลที่มีสิทธิใช้ที่ราชพัสดุตามกฎหมาย
“ทะเบียนที่รำชพัสดุ” หมายถึง เอกสารที่ทางราชการโดยกรมธนารักษ์ กระทรวงการคลังจัดท าขึ้นส าหรับใช้ขึ้นทะเบียนที่ราชพัสดุเพ่ือประโยชน์ในการปกครอง ดูแล บ ารุงรักษา โดยได้จ าแนกทะเบียนที่ราชพัสดุตามลักษณะการใช้ประโยชน์เป็น 4 ประเภท ดังนี้ 1. ทะเบียนทั่วไป ส าหรับขึ้นทะเบียนที่ดินและสิ่งปลูกสร้างของรัฐซึ่งปลูกเสร็จอยู่ในที่ดินของรัฐประเภทที่เป็นทรัพย์สินธรรมดา หรือประเภทที่เป็นทรัพย์สินที่ใช้ประโยชน์ส าหรับแผ่นดินโดยเฉพาะ
2. ทะเบียนเอกชน ส าหรับขึ้นทะเบียนสิ่งปลูกสร้าง ซึ่งปลูกสร้างอยู่บนที่ดินที่มิใช่เป็นที่ราชพัสดุ 3. ทะเบียนอุตสาหกรรม ส าหรับขึ้นทะเบียนที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่ใช้ประโยชน์เพ่ือการอุตสาหกรรม 4. ทะเบียนสาธารณะ ส าหรับขึ้นทะเบียนที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่ใช้ประโยชน์สาธารณะประเภทพลเมืองใช้ร่วมกัน
-1-
วัตถุประสงค์
ที่ราชพัสดุมีไว้เพ่ือใช้ประโยชน์ในทางราชการ แต่ถ้าที่ราชพัสดุแปลงใดไม่ได้ใช้ประโยชน์ในทางราชการหรือไม่ได้สงวนไว้เพ่ือประโยชน์ในราชการ กรมธนารักษ์จะน ามาจัดหาประโยชน์โดยการจัดให้เช่าหรือโดยวิธีการจัดท าสัญญาต่างตอบแทนอ่ืนนอกเหนือจากการจัดให้เช่าก็ได้ ส าหรับการจัดหาประโยชน์ในลักษณะใดขึ้นอยู่กับสภาพท าเลของที่ราชพัสดุ โดยค านึงถึงประโยชน์สูงสุดทางด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมเป็นส าคัญ
กำรได้มำซึง่ที่รำชพัสดุ
- รัฐประกาศสงวนไว้ใช้ในราชการ - ตกเป็นของรัฐบาลเนื่องจากค้างช าระภาษีอากร - รัฐบาลจัดซื้อด้วยเงินงบประมาณ - โบราณสถาน ก าแพงเมือง คูเมือง - ที่ดินเหลือเศษจากการเวนคืนซึ่งรัฐบาลต้องจ่ายเงินชดเชย - โดยค าสั่งนายกรัฐมนตรีตามธรรมนูญการปกครอง - เอกชนบริจาคให้ทางราชการ - โดยเข้าครอบครองใช้ประโยชน์ในที่ดินรกร้างว่างเปล่า - โดยเหตุอื่นๆ
ทีด่ินที่ไม่ใช่ท่ีรำชพัสดุ
- ที่สาธารณประโยชน์ - ที่บริจาค - ที่วัด , ที่ธรณีสงฆ์ - ที่ป่าสงวนแห่งชาติ
- ที่โรงเรียน - ที่ดินเขตอนุรักษ์ - ที่ซื้อเอง - ที่ อบจ./อบต.
- ที่ สปก. (ที่ดินที่รัฐให้ประชาชนครอบครอง - ที่นิคมสหกรณ์ เพ่ือปฏิรูปที่ดินเป็นพ้ืนที่ท ากิน) - ที่นิคมสร้างตนเอง - ที่อ่ืนๆ ที่ทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์
ผู้ถือกรรมสิทธิ์ที่รำชพัสดุ
กระทรวงกำรคลังเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ที่รำชพัสดุ บรรดาที่ราชพัสดุที่กระทรวง ทบวง กรมใด ได้มา โดยการเวนคืน หรือการแลกเปลี่ยน หรือโดยประการอื่น ให้กระทรวงการคลังเข้าถือกรรมสิทธิ์ในที่ราชพัสดุนั้น ทั้งนี้ ยกเว้นที่ดินที่ได้มาโดยการเวนคืนตามกฎหมายว่าด้วยการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม
กำรขอใช้ที่รำชพัสดุในทำงรำชกำร
การใช้ที่ราชพัสดุในทางราชการ คือ ให้กระทรวง ทบวง กรม องค์การปกครองส่วนท้องถิ่นหรือหน่วยงานของรัฐ หรือองค์กรอ่ืนของรัฐต่าง ๆ ใช้ประโยชน์เป็นอาคารสถานที่ราชการ เช่น เป็นที่ตั้งศูนย์ราชการ ที่ท าการ ศาลากลางจังหวัด โรงเรียน โรงพยาบาล ที่ว่าการอ าเภอ สถานีต ารวจ และใช้ราชการทหาร เป็นต้น ซึ่งเมื่อ ส่วนราชการใดต้องการใช้ที่ราชพัสดุก็สามารถด าเนินการขอใช้ที่ราชพัสดุจากกรมธนารักษ์ได้ ทั้ งนี้ เพ่ือเป็นการประหยัดเงินงบประมาณแผ่นดินในการจัดซื้อที่ดิน
-2-
กำรปกครองดูแลและบ ำรุงรักษำโดยท่ัวไป
1. ต้องดูแลบ ารุงรักษาเช่นวิญญูชนพึงสงวนทรัพย์สินของตนเอง กระทรวง ทบวง กรม หรือองค์กรปกครองท้องถิ่น ซึ่งได้รับอนุญาตให้ใช้หรือครอบครองที่ราชพัสดุ
จะต้องดูแลและบ ารุงรักษาที่ราชพัสดุเสมอด้วย“วิญญูชนพึงสงวนทรัพย์สินของตนเอง”ซึ่งหมายความว่า กรณีถ้าเป็นทรัพย์สินของตนเองมีการดูแลบ ารุงรักษาเช่นใด การบ ารุงดูแลรักษาที่ราชพัสดุก็ต้องปฏิบัติในท านองเดียวกันนั้นด้วย เช่น ป้องกันมิให้มีการบุกรุก หากมีผู้บุกรุกที่ราชพัสดุก็ต้องด าเนินการให้ผู้บุกรุกออกไปในทันที อาคารราชพัสดุช ารุดจ าเป็นต้องซ่อมแซม ก็ต้องขอตั้งงบประมาณมาด าเนินการให้อยู่ในสภาพเรียบร้อย เป็นต้น และจะต้องอนุญาตให้ผู้แทนของกรมธนารักษ์เข้าตรวจทรัพย์สินที่ได้รับอนุญาตให้ใช้หรือครอบครองเป็นครั้งคราว ในเวลาและระยะอันสมควร จะต้องท ารายงานการใช้เป็นรายปีเช่นเดียวกับรายการใช้เงินงบประมาณตามแบบรายงานที่กรมธนารักษ์ก าหนด
ในกรณีที่ปรากฏว่ากระทรวง ทบวง กรม หรือองค์กรปกครองท้องถิ่นใดมิได้ดูแลและบ ารุงรักษา ที่ราชพัสดุจนเป็นเหตุให้เห็นได้ว่าจะเกิดความเสียหายต่อที่ราชพัสดุนั้น กรมธนารักษ์สามารถแจ้งให้ส่วนราชการนั้น ๆ จัดการอย่างใดอย่างหนึ่งเพ่ือป้องกันหรือขจัดความเสียหายนั้น และถ้าหากไม่จัดการโดยไม่มีเหตุผลอันสมควร กรมธนารักษ์จะเรียกที่ราชพัสดุนั้นคืนก็ได้
2. เมื่อมีการปลูกสร้างต้องน าส่งขึ้นทะเบียนสิ่งปลูกสร้าง เมื่อได้ด าเนินการปลูกสร้างอาคารหรือสิ่งปลูกสร้างอ่ืนซึ่งเป็นที่ราชพัสดุลงในที่ราชพัสดุที่ได้รับอนุญาต
ให้ใช้ประโยชน์จะต้องส ารวจและส่งรายงานสิ่งปลูกสร้างนั้นตามแบบที่กรมธนารักษ์ก าหนด (แบบ ทบ.9) แล้วน าส่งกรมธนารักษ์ภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ปลูกสร้างเสร็จเพ่ือด าเนินการขึ้นทะเบียนที่ราชพัสดุ โดยในกรุงเทพมหานครให้น าส่งต่อกรมธนารักษ์ ส่วนจังหวัดอ่ืนให้น าส่งต่อจังหวัดนั้น ๆ เมื่อกรมธนารักษ์รับรายการสิ่งปลูกสร้างดังกล่าวขึ้นทะเบียนที่ราชพัสดุแล้ว จะแจ้งให้ผู้ใช้ที่ราชพัสดุทราบพร้อมทั้งส่งส าเนาทะเบียนมาไว้เป็นหลักฐาน
อนึ่ง หากปรากฏว่ายังมีสิ่งปลูกสร้างที่เป็นที่ราชพัสดุที่ยังมิได้ขึ้นทะเบียนที่ราชพัสดุต้องส ารวจรายการสิ่งปลูกสร้างนั้นน าส่งขึ้นทะเบียนที่ราชพัสดุด้วย ยกเว้น สิ่งปลูกสร้างในความครอบครองใช้ประโยชน์ของกระทรวง กลาโหมซึ่งยังใช้ราชการของกระทรวงกลาโหมอยู่
3. การท าลายหรือเปลี่ยนแปลงสภาพที่ราชพัสดุ การด าเนินการใด ๆ ในลักษณะที่เป็นการท าลายหรือเปลี่ยนแปลงสภาพที่ราชพัสดุ เช่น การตัดฟันต้นไม้
การขุดดิน การระเบิดหิน จะต้องขออนุญาตจากกรมธนารักษ์ก่อน เว้นแต่การด าเนินการดังกล่าวจะมีลักษณะเป็นการกระท าเพ่ือบ ารุงรักษาที่ราชพัสดุเสมือนเช่นวิญญูชนจะพึงด าเนินการในทรัพย์สินของตนเอง เช่น ต้นไม้ที่ราชพัสดุ แผ่ขยายกิ่งก้านกีดขวางอาคารหรือพาดสายไฟฟ้าอาจเป็นอันตรายจ าเป็นต้องตัดแต่งเพ่ือความสวยงามหรือ เพ่ือป้องกันอันตราย เป็นต้น กรณีเช่นนี้ส่วนราชการก็สามารถด าเนินการได้เอง
4. การระวังชี้แนวเขตและการรับรองแนวเขตที่ดิน ในกรณีที่มีการรังวัดตามประมวลกฏหมายที่ดินในกรุงเทพมหานคร กระทรวง ทบวง กรม หรือองค์กร
ปกครองส่วนท้องถิ่น ซึ่งเป็นผู้ปกครองดูแลหรือใช้ประโยชน์ในที่ราชพัสดุนั้นจะต้องร่วมกับกรมธนารักษ์เป็นผู้น า ท าการส ารวจรังวัด ให้ถ้อยค าต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ระวังชี้แนวเขตที่ดินและลงนามรับรองแนวเขตที่ดิน ส่วนในจังหวัดอ่ืนให้หัวหน้าส่วนราชการหรือหัวหน้าหน่วยงานของกระทรวง ทบวง กรม หรือองค์กรปกครอง ส่วนท้องถิ่นเป็นผู้ปฏิบัติการดังกล่าวร่วมกับราชพัสดุจังหวัด
-3-
กฎหมำยและระเบียบที่เกี่ยวข้องกับกำรปฏิบัติงำนที่รำชพัสดุ
1. พระราชบัญญัติที่ราชพัสดุ พ.ศ. 2518 2. กฎกระทรวง ออกตามความในพระราชบัญญัติที่ราชพัสดุ พ.ศ. 2518
- ฉบับที่ 11 (พ.ศ. 2537) - ฉบับที่ 14 (พ.ศ. 2542)
- ฉบับที่ 15 (พ.ศ. 2542) 3. ระเบียบส านักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ. 2535 และท่ีแก้ไขเพ่ิมเติม 4. หนังสือกรมธนารักษ์ ที่ กค 0407/ว 121 ลงวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2537 เรื่อง การขอใช้ที่ราชพัสดุ 5. กฎกระทรวงว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการปกครอง ดูแล บ ารุงรักษา ใช้ และจัดหาประโยชน์เกี่ยวกับ ที่ราชพัสดุ พ.ศ. 2545 6. กฎกระทรวงว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการปกครอง ดูแล บ ารุงรักษา ใช้ และจัดหาประโยชน์เกี่ยวกับ ที่ราชพัสดุ พ.ศ. 2545 (ฉบับปรับปรุง) 7. ระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการปกครอง ดูแล บ ารุงรักษา และการใช้ที่ราชพัสดุ พ.ศ. 2546 8. กฎกระทรวงว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการปกครอง ดูแล บ ารุงรักษา ใช้ และจัดหาประโยชน์เกี่ยวกับ ที่ราชพัสดุ (ฉบับที่ 2) และ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2549 9. กฎกระทรวงว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการโอนกรรมสิทธิ์ที่ราชพัสดุฯ พ.ศ. 2550 10. กฎกระทรวงว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการปกครอง ดูแล บ ารุงรักษา ใช้ และจัดหาประโยชน์เกี่ยวกับ ที่ราชพัสดุ (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2552 11. หนังสือกรมส่งเสริมการเกษตร ที่ กษ 1003/ว 1101 ลงวันที่ 9 กันยายน 2554 เรื่อง แนวทางปฏิบัติในการขออนุมัติรื้อถอนอาคารหรือสิ่งปลูกสร้าง 12. หนังสือกรมส่งเสริมการเกษตร ที่ กษ 1003/ว 1318 ลงวันที่ 23 พฤศจิกายน 2554 เรื่อง ขอให้ด าเนินการถอนสภาพที่ดินสาธารณประโยชน์ และข้ึนทะเบียนที่ดิน เป็นที่ดินส าหรับทบวงการเมือง 13. ระเบียบและหนังสือเวียนที่เก่ียวข้อง
-4-
กำรขอใช้ที่รำชพัสดุ
กฎหมำยและระเบียบที่เกี่ยวข้อง
1. พระราชบัญญัติที่ราชพัสดุ พ.ศ. 2518 2. กฎกระทรวงว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการปกครอง ดูแล บ ารุงรักษา ใช้ และจัดหาประโยชน์เกี่ยวกับ
ที่ราชพัสดุ พ.ศ. 2545 (ฉบับปรับปรุง) หมวด 2 การใช้ที่ราชพัสดุ ข้อ 14 3. การขอใช้ที่ราชพัสดุ หนังสือกรมธนารักษ์ ที่ กค 0407/ว 121 ลงวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2537 4. ระเบียบและหนังสือเวียนที่เกี่ยวข้อง
เมื่อหน่วยงานมีความต้องการขอใช้ที่ราชพัสดุ เพ่ือใช้ประโยชน์ในภารกิจของกรมส่งเสริมการเกษตร มีข้ันตอนด าเนินการ ดังนี้
ขั้นตอนกำรขอใช้ที่รำชพัสดุ ขั้นตอนที่ 1 กำรขอใช้ที่รำชพัสดุ
จังหวัด/เขต/ศูนย์ - ท าหนังสือขอใช้ที่ราชพัสดุถึงอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร พร้อมเอกสาร ดังนี้
1) รายละเอียดการขอใช้ที่ราชพัสดุ ตามแบบขอใช้ที่ราชพัสดุ (แบบ ทบ. 4) 2) รายละเอียดเกี่ยวกับโครงการใช้ประโยชน์ในที่ราชพัสดุที่ขอใช้ 3) ค าขอตั้งงบประมาณ หรือเอกสารแสดงการได้รับอนุมัติงบประมาณ 4) แผนผังแสดงการใช้ประโยชน์ที่ราชพัสดุแปลงที่มีการขอใช้ทั้งแปลงและแสดงการใช้ประโยชน์
บริเวณใกล้เคียง โดยจังหวัด/เขต/ศูนย์ต้องพิจารณาแผนผังดังกล่าวให้เหมาะกับสภาพท าเลและสอดคล้องกับแผนพัฒนาของจังหวัดและผังเมือง
5) แผนผังแสดงการใช้ประโยชน์ในที่ดินเฉพาะบริเวณที่ขอใช้ตามความเหมาะสมและจ าเป็น โดยขอให้มีมาตราส่วนถูกต้องตามหลักวิชาการและมีผู้ทรงคุณวุฒิรับรองแผนผัง
6) แผนที่สังเขปแสดงที่ตั้งที่ราชพัสดุและระยะห่างจากสถานที่ส าคัญของจังหวัด เช่น ศาลากลางจังหวัด ที่ว่าการอ าเภอ สถานีต ารวจ เป็นต้น
กองคลัง
1. ตรวจสอบเอกสารของจังหวัด/เขต/ศูนย ์ 2. เสนออธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตรเพ่ือพิจารณา
2.1 อนุญาตให้ด าเนินการเรื่องนั้น ๆ 2.2 มอบอ านาจให้จังหวัด/เขต/ศูนย์ด าเนินการ
2.2.1 ยื่นเรื่องขอใช้ที่ราชพัสดุกับส านักงานธนารักษ์พ้ืนที่ 2.2.2 รายงานผลการขอใช้ที่ราชพัสดุให้กรมส่งเสริมการเกษตรทราบภายใน 15 วัน นับจากวันที่
ส านักงานธนารักษ์พ้ืนที่อนุญาตให้ใช้ที่ราชพัสดุ 2.3 ลงนามหนังสือถึงจังหวัด/เขต/ศูนยน์ั้น ๆ เพ่ือทราบและด าเนินการ
-5-
ขั้นตอนที่ 2 กำรขอใช้ที่รำชพัสดุต่อส ำนักงำนธนำรักษ์พ้ืนที่
จังหวัด/เขต/ศูนย์ 1. เตรียมเอกสารตามขั้นตอนที่ 1 ข้อ 1) – ข้อ 6) ให้ถูกต้อง/ครบถ้วน 2. ยื่นเรื่องการขออนุญาตใช้ที่ราชพัสดุกับส านักงานธนารักษ์พ้ืนที่ 3. รายงานผลการได้รับอนุญาตให้ใช้ที่ราชพัสดุให้กรมส่งเสริมการเกษตรทราบภายใน 15 วัน นับจากวันที่
ส านักงานธนารักษ์พ้ืนที่อนุญาตให้ใช้ที่ราชพัสดุพร้อมเอกสาร ดังนี้ 3.1 ส าเนาทะเบียนที่ราชพัสดุ (แบบ ทร. 01) 3.2 ส าเนาการใช้ประโยชน์/รายการเปลี่ยนแปลงสถานะของที่ดิน (แบบ ทร. 01/1) 3.3 เอกสารที่เกี่ยวข้อง
4. บันทึก/ตรวจสอบข้อมูลที่ราชพัสดุในทะเบียนควบคุมที่ราชพัสดุและระบบทะเบียนสินทรัพย์ (รายการที่ดิน/สิ่งปลูกสร้าง)
กองคลัง
1. ตรวจสอบเอกสาร 2. บันทึกข้อมูลที่ราชพัสดุในทะเบียนควบคุมที่ราชพัสดุ 3. ตรวจสอบการบันทึกข้อมูลในระบบทะเบียนสินทรัพย์ (รายการที่ดิน/สิ่งปลูกสร้าง) 4. หากเอกสารและการบันทึกข้อมูลในระบบทะเบียนสินทรัพย์ไม่ถูกต้อง/ครบถ้วนแจ้งจังหวัด/เขต/ศูนย์
ส่งเอกสารเพ่ิมเติม/แก้ไขข้อมูลในระบบทะเบียนสินทรัพย์ 5. เสนออธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตรเพื่อทราบ
-6-
อนุญำต
ยื่นค ำร้อง
ตรวจสอบเอกสำรกำรขอใช้ที่รำชพัสด ุ
- อนุญาตให้ด าเนินการขอใช้ที่ราชพัสด ุ
- มอบอ านาจใหเ้กษตรจังหวัด/ผอ.เขต/ผอ.ศูนย ์
- ลงนามในหนังสือถึงจังหวัด/เขต/ศูนย์
แผนผังกำรขอใช้ที่รำชพัสดุ
กองคลัง กรมส่งเสริมกำรเกษตร
หน่วยงำนส่วนภูมิภำค จังหวัด/เขต/ศูนย์ ส ำนักงำนธนำรักษ์พ้ืนที่
-7-
แจ้งขอใช้ที่ราชพัสดุ
พิจารณาการขอใช้ ที่ราชพัสด ุ
ด าเนินการขออนุญาตใช้ ที่ราชพัสดุต่อส านักงาน
ธนารักษ์พื้นที ่
- บันทึกข้อมูลในทะเบียนควบคมุที่ราชพัสด ุ
- ตรวจสอบข้อมลูในระบบทะเบียนสินทรัพย ์
- รายงานกรมส่งเสริมการเกษตร
บันทึกข้อมูลในทะเบียนควบคมุ ที่ราชพัสดุและระบบทะเบียน
สินทรัพย ์
รายงานกรมส่งเสริมการเกษตร ภายใน 15 วัน
ไม่ถูกต้อง
ถูกต้อง
กำรขอขึ้นทะเบียนที่รำชพัสดุ
กฎหมำย/ระเบียบที่เกี่ยวข้อง
1. พระราชบัญญัติที่ราชพัสดุ พ.ศ. 2518 2. กฎกระทรวงว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการปกครอง ดูแล บ ารุงรักษา ใช้ และจัดหาประโยชน์เกี่ยวกับ
ที่ราชพัสดุ พ.ศ. 2545 (ฉบับปรับปรุง) หมวด 1 การปกครองดูแลและบ ารุงรักษาที่ราชพัสดุ ข้อ 5 และข้อ 6 3. การขอให้ด าเนินการถอนสภาพที่ดินสาธารณประโยชน์และขึ้นทะเบียนที่ดินเป็นที่ดินทบวงการเมือง
(หนังสือกรมส่งเสริมการเกษตร ที่ กษ 1003/ว 1318 ลงวันที่ 23 พฤศจิกายน 2554) 4. ระเบียบและหนังสือเวียนที่เกี่ยวข้อง
ขั้นตอนกำรขอขึ้นทะเบียนที่รำชพัสดุ จังหวัด/เขต/ศูนย์
1. ตรวจสอบท่ีดินก่อนกำรขึ้นทะเบียนที่รำชพัสดุ ซึ่งจะต้องเป็นที่ดิน ดังนี้ ก. ที่ดินสำธำรณประโยชน์ ต้องถอนสภาพและขึ้นทะเบียนเป็นที่ดินทบวงการเมืองให้เสร็จสิ้นก่อน
การขอขึ้นทะเบียนที่ราชพัสดุ ข. ที่ดินที่รำษฎรบริจำค ต้องท านิติกรรมรับโอนกรรมสิทธิ์ให้เสร็จสิ้นก่อน จึงด าเนินการขอขึ้นทะเบียน
ที่ราชพัสดุได ้ 2. กำรขอขึ้นทะเบียนที่รำชพัสดุให้ด ำเนินกำร ดังนี้ ที่ดิน
1) แจ้งรายการที่ดินที่ต้องขึ้นทะเบียนที่ราชพัสดุให้กรมส่งเสริมการเกษตรทราบเพ่ือมอบอ านาจ การข้ึนทะเบียนที่ราชพัสดุ
2) ยื่นแบบส ารวจรายการส่ง – รับที่ราชพัสดุขึ้นทะเบียน (แบบ ทร.03 แบบส ารวจรายการที่ดิน) ขอขึ้นทะเบียนที่ราชพัสดุกับส านักงานธนารักษ์พ้ืนที่
3) รายงานผลการขอขึ้นทะเบียนที่ราชพัสดุพร้อมเอกสารการข้ึนทะเบียนที่ราชพัสดุให้กรมส่งเสริม การเกษตรทราบภายใน 15 วัน นับจากวันที่ส านักงานธนารักษ์พ้ืนที่ได้ออกทะเบียนที่ราชพัสดุ
4) บันทึกข้อมูลที่ราชพัสดุลงในทะเบียนควบคุมที่ราชพัสดุและระบบทะเบียนสินทรัพย์
สิ่งปลูกสร้าง 1. แจ้งรายการสิ่งปลูกสร้างที่ต้องขึ้นทะเบียนที่ราชพัสดุให้กรมส่งเสริมการเกษตรทราบเพ่ือมอบอ านาจการขึ้นทะเบียนที่ราชพัสดุ 2. ยื่นแบบส ารวจรายการส่ง-รับที่ราชพัสดุขึ้นทะเบียนพร้อมแนบเอกสารกับส านักงานธนารักษ์พ้ืนที่ 2.1) อาคาร/สิ่งปลูกสร้าง ปลูกอยู่บนที่ดินราชพัสดุ ใช้แบบส ารวจรายการอาคาร/ สิ่งปลูกสร้าง ขึ้นทะเบียนที่ราชพัสดุ (แบบ ทร.04) หรือ 2.2) อาคาร/สิ่งปลูกสร้าง ปลูกอยู่บนที่ดินที่มิใช่ที่ราชพัสดุ ใช้แบบส ารวจรายการอาคาร/ สิ่งปลูกสร้างของรัฐที่ปลูกอยู่บนที่ดินที่มิใช่ที่ราชพัสดุ (แบบ ทร.05) 2.3) แผนผังแสดงสิ่งปลูกสร้าง 2.4) แผนที่แสดงที่ตั้ง
-8-
3. รายงานผลการขอขึ้นทะเบียนที่ราชพัสดุให้กรมส่งเสริมการเกษตรทราบภายใน 15 วัน นับจากวันที่ส านักงานธนารักษ์พ้ืนที่ออกทะเบียนที่ราชพัสดุ พร้อมเอกสารดังนี้
3.1) อาคาร/สิ่งปลูกสร้าง ปลูกอยู่บนที่ดินที่ราชพัสดุ - ส าเนาทะเบียนที่ราชพัสดุ (แบบ ทร. 01) - ส าเนาทะเบียนอาคาร/สิ่งปลูกสร้าง (แบบ ทร.01/2) - ส าเนาการใช้ประโยชน์/รายการเปลี่ยนแปลงสถานะของอาคาร/สิ่งปลูกสร้าง
(แบบ ทร.01/3) 3.2) อาคาร/สิ่งปลูกสร้าง ปลูกอยู่บนที่ดินที่มิใช่ที่ราชพัสดุ
- ส าเนาทะเบียนที่ราชพัสดุประเภทสิ่งปลูกสร้างของรัฐที่ปลูกอยู่บนที่ดินที่มิใช่ ที่ราชพัสดุ (แบบ ทร. 02)
- ส าเนารายละเอียดสิ่งปลูกสร้างของรัฐที่ปลูกอยู่บนที่ดินที่มิใช่ที่ราชพัสดุ (แบบ ทร.02/1)
- ส าเนาการใช้ประโยชน์/รายการเปลี่ยนแปลงสถานะของอาคาร/สิ่งปลูกสร้าง (แบบ ทร.02/2)
4. บันทึก/ตรวจสอบข้อมูลที่ราชพัสดุในทะเบียนควบคุมที่ราชพัสดุและระบบทะเบียนสินทรัพย์ (รายการที่ดิน/สิ่งปลูกสร้าง)
กองคลัง 1. ตรวจสอบเอกสารทะเบียนที่ราชพัสดุแล้วแต่กรณี ดังนี้
ที่ดิน 1) ส าเนาทะเบียนที่ราชพัสดุ (แบบ ทร. 01) 2) ส าเนาการใช้ประโยชน์/รายการเปลี่ยนแปลงสถานะของที่ดิน (แบบ ทร.01/1)
สิ่งปลูกสร้าง
- อำคำร/สิ่งปลูกสร้ำง ปลูกอยู่บนที่ดินรำชพัสดุ 1) ส าเนาทะเบียนที่ราชพัสดุ (แบบ ทร. 01) 2) ส าเนาทะเบียนอาคาร/สิ่งปลูกสร้าง (แบบ ทร. 01/2) 3) ส าเนาการใช้ประโยชน์/รายการเปลีย่นแปลงสถานะของอาคาร/สิ่งปลูกสร้าง (แบบ ทร.01/3)
- อำคำร/สิ่งปลูกสร้ำง ปลูกอยู่บนที่ดินที่มิใช่ที่รำชพัสดุ 1) ส าเนาทะเบียนที่ราชพัสดุประเภทสิ่งปลูกสร้างของรัฐที่ปลูกอยู่บนที่ดินที่มิใช่ที่ราชพัสดุ (แบบ ทร. 02) 2) ส าเนารายละเอียดสิ่งปลูกสร้างของรัฐที่ปลูกอยู่บนที่ดินที่มิใช่ที่ราชพัสดุ (แบบ ทร.02/1) 3) ส าเนาการใช้ประโยชน์/รายการเปลีย่นแปลงสถานะของอาคาร/สิ่งปลูกสร้าง (แบบ ทร.02/2)
2. บันทึกข้อมูลที่ราชพัสดุลงในทะเบียนควบคุมที่ราชพัสดุเพ่ือให้ถูกต้องตรงกับหน่วยงาน 3. ตรวจสอบข้อมูลในระบบทะเบียนสินทรัพย์ (รายการที่ดิน/สิ่งปลูกสร้าง) 4. หากเอกสารและการบันทึกข้อมูลในระบบทะเบียนสินทรัพย์ไม่ถูกต้อง/ครบถ้วนแจ้งจังหวัด/เขต/ศูนย์
ส่งเอกสารเพ่ิมเติม/แก้ไขข้อมูลในระบบทะเบียนสินทรัพย์ 5. เสนออธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตรเพ่ือทราบ
-9-
ยื่นค ำร้อง ออกทะเบียน
กรณีสิ่งปลูกสร้ำงใหม่ จังหวัด/เขต/ศูนย์
เมื่อจังหวัด/เขต/ศูนย์จัดจ้างปลูกสร้างอาคารหรือสิ่งปลูกสร้างอ่ืนเสร็จเรียบร้อยแล้ว ส่งส าเนาเอกสาร ให้กรมส่งเสริมการเกษตร เพ่ือสร้างรหัสสินทรัพย์และหักล้างบัญชีพักสินทรัพย์ ดังนี้
1. ใบสั่งซื้อ/สั่งจ้าง (Purchasing Order : PO) 2. เอกสาร SAP R/3 ของใบสั่งซื้อ/สั่งจ้าง 3. ใบขอเบิก (ขบ.01 หรือ ขบ.02) 4. เอกสาร SAP R/3 เอกสารการบัญชี 5. ใบตรวจรับที่คณะกรรมการลงนามตรวจรับและวันที่ตรวจรับที่ถูกต้อง 6. ใบส่งมอบงาน 7. เรื่องขออนุมัติจัดซื้อ/จัดจ้าง รายละเอียดคุณลักษณะเฉพาะของสิ่งปลูกสร้าง ปริมาณงานและวัสดุ เช่น แบบ ปร.4 และแบบ ปร.5 เป็นต้น
หมำยเหตุ ให้ถือปฏิบัติตามทีก่รมส่งเสริมการเกษตรไดม้อบอ านาจให้จังหวัด/เขต/ศูนย์ด าเนินการขอขึ้นทะเบียน ที่ราชพัสดุต่อส านักงานธนารักษ์พ้ืนที่
แผนผังกำรขอข้ึนทะเบียนที่รำชพัสดุ
กองคลัง กรมส่งเสริมกำรเกษตร
หน่วยงำนส่วนภูมิภำค จังหวัด/เขต/ศูนย์ ส ำนักงำนธนำรักษ์พ้ืนที่
-10-
ขึน้ทะเบียนท่ีราชพัสด ุด าเนินการขึ้นทะเบียนที่ราชพัสดุต่อส านักงานธนารักษ์พื้นที่
- บันทึกข้อมูลในทะเบียนควบคุมที่ราชพัสด ุ
- ตรวจสอบข้อมลูในระบบทะเบียนสินทรัพย ์
- รายงานกรมส่งเสริมการเกษตร
- บันทึกข้อมูลในทะเบียนควบคมุที่ราชพัสดุและระบบทะเบียนสินทรัพย ์
- รายงานกรมส่งเสริมการเกษตร ภายใน 15 วัน
รายการทีด่ิน/สิ่งปลูกสร้าง ที่ต้องแจ้งขึ้นทะเบียนที่ราชพัสด ุ- ตรวจสอบเอกสารการขอ
ขึ้นทะเบียนที่ราชพัสด ุ
- มอบอ านาจให้เกษตรจังหวัด/ผู้อ านวยการเขต/ผู้อ านวยการศูนย ์
กำรขอร้ือถอนอำคำรหรือสิ่งปลูกสร้ำง
กฎหมำย/ระเบียบที่เกี่ยวข้อง
1. พระราชบัญญัติที่ราชพัสดุ พ.ศ. 2518 2. กฎกระทรวงว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการปกครอง ดูแล บ ารุงรักษา ใช้ และจัดหาประโยชน์เกี่ยวกับ
ที่ราชพัสดุ พ.ศ. 2545 (ฉบับปรับปรุง) หมวด 2 การใช้ที่ราชพัสดุ ข้อ 19 ข้อ 20 และข้อ 22 3. ระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการปกครอง ดูแล บ ารุงรักษา และการใช้ที่ราชพัสดุ พ .ศ. 2546
หมวด 5 การจ าหน่ายอาคารหรือสิ่งปลูกสร้างที่จะท าการรื้อถอน วัสดุที่รื้อถอนแล้วหรือการจ าหน่ายต้นไม้ ดิน หรือวัสดุอื่น ๆ ที่ได้มาจากที่ราชพัสดุ ข้อ 21 และข้อ 22
4. แนวทางปฏิบัติในการขออนุมัติรื้อถอนอาคารหรือสิ่งปลูกสร้าง หนังสือกรมส่งเสริมการเกษตร ที่ กษ 1003/ว 1101 ลงวันที่ 9 กันยายน 2554
5. ระเบียบและหนังสือเวียนที่เกี่ยวข้อง
ขั้นตอนกำรขอร้ือถอนอำคำรหรือสิ่งปลูกสร้ำง ขั้นตอนที่ 1 กำรขอรื้อถอนอำคำรหรือสิ่งปลูกสร้ำง จังหวัด/เขต/ศูนย์
ให้จังหวัด/เชต/ศูนย์ พิจารณาเหตุผลความจ าเป็นและเพ่ือประโยชน์ของทางราชการเป็นส าคัญ - ท าหนังสือขออนุมัติรื้อถอนอาคารหรือสิ่งปลูกสร้างถึงอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร พร้อม
เอกสารประกอบการพิจารณา ดังนี้ 1. ส าเนาค าสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสอบหาข้อเท็จจริงตามระเบียบส านักนายกรัฐมนตรีว่าด้วย
การพัสดุ พ.ศ. 2535 ข้อ 156 แต่งตั้งโดยหัวหน้าส่วนราชการ (ผู้ว่าราชการจังหวัด) หากเป็นค าสั่งอ าเภอให้ส่งส าเนาค าสั่งมอบอ านาจของผู้ว่าราชการจังหวัดด้วยและรายงานผลการสอบหาข้อเท็จจริงโดยละเอียด
2. ข้อพิจารณาของจังหวัดพร้อมเหตุผลประกอบการรื้อถอนรวมทั้งประวัติอาคารหรือสิ่งปลูกสร้าง เช่น ปีที่ก่อสร้าง งบประมาณการก่อสร้าง สภาพอาคาร ค่าซ่อมแซม การขึ้นทะเบียนที่ราชพัสดุ
3. ส าเนาหลักฐานที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง เช่น - ส าเนาแบบรายการส่ง – รับ ที่ราชพัสดุขึ้นทะเบียน (แบบ ทบ. 9) หรือ
- ส าเนาทะเบียนที่ราชพัสดุ กรณีอาคาร/สิ่งปลูกสร้าง ปลูกอยู่บนที่ดินราชพัสดุ 1) ส าเนาทะเบียนที่ราชพัสดุ (แบบ ทร. 01) 2) ส าเนาทะเบียนอาคาร/สิ่งปลูกสร้าง (แบบ ทร. 01/2) กรณีอาคาร/สิ่งปลูกสร้าง ปลูกอยู่บนที่ดินที่มิใช่ที่ราชพัสดุ 1) ส าเนาทะเบียนที่ราชพัสดุประเภทสิ่งปลูกสร้างของรัฐที่ปลูกอยู่บนที่ดินที่มิใช่ที่ราชพัสดุ (แบบ ทร. 02) 2) ส าเนารายละเอียดสิ่งปลูกสรา้งของรัฐที่ปลูกอยู่บนที่ดินที่มิใช่ที่ราชพัสดุ (แบบ ทร. 02/1) หรือ
- ส านาหนังสือส าคัญส าหรับที่หลวง หรือ - ส าเนาหนังสือยืนยันกรณีท่ีดินซึ่งเป็นที่ตั้งของสิ่งปลูกสร้างเป็นที่ดินสาธารณประโยชน์
หรือ - ส าเนาหลักฐานการยินยอมให้ใช้ประโยชน์ที่ดินกรณีเป็นที่บริจาค หรือ - กรณีอาคารหรือสิ่งปลูกสร้างยังมิได้น าส่งขึ้นทะเบียนที่ราชพัสดุ ให้แจ้งว่า
ยังมิได้น าส่งขึ้นทะเบียนที่ราชพัสดุ -11-
4. ภาพถ่ายอาคารหรือสิ่งปลูกสร้างที่ขอรื้อถอน (ภาพสี) ทุกด้านท้ังภายในและภายนอก อย่างละ 1 ภาพ
5. ราคาประเมินการขอจ าหน่าย (โดยให้ผู้มีความรู้ความช านาญเป็นผู้ประเมินราคาข้ันต่ า) 6. แนวทางการใช้ประโยชน์จากท่ีดินอันเป็นที่ตั้งหลังการรื้อถอน 7. กรณีบ้านพักอาศัยของทางราชการให้ระบุสาเหตุของการไม่เข้าพักอาศัยของเจ้าหน้าที่
กองคลัง 1. ตรวจสอบเอกสารของจังหวัด/เขต/ศูนย์ 2. เสนออธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตรเพ่ือพิจารณา
2.1) อนุมัติให้รื้อถอนอาคารหรือสิ่งปลูกสร้าง 2.2) มอบอ านาจให้จังหวัด/เขต/ศูนย์ด าเนินการ
2.2.1) ยื่นเรื่องขออนุญาตรื้อถอนอาคารหรือสิ่งปลูกสร้างกับส านักงานธนารักษ์พ้ืนที่ 2.2.2) จ าหน่ายสิ่งปลูกสร้างโดยวิธีประมูลขายแล้วน าเงินส่งคลังเป็นรายได้กรมธนารักษ์
ประเภทค่าขายที่ดินและอาคารราชพัสดุ รหัสรายได้ 602 รหัสหน่วยงาน 03003 2.2.3) ให้รายงานผลการรื้อถอนอาคารหรือสิ่งปลูกสร้างให้กรมส่งเสริมการเกษตรทราบ
ภายใน 15 วัน นับจากวันที่ส านักงานธนารักษ์พ้ืนที่แจ้งรายการจ าหน่ายอาคารหรือสิ่งปลูกสร้างออกจากทะเบียน ที่ราชพัสดุ
2.3) ลงนามหนังสือถึงจังหวัด/เขต/ศูนยน์ั้น ๆ เพ่ือทราบและด าเนินการ
ขั้นตอนที่ 2 กำรด ำเนินกำรรือ้ถอนอำคำรหรือสิ่งปลูกสร้ำง จังหวัด/เขต/ศูนย์ 1. แจ้งส านักงานธนารักษ์พ้ืนที่เพ่ือขออนุญาตรื้อถอนอาคารหรือสิ่งปลูกสร้าง โดยยื่นแบบรายการแจ้งขอรื้อถอนอาคารหรือสิ่งปลูกสร้างที่เป็นที่ราชพัสดุ (แบบ ทบ. 3) 2. จ าหน่ายสิ่งปลูกสร้างโดยวิธีประมูลขาย แล้วน าเงินส่งคลังเป็นรายได้กรมธนารักษ์ประเภท ค่าขายที่ดินและอาคารราชพัสดุ รหัสรายได้ 602 รหัสหน่วยงาน 03003 3. ยืน่แบบแจ้งการรื้อถอนและจ าหน่ายอาคาร/สิ่งปลูกสร้าง (แบบ ทร. 11) ต่อส านักงานธนารักษ์พ้ืนที่ 4. รายงานผลการด าเนินการรื้อถอนอาคารหรือสิ่งปลูกสร้างให้กรมส่งเสริมการเกษตรทราบ ภายใน 15 วัน หลังจากด าเนินการเรียบร้อยแล้วพร้อมส าเนาเอกสารและหลักฐาน ดังนี้ 1) เอกสารการด าเนินการรื้อถอนและจ าหน่ายอาคารหรือสิ่งปลูกสร้าง 2) หลักฐานการจ าหน่ายอาคารหรือสิ่งปลูกสร้างออกจากทะเบียนที่ราชพัสดุ 3) ใบเสร็จรับเงินจากกรมธนารักษ์หรือหลักฐานการน าส่งเงินเป็นรายได้กรมธนารักษ์จากระบบ GFMIS 4) เอกสาร/หลักฐานที่เกี่ยวข้อง 5. เจ้าหน้าที่พัสดุลงจ่ายรายการอาคารหรือสิ่งปลูกสร้างออกจากทะเบียนควบคุมที่ราชพัสดุและระบบทะเบียนสินทรัพย ์(รายการที่ดิน/สิ่งปลูกสร้าง)
กองคลัง 1. ตรวจสอบเอกสาร 2. ลงจ่ายรายการอาคารหรือสิ่งปลูกสร้างออกจากทะเบียนควบคุมท่ีราชพัสดุ 3. ตรวจสอบข้อมูลในระบบทะเบียนสินทรัพย์ (รายการที่ดิน/สิ่งปลูกสร้าง) 4. หากเอกสารและการลงจ่ายรายการอาคารหรือสิ่งปลูกสร้างในระบบทะเบียนสินทรัพย์ไม่ถูกต้อง/
ครบถ้วน แจ้งจังหวัด/เขต/ศูนย์ ส่งเอกสารเพ่ิมเติม/แก้ไขข้อมูลในระบบทะเบียนสินทรัพย์ 5. เสนออธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตรเพ่ือทราบ
-12-
อนุญำต
ยื่นค ำร้อง
อนุญาต
แผนผังกำรขอร้ือถอนอำคำรหรือสิ่งปลูกสร้ำง
กองคลัง กรมส่งเสริมกำรเกษตร
หน่วยงำนส่วนภูมิภำค จังหวัด/เขต/ศูนย์ ส ำนักงำนธนำรักษ์พ้ืนที่
-13-
แจ้งขออนุมัติรื้อถอนอาคารหรือสิ่งปลูกสร้าง
พิจารณาการขอรื้อถอนอาคารหรือสิ่งปลูกสร้าง
ขออนุญาตรื้อถอนอาคารหรือสิ่งปลูกสร้างต่อส านักงานธนารักษ์พื้นที่
- ลงจ่ายรายการอาคารหรือสิ่งปลูกสร้างออกจากทะเบียนควบคุมที่ราชพัสด ุ
- ตรวจสอบข้อมลูในระบบทะเบียนสินทรัพย ์
- รายงานกรมส่งเสริมการเกษตร
- จ าหน่ายอาคารหรือสิ่งปลูกสร้าง
- น าเงินส่งคลังเป็นรายได้ กรมธนารักษ์
- รายงานกรมส่งเสริมการเกษตร ภายใน 15 วัน
- ลงจ่ายรายการอาคารหรือ สิ่งปลูกสร้างออกจากทะเบียนควบคุมที่ราชพัสดุและระบบทะเบียนสินทรัพย ์
ตรวจสอบเอกสำรกำรขออนุมัติ ร้ือถอนอำคำรหรือสิ่งปลูกสร้ำง - อนมุัติให้รื้อถอนอาคารหรือสิ่งปลูกสรา้ง - มอบอ านาจใหเ้กษตรจังหวัด/ ผอ.เขต/ผอ.ศูนย ์- ลงนามในหนังสือถึงจังหวัด/เขต/ศูนย์
ถูกต้อง
ไม่ถูกต้อง
กำรส่งคืนที่รำชพัสดุ
กฎหมำยและระเบียบที่เกี่ยวข้อง
1. พระราชบัญญัติที่ราชพัสดุ พ.ศ. 2518 2. กฎกระทรวงว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการปกครอง ดูแล บ ารุงรักษา ใช้ และจัดหาประโยชน์เกี่ยวกับ
ที่ราชพัสดุ พ.ศ. 2545 (ฉบับปรับปรุง) หมวด 4 การส่งคืนที่ราชพัสดุ ข้อ 34 ข้อ 35 และข้อ 36 3. การขอใช้ที่ราชพัสดุ หนังสือกรมธนารักษ์ ที่ กค 0407/ว 121 ลงวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2537 ข้อ 3 4. ระเบียบและหนังสือเวียนที่เกี่ยวข้อง
ขั้นตอนกำรขอส่งคืนที่รำชพัสดุ ขั้นตอนที่ 1 กำรขอส่งคืนที่รำชพัสดุ
จังหวัด/เขต/ศูนย์ 1. หน่วยงำนอ่ืนขอใช้ประโยชน์แบบถำวร กรณีมีหน่วยงานอ่ืนขอใช้ประโยชน์ที่ราชพัสดุ ซึ่งอยู่ในความดูแลครอบครองใช้ประโยชน์ของ
กรมส่งเสริมการเกษตรแบบถาวรและหน่วยงานผู้ดูแลไม่ขัดข้องในการให้ใช้ที่ราชพัสดุ ให้แจ้งความประสงค์มายังกรมส่งเสริมการเกษตร พร้อมเอกสาร ดังนี้
ที่ดิน 1) หนังสือขอใช้ที่ราชพัสดุจากหน่วยงานที่ขอใช้ พร้อมเหตุผลความจ าเป็น 2) ส าเนาทะเบียนที่ราชพัสดุ 3) จ านวนเนื้อที่ที่ขอใช้ 4) แผนที่แสดงที่ตั้งของที่ดินโดยสังเขป 5) แผนผังแสดงสิ่งปลูกสร้างทั้งหมดในที่ดิน 6) ภาพถ่ายสีบริเวณที่ขอใช้ 7) ความเห็นของหน่วยงาน
สิ่งปลูกสร้าง 1) หนังสือขอใช้ที่ราชพัสดุจากหน่วยงานที่ขอใช้ พร้อมเหตุผลความจ าเป็น 2) ส าเนาทะเบียนที่ราชพัสดุ 3) ส าเนาทะเบียนสิ่งปลูกสร้างหรือรายละเอียดสิ่งปลูกสร้าง 4) แผนผังแสดงสิ่งปลูกสร้างทั้งหมดในที่ดิน 5) แผนที่แสดงที่ตั้งของที่ดินโดยสังเขป 6) ภาพถ่ายสีสิ่งปลูกสร้างที่ขอใช้ 7) ความเห็นของหน่วยงาน
2. จังหวัด/เขต/ศูนย์ เลิกใช้ประโยชน์ กรณีจังหวัด/เขต/ศูนย์ได้รับแจ้งจากกรมธนารักษ์ขอให้ส่งคืนที่ราชพัสดุ เนื่องจากหน่วยงานไม่ได้
ใช้ประโยชน์ที่ราชพัสดุ ให้แจ้งกรมส่งเสริมการเกษตรพร้อมเอกสาร ดังนี้ 1) ส าเนาหนังสือส านักงานธนารักษ์พ้ืนที่/กรมธนารักษ์ 2) ส าเนาทะเบียนที่ราชพัสดุ 3) ภาพถ่ายสีที่ราชพัสดุ 4) แผนที่แสดงที่ตั้งของที่ดินโดยสังเขป 5) ระบุเหตุผลในการส่งคืน
-14-
6) หากหน่วยงานมีความจ าเป็นต้องใช้ที่ราชพัสดุต่อไปให้ชี้แจงเหตุผลและความจ าเป็นที่ต้องใช้ ที่ราชพัสดุเพื่อประโยชน์ในงานภารกิจกรมส่งเสริมการเกษตร
กองคลัง 1. ตรวจสอบเอกสาร 2. การส่งคืนที่ราชพัสดุ
อธิบดีกรมส่งเสริมกำรเกษตร กำรส่งคืนที่รำชพัสดุ 1. ให้ความยินยอมการใช้ที่ราชพัสดุ - หน่วยงานอื่นขอใช้ที่ราชพัสดุแบบถาวร 2. อนุมัติให้ส่งคืนที่ราชพัสดุ - จังหวัด/เขต/ศูนยเ์ลิกใช้ประโยชน์ที่ราชพัสดุ 3. มอบอ านาจให้เกษตรจังหวัด/ผู้อ านวนการเขต/ ผู้อ านวยการศูนย์ส่งคืนที่ราชพัสดุแทนอธิบดี กรมส่งเสริมการเกษตร
4. ลงนามหนังสือแจ้งจังหวัด/เขต/ศูนย์
ขั้นตอนที่ 2 กำรส่งคืนที่รำชพัสดุ
จังหวัด/เขต/ศูนย์ 1. แจ้งส านักงานธนารักษ์พ้ืนที่เพ่ือส่งคืนที่ราชพัสดุตามระเบียบของกรมธนารักษ์ พร้อมเอกสาร ดังนี้
1) แบบส่งคืนที่ราชพัสดุ (แบบ ทบ. 6) โดยกรอกรายละเอียดต่าง ๆ ให้ครบถ้วนสมบูรณ์ 2) แผนที่สังเขปแสดงที่ตั้งที่ราชพัสดุ
2. รายงานผลการด าเนินการส่งคืนที่ราชพัสดุให้กรมส่งเสริมการเกษตรทราบภายใน 15 วัน หลังจากด าเนินการเสร็จเรียบร้อยแล้ว พร้อมเอกสาร ดังนี้
1) ส าเนาแบบส่งมอบ – รับมอบที่ราชพัสดุ (แบบ ทบ. 10) 2) แผนที่สังเขปประกอบแบบ ทบ. 10 3) เอกสาร/หลักฐานที่เกี่ยวข้อง (ถ้าม)ี
3. เจ้าหน้าที่พัสดุลงจ่ายรายการที่ราชพัสดุในทะเบียนควบคุมที่ราชพัสดุและระบบทะเบียนสินทรัพย์ของ หน่วยงาน (รายการที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง)
กองคลัง 1. ตรวจสอบเอกสาร 2. เจ้าหน้าที่พัสดุลงจ่ายรายการที่ราชพัสดุในทะเบียนควบคุมที่ราชพัสดุ 3. ตรวจสอบการลงจ่ายรายการที่ราชพัสดุในระบบทะเบียนสินทรัพย์ (รายการที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง) 4. หากเอกสารและการลงจ่ายรายการในระบบทะเบียนสินทรัพย์ไม่ถูกต้อง/ครบถ้วน แจ้งหน่วยงาน
ส่งเอกสารเพ่ิมเติม/แก้ไขข้อมูลในระบบทะเบียนสินทรัพย์ 5. เสนอกรมส่งเสริมการเกษตรเพื่อทราบ
-15-
ยื่นแบบฯ
แจ้งรับคืน
แผนผังกำรส่งคืนที่รำชพัสดุ
กองคลัง กรมส่งเสริมกำรเกษตร
หน่วยงำนส่วนภูมิภำค จังหวัด/เขต/ศูนย์ ส ำนักงำนธนำรักษ์พ้ืนที่
-16-
แจ้งขอส่งคืนท่ีราชพัสด ุ- กรณี หน่วยงานอ่ืนขอใช้ประโยชน ์- กรณี เลิกใช้ประโยชน ์
รับคืนที่ราชพัสด ุด าเนินการส่งคืนท่ีราชพัสดุ ต่อส านักงานธนารักษ์พื้นที ่
- ลงจ่ายรายการที่ราชพัสดุ ในทะเบียนควบคุมที่ราชพัสด ุ
- ตรวจสอบข้อมลูในระบบทะเบียนสินทรัพย ์
- รายงานกรมส่งเสริมการเกษตร
- ลงจ่ายรายการในทะเบยีนควบคุมที่ราชพัสดุและ ระบบทะเบยีนสินทรัพย ์
- รายงานกรมส่งเสริมการเกษตร ภายใน 15 วัน
ตรวจสอบเอกสำรกำรขอส่งคนืที่รำชพัสดุ - ให้ความยินยอมในการใช้ที่ราชพัสดุกรณีหน่วยงานอ่ืนขอใช้ หรืออนุญาต ให้ส่งคืนที่ราชพัสดุกรณเีลิกใช้ประโยชน์
- มอบอ านาจใหเ้กษตรจังหวัด/ผอ.เขต/ผอ.ศูนย์ด าเนินการส่งคืนท่ีราชพัสดุ - ลงนามในหนังสือถึงจังหวัด/เขต/ศูนย์
ไม่ถูกต้อง
ถูกต้อง
กำรขอใช้ประโยชน์อำคำร/สิ่งปลูกสร้ำงแบบชั่วครำว
กรณีส่วนราชการอ่ืนขอใช้ประโยชน์อาคาร/สิ่งปลูกสร้างแบบชั่วคราว ซึ่งอาคาร/สิ่งปลูกสร้างนั้นยังอยู่ในความดูแล ครอบครองใช้ประโยชน์ของกรมส่งเสริมการเกษตร และจังหวัด/เขต/ศูนย์ผู้ดูแลไม่ขัดข้องในการให้ใช้ที่ราชพัสดุนั้น ให้ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ท่ีกรมส่งเสริมการเกษตรก าหนด ดังนี้
ขั้นตอนที่ 1 กำรขอใช้อำคำร/สิ่งปลูกสร้ำงแบบชั่วครำว
จังหวัด/เขต/ศูนย์ - แจ้งกรมส่งเสริมการเกษตร พร้อมเอกสาร ดังนี้
1. หนังสือขอใช้อาคาร/สิ่งปลูกสร้างจากหน่วยงานที่ขอใช้ พร้อมเหตุผลความจ าเป็น 2. ส าเนาทะเบียนที่ราชพัสดุ 3. ส าเนาทะเบียนอาคาร/สิ่งปลูกสร้างหรือรายละเอียดสิ่งปลูกสร้าง 4. แผนผังแสดงสิ่งปลูกสร้างทั้งหมดในที่ดิน 5. แผนที่แสดงที่ตั้งของที่ดินโดยสังเขป 6. ภาพถ่ายสีอาคาร/สิ่งปลูกสร้างที่ขอใช้ 7. เนื้อท่ีรวมบริเวณโดยรอบอาคาร/สิ่งปลูกสร้างที่ขอใช้ 8. ระยะเวลาที่ขอใช้คราวละไม่เกิน 3 ปี 9. ความเห็นของจังหวัด/เขต/ศูนย์ กองคลัง 1. ตรวจสอบเอกสารของหน่วยงาน 2. เสนออธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตรเพ่ือพิจารณา
2.1 อนุญาตให้ใช้อาคาร/สิ่งปลูกสร้าง 2.2 มอบอ านาจให้หัวหน้าหน่วยงานด าเนินการ 2.2.1 จัดท าบันทึกข้อตกลงการใช้อาคาร/สิ่งปลูกสร้าง 2.2.2 แจ้งส านักงานธนารักษ์พ้ืนที่เพ่ือทราบถึงการใช้ประโยชน์อาคาร/สิ่งปลูกสร้างเป็นการ
ชั่วคราวของหน่วยงานอื่น 2.3 ลงนามหนังสือถึงหน่วยงานนั้น ๆ เพ่ือทราบและด าเนินการ
ขั้นตอนที่ 2 กำรอนุญำตให้ใช้อำคำร/สิ่งปลูกสร้ำงแบบชั่วครำว
จังหวัด/เขต/ศูนย์ 1. จัดท าบันทึกข้อตกลงการใช้อาคาร/สิ่งปลูกสร้างกับหน่วยงานอื่นที่ขอใช้ 2. แจ้งส านักงานธนารักษ์พ้ืนที่เพ่ือทราบถึงการใช้ประโยชน์อาคาร/สิ่งปลูกสร้างเป็นการชั่วคราวของหน่วยงานอื่น 3. รายงานผลการด าเนินการให้กรมส่งเสริมการเกษตรทราบ ภายใน 15 วัน นับจากวันที่แจ้งส านักงานธนารักษ์พ้ืนที่ พร้อมส าเนาหลักฐาน ดังนี้ 1) บันทึกข้อตกลงการใช้อาคาร/สิ่งปลูกสร้างกับหน่วยงานอ่ืนที่ขอใช้ 2) ส าเนาหนังสือแจ้งส านักงานธนารักษ์พ้ืนที่เพ่ือทราบถึงการใช้ประโยชน์อาคาร/สิ่งปลูกสร้างเป็นการชั่วคราวของหน่วยงานอื่น 3) เอกสาร/หลักฐานที่เกี่ยวข้อง 4. บันทึกสภาพปัจจุบันของอาคาร/สิ่งปลูกสร้างในทะเบียนควบคุมที่ราชพัสดุและระบบทะเบียนสินทรัพย์ (รายการที่ดิน/สิ่งปลูกสร้าง)
-17-
ถูกต้อง
กองคลัง
1. ตรวจสอบเอกสาร 2. บันทึกสภาพปัจจุบันของอาคาร/สิ่งปลูกสร้างในทะเบียนควบคุมท่ีราชพัสดุ 3. ตรวจสอบข้อมูลในระบบทะเบียนสินทรัพย์ (รายการที่ดิน/สิ่งปลูกสร้าง) 4. หากเอกสารและการบันทึกสภาพปัจจุบันของอาคาร/สิ่งปลูกสร้างในระบบทะเบียนสินทรัพย์
ไม่ถูกต้อง/ครบถ้วนแจ้งหน่วยงานส่งเอกสารเพิ่มเติม/แก้ไขข้อมลูในระบบทะเบียนสินทรัพย์ 5. เสนออธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตรเพ่ือทราบ
แผนผังกำรขอใช้อำคำร/สิ่งปลูกสร้ำงแบบชั่วครำว
กองคลัง กรมส่งเสริมกำรเกษตร
หน่วยงำนส่วนภูมิภำค จังหวัด/เขต/ศูนย์ ส ำนักงำนธนำรักษ์พ้ืนที่
แจ้งขอใช้อาคาร/สิ่งปลูกสร้าง
ทราบใช้อาคาร/สิ่งปลูกสร้างแบบช่ัวคราว
แจ้งการอนุญาตให้ใช้อาคาร/ สิ่งปลูกสร้างแบบช่ัวคราวต่อส านักงานธนารักษ์พื้นที่เพื่อทราบ
- บันทึกข้อมูลที่ราชพัสดุในทะเบียนควบคุมที่ราชพัสด ุ
- ตรวจสอบข้อมลูในระบบทะเบียนสินทรัพย ์
- รายงานกรมส่งเสริมการเกษตร
- บันทึกข้อมูลในทะเบียนควบคมุที่ราชพัสดุและระบบทะเบียนสินทรัพย ์
- รายงานกรมส่งเสริมการเกษตร ภายใน 15 วัน
ตรวจสอบเอกสารการขอใช้อาคาร/ สิ่งปลูกสร้าง - อนุญาตให้หน่วยงานอ่ืนใช้อาคาร/ สิ่งปลูกสร้าง
- มอบอ านาจให้เกษตรจังหวัด/ผอ.เขต/ผอ.ศูนย์ด าเนินการ
1. จัดท าบันทึกข้อตกลงการใช้อาคาร/สิ่งปลูกสร้าง
2. แจ้งส านักงานธนารักษ์พื้นที่ เพือ่ทราบ
ไม่ถูกต้อง
-18-
ภำคผนวก