บทที่ 7 การเคลื่อนที่แบบหมุน
TRANSCRIPT
บทท่ี 7
การเคล่ือนท่ีแบบหมุน
อ.ณภทัรษกร สารพฒัน์อ.ณภทัรษกร สารพฒัน์สาขาวิชาฟิสิกส์ คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลยัราชภฏัเทพสตรี ลพบรีุ
• ปริมาณตา่ง ๆ ท่ีเก่ียวข้องกบัการหมนุ
• ทอร์ก และโมเมนต์ความเฉ่ือยการเคลื่อนท่ีแบบหมนุ
• โมเมนความเฉ่ือยรอบแกนหมนุสมมาตร
• พลงังานจลน์ของการเคลื่อนที่แบบหนนุ
• โมเมนตมัเชิงมมุ และอตัราการเปลี่ยนโมเมนตมัเชิงมมุ
• การเคลื่อนที่ทัง้แบบเลื่อนที่ และแบบหมนุ
หวัขอ้บรรยาย
3
การเคล่ือนท่ีแบบหมุน และ แบบกล้ิง
( Rotational and rolling motion)
• เม่ือวตัถเุช่น ล้อหมนุรอบแกนของมนั การเคลื่อนท่ีของมันไม่สามารถวิเคราะห์โดยถือให้วัตถุเป็นอนภุาคได้เน่ืองจาก ณ เวลาหนึ่ง ส่วนต่าง ๆ ของวตัถุจะมีความเร็ว และความเร่งต่างกันด้วยเหตุนี ้จึงเป็นการสะดวกท่ีจะพิจารณาวัตถเุหล่านี ้คล้ายกับว่ามนัคืออนุภาคจ านวนมาก ซ่ึงอนุภาคแต่ละ
ตวัจะมีความเร็วและความเร่งเฉพาะตวั
4
การเคล่ือนท่ีแบบหมุน และ แบบกล้ิง
( Rotational and rolling motion)
• ในบทนีจ้ะถือวา่การหมนุของวตัถแุข็งเกร็ง รอบแกนท่ีอยู่กบัท่ี คือ การเคล่ือนท่ีแบบหมุนบริสุทธ์ิ ( pure
rotational motion )
• การหมุนของวัตถุจะวิเคราะห์ได้ง่ายมากขึน้ โดยสมมตุิให้วตัถเุป็น วตัถุแข็งเกร็ง (rigid object)
ซึ่งคือ วัตถุท่ีไม่สามารถเปลี่ยนรูปร่างได้หรืออาจกลา่วได้วา่ระยะหา่งของ อนภุาคทกุคูค่งท่ี
5
• 2p เรเดียน = 360o
• 1 เรเดียน = 57.3o
𝑠 = 𝑟𝜃 หรือ 𝜃 =𝑠
𝑟
• 𝐬 คือ การขจดัเชิงเสน้
(the linear displacement)
𝑟
𝑟
𝑄𝑦
𝑥
𝑆
𝜃𝑃
• การก าหนดพิกดัของอนภุาคโดยใช้พิกดัเชิงขัว้ (r,q)
7.1 ปริมาณต่าง ๆ ท่ีเก่ียวขอ้งกบัการหมุน
6
𝑟
𝑟
𝑄𝑦
𝑥
𝑆
𝜃𝑓𝑃
∆𝜃 = 𝜃𝑓 − 𝜃𝑖
• Dq คือ การขจดัเชิงมมุ(the angulardisplacement)
เมือ่ i = initial และ f = final
• อนภุาคบนวตัถแุข็งเกร็ง ท่ีก าลงัหมนุเคลื่อนท่ีจากจดุ P ไปยงัจดุ Q ตามแนวเส้นโค้งในช่วงเวลา Dt = tf-ti เวคเตอร์รัศมีกวาดเป็นมมุ Dq = qf- qi
𝜃 𝑖
7.1 ปริมาณต่าง ๆ ท่ีเก่ียวขอ้งกบัการหมุน
7
𝑟
𝑟
𝑄𝑦
𝑥
𝑆
∆𝜃𝑃
𝜔 =∆𝜃
∆𝑡=
𝜃𝑓 − 𝜃𝑖
𝑡𝑓 − 𝑡𝑖
• ω คือ อตัราส่วนของการกระจดัเชิงมุมต่อ
ช่วงเวลา (the angular speed )
เมือ่ i = initial และ f = final
• เรานิยามอตัราเร็วเชิงมุมเฉล่ีย ( the average angular speed : 𝜔 “omega bar ”)
7.1 ปริมาณต่าง ๆ ท่ีเก่ียวขอ้งกบัการหมุน
8
𝑟
𝑟
𝑄
𝑦
𝑥
𝑆
∆𝜃
𝑃
𝜔 = lim∆𝑡→0
∆𝜃
∆𝑡=
𝑑𝜃
𝑑𝑡
• อตัราเร็วเชิงมมุบดัดล (instantaneous angular speed) w คือลมิิตของอตัราสว่นของการขจดัเชิงมมุตอ่ช่วงเวลา Dt เม่ือ Dt เข้าสู่ศนูย์
• w มีหน่วยเป็น rad/s หรือ s-1 เน่ืองจาก radian ไมมี่มิติหน่วย
7.1 ปริมาณต่าง ๆ ท่ีเก่ียวขอ้งกบัการหมุน
𝜔
𝜔• w มีคา่เป็นบวกเม่ือ q มีคา่เพิ่มขึน้
(การเคลื่อนท่ีทวนเข็มนาฬิกา)
• w มีคา่เป็นลบเมื่อ q มีคา่ลดลง ( การเคลื่อนท่ีตามเข็มนาฬิกา)
7.1 ปริมาณต่าง ๆ ท่ีเก่ียวขอ้งกบัการหมุน
10
𝑟
𝑟
𝑄𝑦
𝑥
𝑆
∆𝜃𝑃
• อตัราเร่งเชิงมมุเฉลี่ย (the average angular acceleration :
a ) คืออตัราสว่นของการเปลี่ยนแปลงอตัราเร็วเชิงมมุ ตอ่ช่วงเวลา Dt
• a มีหน่วยเป็น rad/s2 หรือ s-2 เน่ืองจาก radian ไมมี่มิติหน่วย
𝛼 =∆𝜔
∆𝑡=
𝜔𝑓 − 𝜔𝑖
𝑡𝑓 − 𝑡𝑖
7.1 ปริมาณต่าง ๆ ท่ีเก่ียวขอ้งกบัการหมุน
𝜔
𝛼
• 𝛼 มีทิศเดียวกบั 𝜔 เม่ือหมนุเร็วขึน้กว่าเดมิ
• 𝛼 มีทิศตรงข้าม𝜔 เม่ือหมนุช้าลงกวา่เดิม
7.1 การขจดัเชิงมุม ความเร็ว และความเร่ง
(Angular Displacement Velocity and
Acceleration)
𝜔 𝛼
• ในการศกึษาการเคลื่อนท่ีเชิงเส้น พบว่ารูปแบบท่ีง่ายส าหรับการวิเคราะห์การเคลื่อนท่ีอย่างมีอัตราเร่ง คือการก าหนดให้อัตราเร่งมีค่าคงท่ี การเคลื่อนท่ีเชิงมมุก็เช่นกนั
𝛼 ≡ คงท่ี เช่นเดียวกบั 𝑎 ≡ คงท่ี
𝜔
7.1 ปริมาณต่าง ๆ ท่ีเก่ียวขอ้งกบัการหมุน
𝑣
การเคล่ือนท่ีเชิงเสน้ การเคล่ือนท่ีเชิงมุม
𝑣 = 𝑢 + 𝑎𝑡 𝜔𝑓 = 𝜔𝑖 + 𝛼𝑡
𝑠 = 𝑢𝑡 + 12𝑎𝑡 2 ∆𝜃 = 𝜔𝑖𝑡 + 1
2𝛼𝑡 2
𝑣2 = 𝑢2 + 2𝑎𝑠 𝜔𝑓2 = 𝜔𝑖
2 + 2𝛼(∆𝜃)
𝑠 =𝑣 + 𝑢
2𝑡 ∆𝜃 =
𝜔𝑓 + 𝜔𝑖
2𝑡
7.1 ปริมาณต่าง ๆ ท่ีเก่ียวขอ้งกบัการหมุน
14
นายสดใสซ่อมจักรยาน และทดลองหมุนล้อจักรยานดังรูปพบว่าจุด ก มีความเร็วเชิงมมุ 20 เรเดียนต่อวินาที และเม่ือเวลาผ่านไป 4 วินาที จดุ ก มีความเร็วเชิงมมุ 10 เรเดียนต่อวินาที จงหาก) ขนาดความเร่งเชิงมมุของล้อจกัรยานข) ในเวลา 4 วินาที หลงัจากเร่ิมหมนุล้อ จดุ ก เคลื่อนท่ีได้ก่ีรอบ และ
กวาดมมุท่ีศนูย์กลางได้ก่ีเรเดียนค) ล้อหยดุหลงัจากเร่ิมหนนุในเวลาเทา่ใด
ตวัอย่าง
15
วงล้ออนัหนึง่มีการหมนุด้วยความเร่งเชิงมมุคงท่ีเทา่กบั 3.5 rad/s2
ถ้าอตัราเร็วเชิงมมุของวงล้อคือ 2.00 rad/s ณ เวลา ti = 0 จงหาวา่ก) เม่ือวงล้อหมนุไป ณ. เวลา t = 2 s วงล้อจะหมนุได้มมุเทา่ไรข) เม่ือวงล้อหมนุไป ณ. เวลา t = 2 s วงล้อจะมีอตัราเร็วเชิงมมุ
เทา่ไร
ตวัอย่าง
16
เฟือง A รัศมี 100 มิลลิเมตร ขบกบัเฟือง B รัศมี 200 มิลลิเมตร ดงัรูป ถ้าเฟือง A หมนุด้วย ความเร็ว wA = 10 เรเดียนต่อวินาที ตามเข็มนาฬิกา เฟือง B จะหมนุด้วย ความเร็ว wB = ?
ตวัอย่าง
A
B
wA = 10 rad/s
wB = ?
17
ตามรูป นกัข่ีจกัรยานถีบจกัรยาน ท าให้จานหมนุหนึ่งรอบในเวลา 2 วินาที ถ้าจาน A, จาน B และล้อหลงั C มีรัศมี 10 เซนติเมตร , 2.5 เซนติเมตร และ 35 เซนติเมตรตามล าดบั จกัรยานจะวิ่งด้วยอตัราเร็วเทา่ใด
ตวัอย่าง
RA = 10 cm.
RA = 2.5 cm.
RC = 35 cm.
T = 2 s
18
𝑟
𝑦
𝑥
𝑣• พิจารณาจดุ P บนวตัถแุข็งเกร็งซึง่เคลื่อนท่ีเป็น
วงกลม เวกเตอร์ความเร็วเชิงเส้นจะสมัผสักบัเส้นทางการเคลื่อนท่ีวงกลมซึง่เรียกวา่ความเร็วในแนวเส้นสมัผสั (tangential velocity) ซึง่ขนาดของมนัมีคา่เทา่กบัอตัราเร็วในแนวเส้น
สมัผสั 𝑣 =𝑑𝑠
𝑑𝑡เม่ือ s คือระยะทางท่ีจดุ P
เคลื่อนท่ีได้ในเส้นทางการเคลื่อนท่ีแบบวงกลม มีขนาด 𝑠 = 𝑟𝜃 โดยท่ี r คือรัศมีซึง่มีคา่คงท่ีจะได้วา่
7.1 ปริมาณต่าง ๆ ท่ีเก่ียวขอ้งกบัการหมุน
19
𝑟
𝑦
𝑥
𝑎𝑟
𝑎𝑡
𝑣𝑡 =𝑑𝑠
𝑑𝑡= 𝑟
𝑑𝜃
𝑑𝑡= 𝑟𝜔
• จากความสมัพันธ์ของการกระจัดเชิงเส้น และเชิงมุม คือ 𝑠 = 𝑟𝜃 ดังนัน้ ความสัมพันธ์ของอัตราเ ร็วเชิงมมุ และอตัราเร็วเชิงเส้น ได้ดงันี ้
• จากความสมัพนัธ์ของอตัราเร็วเชิงเส้นและเชิงมุม คือ 𝑣𝑡 = 𝑟𝜔 ดงันัน้ ความสมัพนัธ์ของอตัราเร่งเชิงมมุ และอตัราเร่งเชิงเส้น ได้ดงันี ้
𝑎𝑡 = 𝑟𝑑𝜔
𝑑𝑡= 𝑟𝛼
7.1 ปริมาณต่าง ๆ ท่ีเก่ียวขอ้งกบัการหมุน
20
𝑟
𝑦
𝑥
𝑎𝑟• ดังนัน้อัตราเร่งของวัตถุท่ี P จะมีทัง้อัตราเร่งเข้าสู่
ศนูย์กลาง และ อตัราเร่งตามแนวสมัผสั สรุปได้วา่
• อตัราเร่งเข้าสูศ่นูย์กลาง
• อตัราเร่งตามแนวสมัผสั
𝑎
𝑎 = 𝑎𝑡2 + 𝑎𝑟
2 = 𝑟2𝛼2 + 𝑟2𝜔4 = 𝑟 𝛼2 + 𝜔4
𝑎𝑡
𝑎𝑡 = 𝑟𝑑𝜔
𝑑𝑡= 𝑟𝛼
𝑎𝑟 =𝑣2
𝑟= 𝑟𝜔2
7.1 ปริมาณต่าง ๆ ท่ีเก่ียวขอ้งกบัการหมุน
21
นกักีฬาขว้างจกัรถือจกัรห่างจากแกนหมนุรัศมี 80 ซม. นกักีฬาเร่ิมหมนุด้วยความเร็วเชิงมมุ 10 เรเดียนต่อวินาที และความเร่งมุม 50 เรเดียนต่อวินาที ความเร่งของจกัรท่ีนกักีฬาขณะนัน้เป็นเทา่ใด
ตวัอย่าง
𝑎𝑟
𝑎𝑎𝑡
22
บนแผ่น CD ข้อมลูของเสียงจะถกูบนัทกึลงในร่องและผิวเรียบบน CD ในรูปของเลขฐานสองเม่ือมีการอ่านโดยเคร่ืองเลน่ CD ข้อมลูจะถกูแปลกลบัไปเป็นคลื่นเสียง ร่องและพืน้ท่ีเรียบท่ีมีความยาวเท่ากันจะถูกอ่านโดยเลเซอร์และเลนส์ เพ่ือให้เวลาในการอ่านสญัญาณแต่ละสญัญาณมีค่าเท่ากนัทัว่ทัง้แผ่น ๆ อตัราเร็วเชิงเส้นของแผ่น ณ ต าแหน่งท่ีผ่านเลเซอร์ จะต้องมีค่าคงท่ี ดังนัน้อตัราเร็วเชิงมุมจะต้องมีค่าเปลี่ยนไปเม่ือระบบเลเซอร์มีการเปลี่ยนต าแหน่งตามแนวรัศมีถ้าแผ่น CD มีการหมนุทวนเข็มนาฬิกาและมีความเร็วของพืน้ผิวท่ีต าแหน่งเลเซอร์เป็น 1.3 m/s
ตวัอย่าง
23
ก) จงหาวา่อตัราเร็วเชิงมมุของแผ่นดิสก์เป็นก่ีรอบตอ่นาทีเม่ือเร่ิมต้นอา่นจาก track ด้านในซึง่มี r = 23 mm ออกไปยงั track ด้านนอกท่ีมี r = 58
mm
r = 23 mm
r = 58 mm
24
ข) ถ้าเวลามาตรฐานในการเลน่ CD คือ 77 นาที 33 วินาที ดิสก์จะเคลื่อนท่ีได้ก่ีรอบ
r = 23 mm
r = 58 mm
𝜏 = 𝑟 × 𝐹
26
7.2 ทอรก์ และโมเมนตค์วามเฉ่ือยการเคล่ือนท่ีแบบหมุน
• ทอรก์(Torque) คือ ผลคณูแบบเวกเตอร์
ของแรงกบัการกระจดัท่ีวดัจากจุดหมุน มี
หน่วยเป็น นิวตนัเมตร 𝐹
𝑦
𝑥
𝑧
𝑟
𝜏 o แรงที่ท าให้เกิดการหมนุจะต้องตัง้ฉากกบัรัศมีเท่านัน้
τ = 𝑟 ∙ 𝐹 sin 𝜃
27
• ทอรก์(Torque) คือ ผล
คณูแบบเวกเตอรข์องแรงกบั
การกระจดัท่ีวดัจากจุดหมุน
𝐹
𝑟
𝜃
แรงท่ีท าให้เกิดการหมนุจะต้องตัง้ฉากกับรัศมีเทา่นัน้
28
ออกแรงขนัสกรูดงัรูป กดด้วยแรง 150 นิวตนั ในแนวดิ่งผ่านปลายด้ามจบัประแจ และห่างจากจดุหมนุ 25 เซนติเมตร เม่ือด้ามจบัท ามมุ 30 องศา กบัแนวระดบั ทอร์กของการขนัสกรูเป็นเทา่ใด
ตวัอย่าง
150 N
30o
29
ทรงกระบอกชิน้หนึ่งลักษณะดังรูป มีส่วนของแกนโผล่ออกมาจากทรงกระบอกใหญ่ ทรงกระบอกหมุนอย่างอิสระรอบแกนกลาง มีเส้นเชือกคล้องรอบทรงกระบอกรัศมี R1 ออกแรง F1 กระท าไปทางขวาของทรงกระบอก ออกแรง F2 กับเส้นเชือกท่ีคล้องอยู่ ท่ีแกนซึ่งมีรัศมี R2 ในแนวดิ่ง ทอร์กสทุธิท่ีกระท าต่อทรงกระบอกรอบแกนหมนุ ( แกน z ) มีค่าเทา่ไร
ตวัอย่าง
𝑦
𝑥
𝐹1
𝐹2
𝑅1
𝑅2
• ดงันั้น 𝒎𝒓𝟐 เรียกว่า โมเมนตค์วามเฉ่ือย
(moment of inertia, 𝐼 ) คือ ปริมาณ
ของมวลตา้นการหมุนของวตัถุ มีหน่วยเป็น
กิโลกรมั เมตร2
𝜏 = 𝑚𝑟2𝛼 = 𝐼𝛼
• แทนค่าในสมการของ ทอรก์ ไดว่้า
𝐹 = 𝑚𝑎𝑡และ 𝑎𝑡 = 𝑟𝛼
30
7.2 ทอรก์ และโมเมนตค์วามเฉ่ือยการเคล่ือนท่ีแบบหมุน
𝑟1
𝑦
𝑥
𝑟2𝑟3
𝐼 = 𝑚1𝑟12 + 𝑚2𝑟2
2 + 𝑚3𝑟32
𝑚1
𝑚2𝑚3
31
วตัถมุวล 100 กรัม และ 200 กรัม ติดอยู่กบั ปลายทัง้สองของแท่งโลหะเบายาว 120 เซนติเมตร ดงัรูป จงหาโมเมนต์ความเฉ่ือยรอบแกน AB
ตวัอย่าง
120 cm
100 cm20 cm
100 g 200 g
32
ทรงกลมเลก็ ๆ 4 อนัยดึติดกบัมมุทัง้สี่ของกรอบ วางตวัอยู่ในระนาบ xy ดงัรูป โดยสมมตุิว่าทรงกลมมีรัศมีน้อยมากเม่ือเทียบกบัขนาดของกรอบ โมเมนต์ความเฉ่ือยของระบบเป็นเทา่ใด เม่ือก) แกนหมนุเป็นแกน xข) แกนหมนุเป็นแกน yค) แกนหมนุเป็นแกน z
ตวัอย่าง
a
m
a
m
m
m
bb
y
x
33
7.3 โมเมนความเฉ่ือยรอบแกนหมุนสมมาตร
ตาราง : โมเมนต์ความเฉ่ือยรอบแกนหมนุสมมาตรของวตัถรูุปทรงตา่งๆรปูร่างวตัถุ แกนหมุน รปู โมเมนตค์วามเฉ่ือย(I)
ทรงกลมตนัมวล mรัศมี R
รอบแกนผ่านศนูย์กลางมวล 𝐼 =2
5𝑚𝑅2
ทรงกลมกลวงมวล m
รัศมี Rรอบแกนผ่านศนูย์กลางมวล 𝐼 =
2
3𝑚𝑅2
𝑅
𝑅
34
7.3 โมเมนความเฉ่ือยรอบแกนหมุนสมมาตร
ตาราง : โมเมนต์ความเฉ่ือยรอบแกนหมนุสมมาตรของวตัถรูุปทรงตา่งๆ
รปูร่างวตัถุ แกนหมุน รปู โมเมนตค์วามเฉ่ือย(I)
ทรงกระบอกตนัมวล m รัศมี R
ยาว L
รอบแกนของทรงกระบอก 𝐼 =1
2𝑚𝑅2
ทรงกระบอกตนัมวล m รัศมี R
ยาว L
รอบแกนผ่านศนูย์กลางมวลตัง้ฉากกบัระนาบ
ทรงกระบอก𝐼 =
1
4𝑚𝑅2 +
1
12𝑚𝐿2
𝐿
𝑅
𝐿
𝑅
35
7.3 โมเมนความเฉ่ือยรอบแกนหมุนสมมาตร
ตาราง : โมเมนต์ความเฉ่ือยรอบแกนหมนุสมมาตรของวตัถรูุปทรงตา่งๆ
รปูร่างวตัถุ แกนหมุน รปู โมเมนตค์วามเฉ่ือย(I)
ทรงกระบอกกลวงมวล m รัศมี
ภายใน R1 รัศมีภายนอก R2
รอบแกนผ่านศนูย์กลางมวลตัง้ฉาก
กบัระนาบทรงกระบอก
𝐼 =1
2𝑚 𝑅1
2 + 𝑅22
วงแหวนบางมวลm รัศมีภายใน R
รอบแกนผ่านศนูย์กลางมวลตัง้ฉากกบัระนาบของวง
แหวน
𝐼 = 𝑚𝑅2
𝑅1
𝑅2
𝑅
36
7.3 โมเมนความเฉ่ือยรอบแกนหมุนสมมาตร
ตาราง : โมเมนต์ความเฉ่ือยรอบแกนหมนุสมมาตรของวตัถรูุปทรงตา่งๆรปูร่างวตัถุ แกนหมุน รปู โมเมนตค์วามเฉ่ือย(I)
วงแหวนบางมวลm รัศมีภายใน R
รอบแกนผ่านศนูย์กลางมวลบนระนาบวงแหวน
𝐼 =1
2𝑚𝑅2
แผ่นกลมบางมวลm รัศมี R
รอบแกนผ่านศนูย์กลางมวลตัง้ฉาก
กบัระนาบแผ่น𝐼 =
1
2𝑚𝑅2
𝑅
𝑅
37
7.3 โมเมนความเฉ่ือยรอบแกนหมุนสมมาตร
ตาราง : โมเมนต์ความเฉ่ือยรอบแกนหมนุสมมาตรของวตัถรูุปทรงตา่งๆ
รปูร่างวตัถุ แกนหมุน รปู โมเมนตค์วามเฉ่ือย(I)
แผ่นกลมบางมวลm รัศมี R
รอบแกนผ่านศนูย์กลางมวลบนระนาบแผ่นกลม 𝐼 =
1
4𝑚𝑅2
แท่งวตัถเุลก็มวลm รัศมี R
รอบแกนผ่านศนูย์กลางมวลตัง้ฉากกบัแท่ง 𝐼 =
1
12𝑚𝐿2
𝑅
𝐿
38
7.3 โมเมนความเฉ่ือยรอบแกนหมุนสมมาตร
ตาราง : โมเมนต์ความเฉ่ือยรอบแกนหมนุสมมาตรของวตัถรูุปทรงตา่งๆ
รปูร่างวตัถุ แกนหมุน รปู โมเมนตค์วามเฉ่ือย(I)
แท่งวตัถเุลก็มวล m รัศมี R
รอบแกนผ่านปลายตัง้ฉากกบัแท่ง 𝐼 =
1
3𝑚𝐿2
แผ่นวตัถรูุปสี่เหลี่ยมมวล m
กว้าง a ยาว b
รอบแกนผ่านศนูย์กลางมวลตัง้ฉากกบัระนาบแผ่น
วตัถุ
𝐼 =1
12𝑚 𝑎2 + 𝑏2
𝐿
𝑏
𝑎
39
7.3 โมเมนความเฉ่ือยรอบแกนหมุนสมมาตร
ตาราง : โมเมนต์ความเฉ่ือยรอบแกนหมนุสมมาตรของวตัถรูุปทรงตา่งๆ
รปูร่างวตัถุ แกนหมุน รปู โมเมนตค์วามเฉ่ือย(I)
แผ่นวตัถรูุปสี่เหลี่ยมมวล m
กว้าง a ยาว b
รอบแกนผ่านปลายตัง้ฉากกบั
ด้าน a𝐼 =
1
3𝑚𝑎2
แผ่นวตัถรูุปสี่เหลี่ยมมวล m
กว้าง a ยาว b
รอบแกนผ่านปลายตัง้ฉากกบั
ด้าน b𝐼 =
1
3𝑚𝑏2
𝑏
𝑎
𝑏
𝑎
40
• พิจารณาแท่งวตัถแุข็งเกร็ง มวล M ความยาว L ดงัรูป จงหาโมเมนต์ความเฉ่ือยของแท่งรอบแกนซึ่งตัง้ฉากกับแท่งซึ่งผ่านปลายด้านหนึ่ง (แกน y ในรูปท่ี)
ตวัอย่างท่ี : การประยุกตใ์ชท้ฤษฎีบทแกนขนาน
L
𝐼𝐶𝑀 =1
12𝑀𝐿2 𝐼 =?
𝐶𝑀
41
ระบบล้อกบัเพลาประกอบด้วยล้อมวล M1 รัศมี R ยดึติดกบัเพลามวล M2
รัศมี r ถ้าถ่วงน า้หนกัของมวล m ท่ีเชือกพนัรอบล้อ ดงัรูป ขนาดความเร่งเชิงมมุของล้อและเพลาเป็นเทา่ใด
ตวัอย่าง
𝑅
𝑟
𝑚
𝑀1
𝑀2
42
ทรงกระบอกกลวงบางมวล m รัศมี R กลิง้ลงพืน้เอียงท ามมุ q กบัแนวราบ โดยการกลิง้ไม่มีการไถล ศูนย์กลางมวลของทรงกระบอกกลวงจะมีขนาดความเร่งเชิงเส้นเทา่ใด
ตวัอย่าง
𝑁
43
7.4 พลงังานจลนข์องการเคล่ือนท่ีแบบหนุน
• พลงังานจลนข์องการหมุนรอบแกน z ของวตัถุแข็งเกร็ง ไดด้งัน้ี
𝐸 𝑘หมุน = 12𝐼𝜔2
𝐸𝑘เล่ือนท่ี = 1
2𝑚𝑣2
• พลงังานจลนข์องการเล่ือนท่ี
44
ม้าหมุนชุดหนึ่งมีโมเมนต์ความเฉ่ือยรอบแกนหมุนมนแนวดิ่ง 900 กิโลกรัม เมตร2 ถ้าผลกัให้หมนุรอบแกนหมนุนีใ้นอตัรานาทีละ 12 รอบ จงหาพลงังานจลน์ของม้าหมนุนี ้
ตวัอย่าง
45
มวล 1 กิโลกรัม และ 2 กิโลกรัม ผกูด้วยเชือกเบาตรึงกบัเสาซึง่อีกปลายยาว 2
เมตร และ 3 เมตร ตามล าดบั ทัง้ระบบหมนุรอบแกนตรึงซึง่อยู่ในแนวดิ่งกลางเสาด้วยความถ่ี 50 รอบต่อนาที จงหาพลงังานจลน์ของการหมนุรวมของมวลทัง้สอง โดยไมค่ิดโมเมนต์ความเฉ่ือยของเสา
ตวัอย่าง
1 kg
2kg
2 m
3 m
46𝑳 = 𝒎𝒓𝟐𝝎
7.5 โมเมนตมัเชิงมุม และอตัราการเปล่ียนโมเมนตมัเชิงมุม
𝑟m
𝐿
𝑣
𝑦
𝑥
𝑧
• โมเมนตมัเชิงมุม (Angular Momentum ; L) คือ ผลคณูระหวา่งโมนเมนต์ความเฉ่ือยกบัความเร็วเชิงมมุ
𝑳 = 𝒓 × 𝒑
𝒑
• เม่ือ 𝑝 = 𝑚𝑣 และ 𝑣 = 𝑟𝜔
• โมเมนตมัเชิงมุมขณะหน่ึง
(Instantaneous angular momentum)
• โมเมนตมัเชิงมุม
𝐿𝑖𝑛𝑖𝑡𝑖𝑎𝑙 = 𝐿𝑓𝑖𝑛𝑎𝑙
𝜔𝑖 < 𝜔𝑓
𝐼𝑖 > 𝐼𝑓
47
7.5 โมเมนตมัเชิงมุม และอตัราการเปล่ียนโมเมนตมัเชิงมุม
• กฎการอนุรกัษโ์มเมนตมัเชิงมุม (Law of conservation of angular
momentum) กล่าวได้ว่า ถ้าทอร์กหรือผลรวมทอร์กเน่ืองจากแรงภายนอกกระท าตอ่วตัถท่ีุก าลงัหมนุเทา่กบัศนูย์ ท าให้โมเมนตมัเชิงมมุของวตัถคุงตวั
𝜏รวม = 0
𝐿𝑖 = 𝐼𝑖 × 𝜔𝑖 𝐿𝑓 = 𝐼𝑓 × 𝜔𝑓
𝜔𝑖
𝐼𝑖
𝜔𝑓
𝐼𝑓
𝜔𝑝 =𝑚𝑔𝑟
𝐿
48
7.5 โมเมนตมัเชิงมุม และ อตัราการเปล่ียนโมเมนตมัเชิงมุม
𝑦
𝑥
𝑧
𝜃
𝐿
𝐿 sin 𝜃
Δ𝐿
Δ𝜙 =Δ𝐿
𝐿 sin 𝜃
𝑟𝑚𝑔
𝑟 sin 𝜃
τ = 𝑚𝑔 𝑟 sin 𝜃 =Δ𝐿
Δ𝑡
• การหมุนควง (precession) หมายถึง การหมนุของวตัถรุอบแกน โดยแกนในการหมนุก็หมนุเป็นวงกลมอยู่ด้วย
𝜔𝑝 =Δ𝜙
Δ𝑡
𝜔𝑝 =Δ𝐿
Δ𝑡 𝐿 sin 𝜃=
𝜏
𝐿 sin 𝜃=
𝑚𝑔 𝑟 sin 𝜃
𝐿 sin 𝜃
49
มวล 1 กิโลกรัม และ 2 กิโลกรัม ผกูด้วยเชือกเบาตรึงกบัเสาซึง่อีกปลายยาว 2
เมตร และ 3 เมตร ตามล าดบั ทัง้ระบบหมนุรอบแกนตรึงซึง่อยู่ในแนวดิ่งกลางเสาด้วยความถ่ี 50 รอบต่อนาที จงหาพลงังานจลน์ของการหมนุรวมของมวลทัง้สอง โดยไมค่ิดโมเมนต์ความเฉ่ือยของเสา
ตวัอย่าง
1 kg
2kg
2 m
3 m
50
จงหาขนาดของโมเมนตมัเชิงมมุของลกูโบลิง่มวล 6 กิโลกรัม รัศมี 12
เซนติเมตร ซึง่หมนุ 10 รอบตอ่วินาที ดงัรูปท่ีตวัอย่าง
51
มวล 2 อนัถกูแขวนอยูท่ี่รอกท่ีมีมวล แสดงดงัรูป จงหาความเร่งของระบบดงักลา่ว
ตวัอย่าง
m1
m2
𝑅𝑀
a
a aT1 T2
52
7.6 การเคล่ือนท่ีทัง้แบบเล่ือนท่ี และแบบหมุน
• การเคลื่อนที่ของวัตถุบางครัง้อาจมีการเคลื่อนที่แบบเลื่อนต าแหน่งร่วมกับการเคลื่อนที่แบบหมนุด้วย เช่น การเคลื่อนที่ของลกูบอล ลกูกอล์ฟ ลกูเทนนิส ลกูปิงปอง ล้อรถจกัรยาน ซึ่งเป็นการหมนุ รอบจุดศนูย์กลางมวล (เมื่อเคลื่อนที่อย่างอิสระ) และเป็นการหมนุรอบแกนคงตวั
พลงังานจลนข์องการกล้ิง
𝜔
𝑣K𝐸𝑅 = 1
2𝐼𝜔2
K𝐸𝑀 = 12𝑚𝑣2
พลังงานของการเคล่ือนท่ี
แบบเล่ือนต าแหน่ง
พลังงานจลน์ของการ
เคล่ือนท่ีแบบหมุน
K𝐸𝑡𝑜𝑡𝑎𝑙 = 12𝑚𝑣2 + 1
2𝐼𝜔2
53
ทรงกลมตนักลิง้ลงจากพืน้เอียงจงค านวณอตัราเร็วเชิงเส้นของศนูย์กลางมวลท่ีจุดต ่าสุดของพืน้เอียง และขนาดของอัตราเร่งเชิงเส้นของจุดศนูย์กลางมวล
ตวัอย่าง
M
M
h w
v
54
ทรงกลมตนัและกลอ่งมีมวลเท่ากนัมีความเร็วในแนวระนาบเท่ากนั ลกูบอลกลิง้โดยปราศจากการไถลและกล่องเกิดการไถลโดยไม่คิดแรงเสียดทานอยากทราบวา่วตัถชุนิดใดจะขึน้ไดสงูกวา่กนั
ตวัอย่าง
M v
M v
55
ทรงกลมตนักลิง้ลงจากพืน้เอียงจงค านวณอตัราเร็วเชิงเส้นของศนูย์กลางมวลท่ีจุดต ่าสุดของพืน้เอียง และขนาดของอัตราเร่งเชิงเส้นของจุดศนูย์กลางมวล
ตวัอย่าง
v
w
56
ทรงกลมตนัมวล 50 กรมั กลิง้ไปตามพืน้ราบด้วยอตัราเร็ว 8 เมตร/วินาที กลิง้มาถึงฐานของพืน้เอียง ซึ่งเอียงท ามมุ 30o กบัแนวราบ ถ้าไม่คิดพลงังานสญูหายไปเน่ืองจากความเสียดทาน จงหา(ก) พลงังานทัง้หมดของทรงกลมมีคา่เทา่ใด?
(ข) ทรงกลมกลิง้ขึน้ไปตามพืน้เอียงได้สงูจากพืน้ราบตามแนวดิ่งเทา่ใด?
ตวัอย่าง
50 g 8 m/s