คู่มือปฐมพยาบาล ส...
TRANSCRIPT
คู่มือปฐมพยาบาลส�าหรับประชาชน
ฉบับจิตอาสาเฉพาะกิจด้านการแพทย์
คู่มือปฐมพยาบาลส�าหรับประชาชนฉบับจิตอาสาเฉพาะกิจด้านการแพทย์
3
ค�าน�า
การปฐมพยาบาลเป็นกิจกรรมที่คาดหวังให้จิตอาสาเฉพะกิจ
ด้านการแพทย์ มีความรู้ในเรื่องการปฐมพยาบาลเบื้องต้นและสามารถ
ช่วยเหลือผู ้ป่วยเพื่อหลีกเล่ียงและลดผลความรุนแรงจากภาวะฉุกเฉิน
ทั้งนี้การปฐมพยาบาลเป็นแนวทางที่ง่ายและสามารถป้องกันได้
คู ่มือปฐมพยาบาลนี้ได ้รวบรวมความรู ้และข้อแนะน�าในการ
ปฐมพยาบาลเบื้องต้นส�าหรับใช้ประโยชน์ในการดูแลรักษาผู้ป่วยที่เจ็บป่วย
ฉับพลัน ผู ้จัดท�าหวังว่าคู ่มือนี้จะเป็นประโยชน์และสามารถน�าไปใช้ได้
ตามสมควรหากมีข้อคิดเห็นขอน้อมรับด้วยความขอบคุณ
คู่มือปฐมพยาบาลส�าหรับประชาชนฉบับจิตอาสาเฉพาะกิจด้านการแพทย์
5
สารบัญ
หน้า
การปฐมพยาบาลเบื้องต้น 1
หลักการปฐมพยาบาล 1
การช่วยเหลือเมื่อพบผู้ป่วย 1
การช่วยเหลือเมื่อพบผู้ป่วยไม่หายใจและไม่มีชีพจร 1
การเป็นลม 1
การเป็นลมจากการเสียเหงื่อ 2
การเป็นลมจากความร้อน 2
สิ่งแปลกปลอมเข้าสู่ร่างกายผงฝุ่นเข้าตา 2
เลือดก�าเดาไหล 2
หกล้มแผลถลอก 3
ข้อเคล็ดข้อเท้าแพลง 3
ปฏิบัติการช่วยชีวิต 4
คู่มือปฐมพยาบาลส�าหรับประชาชนฉบับจิตอาสาเฉพาะกิจด้านการแพทย์
6
คู่มือปฐมพยาบาลส�าหรับประชาชนฉบับจิตอาสาเฉพาะกิจด้านการแพทย์
7
การปฐมพยาบาลเบื้องต้น
การให้การช่วยเหลือเบ้ืองต้นเมื่อพบอุบัติเหตุแก่ผู้บาดเจ็บก่อนน�าส่ง
โรงพยาบาลเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการบาดเจ็บเพิ่มขึ้นพิการหรือเสียชีวิต
วัตถุประสงค์1. เพื่อให้ผู้บาดเจ็บมีชีวิตรอด
2. เพื่อไม่ให้ผู้บาดเจ็บได้รับอันตรายเพิ่มขึ้น
3. เพื่อให้ผู้บาดเจ็บฟื้นกลับคืนสู่สภาพเดิมโดยเร็ว
หลักการปฐมพยาบาล1. อย่าตื่นเต้นตกใจ
2. สังเกตอาการผู้บาดเจ็บ
3. ให้การปฐมพยาบาลตามล�าดับความส�าคัญ
4. น�าส่งโรงพยาบาล
คู่มือปฐมพยาบาลส�าหรับประชาชนฉบับจิตอาสาเฉพาะกิจด้านการแพทย์
8
การช่วยเหลือเมื่อพบผู้ป่วย1. เรียกผู้ป่วย
2. ขอความช่วยเหลือ
3. พลิกตัวผู้ป่วย
4. ตรวจการหายใจ
5. ผู้ป่วยหายใจเองได้ให้นอนท่าที่ปลอดภัยคือนอนตะแคงกึ่งคว�า่
6. น�าส่งโรงพยาบาล
คู่มือปฐมพยาบาลส�าหรับประชาชนฉบับจิตอาสาเฉพาะกิจด้านการแพทย์
9
การช่วยเหลือเมื่อพบผู้ป่วยไม่หายใจและไม่มีชีพจร1. เปิดทางเดินหายใจกดหน้าผากยกคาง
2. ถ้ามีสิ่งแปลกปลอมในปากให้ล้วงออก
3. เป่าปาก2ครั้ง
4. ตรวจพบไม่มีชีพจรให้นวดหัวใจและเป่าปาก
5. เป่าปาก2ครั้งสลับการนวดหัวใจ15ครั้งตรวจชีพจรและการ
หายใจเป็นระยะๆ
คู่มือปฐมพยาบาลส�าหรับประชาชนฉบับจิตอาสาเฉพาะกิจด้านการแพทย์
10
การเป็นลม
หมายถึง การหมดความรู้สึกในช่วงสั้นๆ เนื่องจากเลือดไปเลี้ยง
สมองไม่เพียงพอ
อาการอ่อนเพลียวิงเวียนศีรษะหน้าซีดตัวเย็นชีพจรเบา
การปฐมพยาบาล
1. จัดให้นอนราบยกเท้าสูงกว่าล�าตัวเล็กน้อย
2. คลายเสื้อผ้าให้หลวม
3. ให้อยู่ในที่อากาศถ่ายเทได้สะดวก
คู่มือปฐมพยาบาลส�าหรับประชาชนฉบับจิตอาสาเฉพาะกิจด้านการแพทย์
11
การเป็นลมจากการเสียเหงื่อ หมายถึง เป็นลมจากการเสียเหงื่อ เป็นภาวการณ์สูญเสียน�้าและ
เกลือแร่ ในร่างกายทางเหง่ือหลังจากการท�างานหนักหรือออกก�าลังกาย
อย่างหักโหมในวันที่อากาศร้อนจัด
อาการ ปวดศีรษะ ผิวหนังเย็นซีดและชื้นอาจเป็นตะคริว มีเหงื่อ
ออกมาก
การปฐมพยาบาล
1. ให้ผู้ป่วยนอนราบพักในที่ร่มและเย็นหรือที่มีอากาศถ่ายเทได้ดี
2. ให้ดื่มน�้ามากๆ(ค่อยๆจิบ)หรือให้ดื่มน�้าผสมเกลือแร่
3. ถ้าอาการไม่ดีขึ้นควรรีบน�าส่งโรงพยาบาล
คู่มือปฐมพยาบาลส�าหรับประชาชนฉบับจิตอาสาเฉพาะกิจด้านการแพทย์
12
การเป็นลมจากความร้อน สาเหตุ เกิดจากร่างกายไม่สามารถระบายความร้อนออกได้
เนื่องจากอยู ่กลางแจ้งหรือในที่ร้อนจัดท�าให้กลไกขับเหงื่อของร่างกาย
ไม่ท�างาน
การปฐมพยาบาล
1. ให้ผู้ป่วยนอนราบในที่ร่มและเย็น
2. เช็ดตัวผู้ป่วยด้วยน�้าเย็นเพื่อให้ความร้อนลดลงให้เร็วที่สุด
3. ถ้าอาการไม่ดีขึ้นควรรีบน�าส่งโรงพยาบาล
คู่มือปฐมพยาบาลส�าหรับประชาชนฉบับจิตอาสาเฉพาะกิจด้านการแพทย์
13
สิ่งแปลกปลอมเข้าสู่ร่างกายผงฝุ่นเข้าตา การปฐมพยาบาล
1. เปิดลูกตาเพื่อหาสิ่งแปลกปลอม
2. ให้ล้างตาด้วยน�้าสะอาด
3. ถ้าฝุ่น ผง ติดที่ตาขาว ใช้ปลายผ้าสะอาดหรือปลายไม้พันส�าลี
เขี่ยเศษผงออก
4. ถ้าฝุ่นผงติดแน่นหรือติดตมด�าให้ปิดตาด้วยผ้าสะอาด
5. รีบน�าส่งโรงพยาบาล
ข้อห้าม
1.ห้ามขยี้ตาเพราะจะท�าให้ตาระคายเคืองเพิ่มมากขึ้น
2.ห้ามใช้ของมีคมหรือไม้เขี่ยเศษผงที่เข้าตา
คู่มือปฐมพยาบาลส�าหรับประชาชนฉบับจิตอาสาเฉพาะกิจด้านการแพทย์
14
เลือดก�าเดาไหล สาเหตุ มาจากการกระทบกระแทก การเป็นหวัด การสั่งน�้ามูก
การติดเชื้อในช่องจมูกหรือความหนาวเย็นของอากาศ
การปฐมพยาบาล
1. ให้ผู้ป่วยนั่งโน้มตัวไปด้านหน้า (ถ้าแหงนหน้าจะท�าให้เลือดไหล
ลงคอและอาเจียนได้)
2. ใช้มือบีบปลายจมูก และให้หายใจทางปากโดยบีบปลายจมูกไว้
10 นาที ให้คลายมือออกถ้าเลือดยังไหลต่อให้บีบต่ออีก 10 นาที ถ้าเลือด
ไม่หยุดใน30นาทีให้รีบน�าส่งโรงพยาบาล
3. ถ้ามีเลือดออกมาก ให้เด็กบ้วนเลือดหรือน�้าลายลงในอ่าง หรือ
ภาชนะที่รองรับ
4. เมื่อเลือดหยุดแล้วใช้ผ้าอุ่นเช็ดบริเวณจมูกและปาก
ข้อห้าม
1.ห้ามสั่งน�้ามูกแคะหรือขยี้จมูก
คู่มือปฐมพยาบาลส�าหรับประชาชนฉบับจิตอาสาเฉพาะกิจด้านการแพทย์
15
หกล้มแผลถลอก เมื่อหกล้มอาจมีแผลถลอกได้ เช่นที่บริเวณหัวเข่าข้อศอก เป็นต้น
แผลลักษณะนี้จะมีผิวหนังลอกหลุดมีเลือดออกเล็กน้อยอาจมีสิ่งสกปรกที่
แผลถ้าปล่อยทิ้งไว้อาจเกิดการติดเชื้อมีหนองได้
การปฐมพยาบาล
1. ล้างแผลด้วยน�้าสะอาดและสบู่ เพื่อให้สิ่งสกปรก เศษดิน หรือ
กรวดออกให้หมด
2. ใช้ผ้าสะอาดกดแผลห้ามเลือดให้หยุดไหล
3. ใส่ยาส�าหรับแผลสด
4.ปิดแผลด้วยพลาสเตอร์หรือผ้าสะอาด
ข้อห้าม
1.ห้ามสั่งน�้ามูกแคะหรือขยี้จมูก
คู่มือปฐมพยาบาลส�าหรับประชาชนฉบับจิตอาสาเฉพาะกิจด้านการแพทย์
16
ข้อเท้าเคล็ด ข้อเท้าแพลง ข้อเท้าเคล็ด ข้อเท้าแพลง เกิดจากการเคลื่อนไหวผิดท่า ท�าให้เกิด
การหมุนพลิกบิดของข้อเท้าเช่นเดินพลาดตกหลุมเหยียบก้อนหินถูก
กระแทกหรือของหล่นทับมักมีอาการปวดบวมเจ็บเคลื่อนไหวไม่ถนัดใน
ผู้สูงอายุส่วนมากจะมีกระดูกบริเวณข้อเท้าหักร่วมด้วย
การปฐมพยาบาล
1. ให้ข้อเท้าที่ได้รับบาดเจ็บอยู่นิ่งๆห้ามเดิน
2. ยกเท้าให้สูงเล็กน้อยเพื่อห้ามเลือดและลดบวม
3.ประคบด้วยความเย็นทันทีนานอย่างน้อย20นาทีห้ามประคบ
ด้วยความร้อนใน24ชั่วโมงแรก
4. ยึดข้อเท้าให้นิ่งด้วยผ้ายืดถ้าสวมรองเท้าผ้าใบหรือรองเท้าที่ผูก
ด้วยเชือกให้คลายเชือกผูกรองเท้าแต่ไม่ต้องถอดรองเท้า
5. ถ้าให้การปฐมพยาบาลแล้วอาการไม่ดีขึ้นให้รีบน�าส่งโรงพยาบาล
ข้อควรระวัง
ถ้ามีอาการปวด และบวมมากขึ้น เดินไม่ได้ แสดงว่ามีกระดูกหัก
ร่วมด้วยให้ปฐมพยาบาลเหมือนข้อเท้าหักแล้วรีบน�าส่งโรงพยาบาล
คู่มือปฐมพยาบาลส�าหรับประชาชนฉบับจิตอาสาเฉพาะกิจด้านการแพทย์
17
ปฏิบัติการช่วยชีวิต เวอร์ชั่น 2015 (CPR 2015)
สรุปแนวทางปฏิบัติการช่วยชีวิตปี ค.ศ.2015 ตาม guidelines
AmericanHeartAssociation,TheHeartAssociationofThailand
และThaiResuscitationCouncil
แนวทางการช่วยฟื้นคืนชีพปี2015ได้มีการปรับปรุงระบบการดูแล
ผู้ป่วยที่มีภาวะหัวใจหยุดเต้น โดยแบ่งเป็น ผู้ป่วยที่มีภาวะหัวใจหยุดเต้นใน
โรงพยาบาล (In-hospital cardiac arrest ; IHCAs) และผู้ป่วยที่มีภาวะ
หัวใจหยุดเต้นนอกโรงพยาบาล (Out-of-hospital cardiac arrests ;
OHCAs)โดยแบ่งห่วงโซ่แห่งการรอดชีวิตเป็น2ห่วงโซ่ดังนี้
คู่มือปฐมพยาบาลส�าหรับประชาชนฉบับจิตอาสาเฉพาะกิจด้านการแพทย์
18
เป็นห่วงโซ่แห่งการรอดชีวิตในโรงพยาบาลโดยจะเน้นที่การเฝ้าระวัง
ของบุคลากรทางการแพทย์ก่อนที่ผู้ป่วยจะเกิดภาวะวิกฤต ระบบการดูแล
จะขึ้นอยู่กับการประสานงานของหน่วยงานของหน่วยงานในโรงพยาบาล
เป็นห่วงโซ่แห่งรอดชีวิตนอกโรงพยาบาล เน้นการพึ่งพาชุมชนและ
ผู้เห็นเหตุการณ์ขณะนั้น ให้เร่ิมท�าการช่วยชีวิต รวมถึงการใช้เครื่องช็อก
ไฟฟ้าที่มีในสถานที่สาธารณะ
คู่มือปฐมพยาบาลส�าหรับประชาชนฉบับจิตอาสาเฉพาะกิจด้านการแพทย์
19
ในบทความนี้ขอกล่าวเฉพาะห่วงโซ่แห่งการรอดชีวิตนอกโรงพยาบาล
ที่เน้นให้ผู้เห็นเหตุการณ์เริ่มปฏิบัติการฟื้นคืนชีพให้เร็วที่สุด ก่อนอ่ืนอยากให้
ผู้อ่านรู้จักค�าศัพท์เหล่านี้ก่อน
Untrained Lay Rescuer คือประชาชนทั่วไปที่ไม่ได้รับการฝึก
อบรมCPR
TrainedLayRescuerคือประชาชนที่ได้รับการฝึกอบรมCPR
Emergency Dispatcher คือหน่วยงานท่ีรับเรื่อง หรือรับแจ้งเหตุ
ในประเทศไทยคือสถาบันการแพทย์ฉุกเฉิน1669
ท�าไมผู้อ่านต้องรู้จักค�าเหล่านี้ เพราะบุคลากรเหล่านี้คือหัวใจส�าคัญ
ในการช่วยชีวิตผู้บาดเจ็บที่เกิดภาวะหัวใจหยุดเต้นนอกโรงพยาบาลท่านจะ
เห็นว่า3ห่วงโซ่แรกเป็นหน้าที่หลักของlayrescuerโดยมีdispatcher
เป็นผู้ให้ค�าแนะน�าทางโทรศัพท์รวมทั้งเป็นผู้ประสานงานกับศูนย์EMSและ
แจ้งสถานที่เก็บเครื่องAEDรวมถึงการใช้เครื่องช็อกไฟฟ้าการเข้าถึงการใช้
เครื่องช็อกไฟฟ้าของlayrescuerต้องเร็วที่สุดเพราะนั่นหมายถึงการรอด
ชีวิตของผู้บาดเจ็บจะมีสูงขึ้นทันที
เวอร์ช่ัน 2015 เน้นเรื่องคุณภาพการช่วยชีวิตเป็นอย่างมาก
(QualityCPR)ด้วย4ค�านี้คือ
Rate : อัตราการปั๊มหัวใจ เปลี่ยนจากอย่างน้อย 100 ครั้งต่อนาที่
เปลี่ยนเป็นปั๊มอย่างน้อย100แต่ไม่ควรเกิน120ครั้งต่อนาที
Depth:การปั๊มในแต่ละครั้งเปลี่ยนจากการปั๊มให้ลึกอย่างน้อย5
ซม.(2นิ้ว)เป็นปั๊มให้ลึกอย่างน้อย5ซม.แต่ไม่ควรลึกเกิน6ซม.(2.4นิ้ว)
คู่มือปฐมพยาบาลส�าหรับประชาชนฉบับจิตอาสาเฉพาะกิจด้านการแพทย์
20
Recoil : ต้องไม่พักมือหรือปล่อยน�้าหนักไว้บนหน้าอกผู้บาดเจ็บ
ก่อนการปั๊มในครั้งต่อไปต้องปล่อยให้หน้าอกยกตัวขึ้นสุดก่อนกดในครั้งต่อ
ไปนั้นเอง
Position : ต�าแหน่งในการวางมือของการปั๊มต้องวางมือตรงส่วน
ล่างของกระดูกหน้าอก(lowerhalfofsternumbone)
นอกจากนั้น ต้องหยุดกดหน้าอกให้น้อยท่ีสุด เพ่ือเพิ่มจ�านวนคร้ัง
ของการกดหน้าอกให้ได้สูงที่สุดการรบกวนการกดหน้าอกควรเกิดขึ้นแค่ใน
ช่วงของการวิเคราะห์ดูคลื่นไฟฟ้าหัวใจ หรือการช่วยหายใจเท่านั้น ค่า
Chest compression fractionหรือสัดส่วนช่วงเวลาการกดหน้าอกเทียบ
กับช่วงเวลาในการท�าCPRทั้งหมดควรต้องมีค่ามากกว่า60
เวอร์ชัน2015เน้นการเข้าถึงเครื่องAED(AutomatedExternal
Defibrillator)ให้เร็วที่สุด จึงมีการเปลี่ยนชื่อจาก AED เป็น PAD (Public
access Defibrillator) เพื่อสร้างความรู ้สึกให้กับประชาชนว่าเครื่อง
ดังกล่าวสามารถใช้ได้แม้ประชาชนที่ไม่เคยได้รับการฝึกการใช้เครื่องมาก่อน
คู่มือปฐมพยาบาลส�าหรับประชาชนฉบับจิตอาสาเฉพาะกิจด้านการแพทย์
21
กระบวนการการช่วยชีวิตของ lay rescuer ค.ศ. 20151. ก่อนเข้าช่วยเหลือผู ้บาดเจ็บ ต้องประเมินสถานการณ์ความ
ปลอดภัยก่อนเสมอ
2. จากนั้นท�าการประเมินความรู้สึกตัวของผู้บาดเจ็บ หากพบว่า
หมดสติ ให้ร้องขอความช่วยเหลือจากบุคคลข้างเคียง หรือ โทรศัพท ์
ขอความช่วยเหลือ 1669 หากมีเครื่อง AED อยู่ใกล้ให้ว่ิงไปหยิบมาก่อน
หรือวานให้่บุคคลใกล้เคียงไปหยิบมา
3. ท�าการเช็คการหายใจและชีพจร ภายในเวลา 10 วินาที
หากพบว่าหยุดหายใจ หรือมีภาวะหายใจเฮือก (gasping) ให้เริ่มกระบวน
ช่วยฟื้นคืนชีพทันที
4. โดยเริ่มจากการปั๊มหัวใจ 30 ครั้ง สลับกับการเป่าปาก 2 ครั้ง
ต่อเนื่องจนกว่าจะมีมีทีมEMSหรือเครื่องช็อกไฟฟ้ามาถึง
5. หากมีเครื่องช็อกไฟฟ้ามาถึงให้รีบเปิดระบบใช้งานทันที
6. ปล่อยให้เครื่องช็อกไฟฟ้าวิเคราะห์คลื่นหัวใจ หากพบว่า
เป็นคล่ืนไฟฟ้าที่สามารถช็อกได้ให้ท�าการกดช็อกทันที และท�าการ CPR
ต่อจนครบ2นาทีหยุดให้เครื่องช็อกไฟฟ้าอีกครั้ง
7. กรณีที่เครื่องช็อกไฟฟ้าไม่พบคล่ืนที่สามารถช็อกได้ ให้ท�าการ
CPR ต่อจนครบ 2 นาทีเช่นกันแล้วจึงหยุดให้เครื่องวิเคราะห์คลื่นหัวใจ
อีกครั้ง
คู่มือปฐมพยาบาลส�าหรับประชาชนฉบับจิตอาสาเฉพาะกิจด้านการแพทย์
22
8. ท�าการ CPR อย่างต่อเนื่องจนกว่าทีม EMS จะมาถึงดัง Flow
ChartCPRด้านล่าง